รถไฟสำหรับคนรักสาเก: Koshino Shu*Kura
คุณเป็นคนหนึ่งที่รักสาเกหรือเปล่า? และคุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่ชอบดื่มด่ำกับกลิ่นของสาเกในโอกาสต่างๆ ? ถ้าคำตอบคือใช่ รถไฟ Koshino Shu*Kura (越乃Shu*Kura) คือรถไฟที่เหมาะกับคุณ! รถไฟ Koshino Shu*Kura เป็นรถไฟ Joyful Train ที่มาในธีมสาเกเพื่อนำเสนอสาเก (酒 สุราที่หมักจากข้าว) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดนีงาตะ โดยทริปบนรถไฟขบวนนี้เป็นทริปที่สนุกสนาน เต็มไปด้วยกิจกรรม การแสดง และวิวสวยงาม
ด้วยความที่เป็นผู้ผลิตสาเกอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะ (新潟県 Niigata-ken) จึงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตสาเกและข้าวที่ดีที่สุดในประเทศ ปัจจัยหลักอยู่ที่ปริมาณหิมะที่ตกเป็นปริมาณมากบนภูเขารอบจังหวัดนีงาตะในแต่ละปี และน้ำเป็นสิ่งสำคัญในการผลิตสาเกและข้าว ซึ่งหิมะสะอาดบริสุทธิ์ที่ละลายแล้วไหลลงมาจากภูเขาก็กลายเป็นน้ำสะอาดที่หล่อเลี้ยงนาข้าวให้โตอุดมสมบูรณ์ได้
รถไฟ Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
รถไฟ Koshino Shu*Kura ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำเสนอสาเกอร่อยของจังหวัดนีงาตะ และเพื่อมอบทริปที่สนุกสนานและเพลิดเพลินให้กับคุณ ตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2014 รถไฟขบวนนี้ได้สร้างฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น และเมื่อปีที่แล้ว รถไฟขบวนนี้ก็ได้ฉลองครบรอบปีที่ 5 ของการเปิดทำการ ด้านนอกของขบวนรถไฟตกแต่งเป็นสีน้ำเงินเข้มเพื่อสื่อถึงทะเลญี่ปุ่น ส่วนหน้าต่างบานใหญ่ของขบวนรถเปิดให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบริเวณจัดกิจกรรมบนรถ และเพื่อให้ผู้โดยสารได้มองเห็นวิวตระการตานอกรถไฟอีกด้วย
มาดูตู้รถที่ออกแบบมาเพื่อจัดกิจกรรมโดยเฉพาะกัน
พื้นที่จัดกิจกรรมบน Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
จากภายนอก รถไฟ Koshino Shu*Kura ดูเหมือนรถไฟทั่วไป แต่อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกหลอกคุณ เพราะภายในขบวนรถคือความพิเศษที่ซ่อนอยู่ สิ่งที่ฉันประทับใจมากที่สุดคือการออกแบบตู้รถจัดกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อสื่อถึงชื่อของรถไฟขบวนนี้! คำว่า Shu (酒) หมายถึงสาเก และ Kura (蔵) หมายถึงโรงเรือนที่เก็บรักษา ดังนั้นตู้รถกิจกรรมของ Koshino Shu*Kura จึงถูกสร้างมาเพื่อสื่อถึงบรรดาถังหมักสาเกในโรงหมัก
ผู้โดยสารทุกคนสามารถเข้าไปในพื้นที่จัดกิจกรรมได้ ดังนั้นถ้าคุณอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสีสันบนรถ คุณสามารถมานั่งในตู้รถนี้แทนที่จะนั่งอยู่บนที่นั่งของคุณได้ นอกจากนี้ ตู้รถนี้ยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมชิมสาเกและจัดการแสดงดนตรี และยังเป็นตู้รถที่มีเคาน์เตอร์จำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวด้วย
ชิมตัวอย่างสาเกจากโรงหมักท้องถิ่น
กิจกรรมชิมตัวอย่างสาเกบนรถไฟ Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
สำหรับคนรักสาเก หนึ่งในไฮไลท์ของ Koshino Shu*Kura ก็ต้องยกให้การชิมสาเกเลย! โดยทางโรงหมักจะจัดตัวอย่างให้ชิมต่างกันออกไปตามแต่ละวันทำการของรถไฟ และโดยทั่วไปทางโรงหมักก็จะเตรียมสาเกแบบต่างๆ ให้เราได้ลองกันด้วย
ถ้าคุณอยากเติมอีกแก้ว ไม่ต้องอาย คุณสามารถเดินไปที่โต๊ะจัดกิจกรรมเพื่อขอให้พนักงานเติมเครื่องดื่มในแก้วคุณได้เลย กิจกรรมชิมสาเกจะจัดเป็นเวลา 20 นาทีในช่วงที่รถไฟวิ่งระหว่างสถานี JR Kashiwazaki (柏崎駅) และสถานี JR Miyauchi (宮内駅)
เลือกซื้อของกิน เครื่องดื่ม และของที่ระลึกจากเคาน์เตอร์ Kuramori
เคาน์เตอร์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวบน Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
ถ้าการชิมตัวอย่างสาเกยังไม่พอ คุณสามารถไปที่เคาน์เตอร์ Kuramori (蔵守) บนขบวนรถที่จำหน่ายสาเกที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากเมืองต่างๆ ในนีงาตะ ที่เคาน์เตอร์จะมีชุดสาเกให้ลองดื่มได้ห้าชนิด โดยคุณสามารถเลือกชิมสาเกห้าชนิดใดก็ได้
คุณอาจจะเริ่มรู้สึกกรึ่มๆ ขึ้นมาบ้างจากการดื่มแอลกอฮอล์มาทั้งหมดนี้ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่ยังมีเบ็นโตะ (弁当 ข้าวกล่อง) และขนมขบเคี้ยววางจำหน่ายอยู่ ถ้าคุณกำลังอยากได้ของหวาน แนะนำให้ลองยุคิมุโระเจลาโต้ (雪室ジェラート) (330 เยน) รสมิโสะ ที่รวมรสหวานและเค็มกำลังดีเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นของหวานที่เข้ากันได้ดีกับสาเก
ชุดชิมสาเก (เครดิตรูปภาพ: JR East)
ตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ฉันอยากแนะนำคือชุดชิมสาเก (2,000 เยน) ที่มาพร้อมกับสาเกสามชนิดและเครื่องเคียง (おつまみ otsumami) ที่มักจะเสิร์ฟเป็นแซลมอนย่างชิ้นหนานุ่มอร่อย!
ของที่ระลึกจาก Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
ถ้าคุณอยากจะได้อะไรติดมือกลับไปเป็นที่ระลึก บนรถจะมีจอกสาเก Koshino Shu*Kura (700 – 1,800 เยน) สาเกสูตรต้นตำรับของ Koshino Shu*Kura (1,000 เยน) พวงกุญแจ (950 เยน) หรือแม้แต่ป้ายที่ระลึก (1,700 เยน) ให้เลือกซื้อกันได้
ถ้าคุณอยากได้ของที่ระลึกที่พิเศษหน่อย ฉันขอแนะนำสาเกไดกินโจ (大吟醸) ต้นตำรับของ Koshino Shu*Kura ที่มาในขวดไซส์พกพา 180 มล. ให้คุณนำกลับไปฝากครอบครัวและเพื่อนได้
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกัน!
พร๊อพถ่ายรูปบน Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
บนขบวนรถนั้นมีพร๊อพมากมายให้เราถือถ่ายรูปกันได้ เช่นป้ายที่เขียนว่า “越乃Shu*Kura乗ってるよ” ที่แปลได้ว่า “เรานั่งรถไฟ Koshino Shu*Kura อยู่นะ” นอกจากนี้คุณอาจจะได้พบเพื่อนใหม่ในกลุ่มผู้โดยสาร Koshino Shu*Kura ที่เป็นกันเองมากๆ และมักจะเข้ามาทักทายพูดคุย และช่วยถ่ายรูปให้อีกด้วย
นั่งชิลฟังเพลงแจ๊ส
การแสดงดนตรีแจ๊สบนขบวนรถ (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
อีกกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของ Koshino Shu*Kura คือการแสดงดนตรีแจ๊ส เพราะนอกจากจะได้ฟังดนตรีสดแล้ว นักดนตรียังเปิดรับรีเควสเพลงจากผู้ฟังอีกด้วย และผู้ฟังยังมีส่วนร่วมในการแสดงได้โดยการเขย่า Maracas รูปไข่ที่มีไว้ให้ผู้ฟังช่วยให้จังหวะกับนักดนตรีได้อีกด้วย
เข้าไปชมทะเลใกล้ๆ ที่สถานี JR Omigawa
ถ่ายรูปที่ระลึกที่สถานี Omigawa (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
รถไฟจะหยุดแวะเป็นเวลา 20 นาทีที่สถานี JR Omigawa (青海川駅) และคุณสามารถลงจากรถเพื่อไปชมวิวและถ่ายรูปได้ สถานี JR Omigawa เป็นสถานีรถไฟที่ใกล้ทะเลที่สุด (ในประเทศญี่ปุ่น) และในบางฤดูเช่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว คุณอาจจะได้ชมพระอาทิตย์ตกที่นี่เวลานั่ง Koshino Shu*Kura เที่ยวกลางวันเนื่องจากเวลากลางวันจะสั้นกว่าในช่วงสองฤดูนี้
การแสดงบนชานชาลาที่ Omigawa สถานีรถไฟที่ใกล้ทะเลที่สุด (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
นักแสดงดนตรีแจ๊สเองก็จะลงจากรถไฟเพื่อมาแสดงดนตรีบนชานชาลาสถานี Omigawa เช่นกัน คุณจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับดนตรีได้ขณะที่คุณกำลังดื่มด่ำกับวิวของทะเลญี่ปุ่น
ที่นั่งบนรถไฟ
ตู้รถคันที่ 3 ของ Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
รถไฟ Koshino Shu*Kura มีตู้รถทั้งหมด 3 คัน โดยตู้รถคันที่ 3 จะมีที่นั่งคู่แบบปกติพร้อมที่นั่งแบบโซฟาที่นั่งได้ตามอัธยาศัยตรงท้ายขบวนรถ ในบางโอกาส คุณจะได้พบปะกับพนักงานรถไฟที่เดินเข้าออกห้องคนขับอีกด้วย สำหรับตู้รถคันที่ 2 จะเป็นตู้รถจัดกิจกรรมที่ผู้โดยสารทุกคนสามารถเข้าไปได้
ตู้รถคันที่ 1 ของ Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
เช่นเดียวกันกับ KAIRI รถไฟ Koshino Shu*Kura เองก็มีแพ๊คเกจอาหารพิเศษหมือนกัน โดยตู้รถคันที่ 1 เป็นตู้รถพิเศษเฉพาะผู้โดยสารที่ซื้อแพ๊คเกจเท่านั้น โดยภายในตู้รถจะมีที่นั่งที่มาเป็นคู่ ที่นั่งที่หันเข้าหาหน้าต่าง และที่นั่งแบบพิเศษ (Boxed Seat)
แพ๊คเกจเดินทางของ Koshino Shu*Kura
แพ๊คเกจของ Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East)
ด้วยความเป็นรถไฟที่มาในธีมสาเก จุดเด่นของแพ๊คเกจของรถไฟขบวนนี้จึงเป็นสาเก! นอกจากอาหารแล้ว ในแพ๊คเกจอาหารยังมีข้าวที่ผลิตในท้องถิ่น (ผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆ ของนีงาตะ) เครื่องดื่ม Welcome Drink ที่เป็นสปาร์คลิ่งแอลกอฮอล์ และโอโชโกะที่มีสาเกประจำฤดูปริ่มจอก และขวดสาเกสูตรต้นรับของ Koshino Shu*Kura โดยโอโชโกะ (おちょこ) คือจอกสาเก และคุณสามารถเก็บโอโชโกะกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ในถุงผ้าที่แถมมาด้วย
ถ้าคุณเดินทางมากับผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุต่ำกว่า 20 ปี) หรือเพื่อนร่วมทางที่ไม่ดื่มสุรา อาหารเซ็ตนี้ก็มีเวอร์ชั่นปลอดแอลกอฮอล์ไว้รับรองด้วย โดยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ ชา และกาแฟแทน
แพ๊คเกจเดินทางจะมีราคาประมาณ 7,000 - 7,800 เยนสำหรับการเดินทางขาเดียว และประกอบด้วย:
- ค่าโดยสารรถไฟ
- ที่นั่งที่จองไว้
- มื้ออาหารบนรถ
- ของที่ระลึก (โอโชโกะ และถุงผ้าสำหรับใส่เครื่องดื่มแอลกฮอล์หรือเครื่องดื่มทั่วไป)
- เครื่องดื่ม
- เครื่องดื่ม Welcome Drink (น้ำผลไม้สำหรับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์)
- ขวดสาเก (ขวดชาและข้าวเกรียบสำหรับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์)
- น้ำเปล่าขวดหนึ่ง
- สาเกใส่โอโชโกะ (เซ็ตโดนัทและกาแฟสำหรับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์)
คุณสามารถจองแพ๊คเกจท่องเที่ยวได้ที่ JR East Travel Service Center ณ สถานีหลักเช่นสถานี Tokyo สถานี Ueno สถานี Shinjuku และอีกมากมาย โดยที่สถานีหลักจะมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้คอยช่วยเหลือคุณในทุกเรื่องของการเดินทาง
การท่องเที่ยวไปกับ
(Video credit: JR East Niigata Branch Office)
Ponshukan
Ponshukan ที่สถานี Nagaoka (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
Ponshukan เป็นจุดที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักสาเก! ถ้าคุณมีเวลาระหว่างรอรถไฟที่สถานี JR Nagaoka สถานี Echigo-Yuzawa หรือสถานี Niigata แนะนำให้ลองแวะไปที่ Ponshukan (ぽんしゅ館) ร้านเก๋ไก๋ที่คุณสามารถลองชิมสาเกอย่างจุใจได้ เพียงจ่าย 500 เยนคุณก็จะได้เหรียญห้าเหรียญมา ซึ่งคุณสามารถใช้เหรียญนั่นหยอดเครื่องชิมสาเกที่มีมากกว่า 100+ เครื่องในร้านได้
ลองชิมสาเกที่ Ponshukan (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
เพียงวางถ้วยของคุณ ณ จุดที่ทำเครื่องหมายไว้ แล้วใส่เหรียญตามจำนวนที่กำหนดไว้ลงไป เครื่องก็จะเติมสาเกให้คุณจนเต็มถ้วย โดยที่นี่มีสาเกหลายชนิดที่คัดมาจากทั่วทั้งนีงาตะให้คุณได้เลือก ถ้าชิมแล้วถูกใจสาเกตัวไหน ก็สามารถซื้อสาเกตัวนั้นที่ Ponshukan ได้เลย
ที่ Ponshukan ยังมีเกลือและมิโสะหลายชนิดจัดเตรียมไว้ให้เพื่อช่วยเสริมรสให้กับสาเกด้วย
ทัวร์โรงหมักสาเก
การชิมสาเกในทัวร์โรงหมัก (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
ถ้าคุณมีเวลาเหลือ ลองไปทัวร์โรงหมักสาเกดูไหมคะ? นีงาตะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสาเกอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และมีโรงหมักมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเราจะสามารถพบเห็นโรงหมักสาเกได้ทั่วจังหวัด โดยบางโรงหมักมีบริการพาทัวร์ให้เข้าไปเรียนรู้เกี่ยวกับการทำสาเก พร้อมชิมและซื้อสาเกและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ของโรงหมักได้ ทั้งนี้ บางแห่งอาจต้องมีการจองทัวร์ล่วงหน้า และทัวร์ส่วนมากจะมีการบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น
นี่คือลิสต์โรงหมักบางแห่งที่สามารถเดินไปได้จากสถานีรถไฟ:
Imayo Tsukasa Shuzo (今代司酒造) – เดิน 15 นาทีจากสถานี JR Niigata
Kiminoi Shuzo (君の井酒造) – เดิน 10 นาทีจากสถานี JR Arai
Hara Shuzo (原酒造) – เดิน 8 นาทีจากสถานี JR Kashiwazaki
Shirataki Shuzo (白瀧酒造) – เดิน 4 นาทีจากสถานี JR Echigo-Yuzawa
NIIGATA SHUPOPPO
ด้วยจุดประสงค์ที่มุ่งเน้นนำเสนอพื้นที่นีงาตะผ่านผลิตภัณฑ์หลักซึ่งได้แก่ ข้าวและสาเก ปัจจุบัน NIIGATA SHUPOPPO มีสาเกจุนไมกินโจ (純米吟醸) ทั้งหมดสี่ชนิด ทั้งหมดล้วนผลิตจากข้าวต่างๆ ของ JR Niigata Farm’s Gohyakumangoku (五百万石)
NIIGATA SHUPOPPO (เครดิตรูปภาพ: JR East)
แม้ว่าข้าวที่ถูกใช้ผลิตสาเกจะเหมือนกัน และถูกสีที่ระดับเดียวกัน แต่โรงหมักทั้งสี่ต่างคิดค้นสาเกของตัวเองขึ้นมา ซึ่งต่างมีกลิ่นและรสเฉพาะตัวของตัวเอง โดยโรงหมักทั้งสี่นี้คือ Tsurukame (鶴亀) Imayo Tsukasa (今代司) Kiminoi (君の井) และ Yoshinogawa (吉乃川)
แบรนด์เดียว หลากรสชาติ คือหัวใจของ NIIGATA SHUPOPPO ถ้าคุณเป็นแฟนสาเกตัวยง ลองไปดูสินค้าของ NIIGATA SHUPOPPO ได้ในทริปนีงาตะครั้งหน้า และบางครั้ง สาเกของ NIIGATA SHUPOPPO ก็ถูกนำมาเสิร์ฟบน Koshino Shu*Kura ด้วย (ในบางฤดูกาล) และคุณยังสามารถหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ NewDays ที่พบได้ตามสถานีหลักในจังหวัดนีงาตะ
จะขึ้น Koshino Shu*Kura ได้อย่างไร
กำหนดการ
Koshino Shu*Kura ให้บริการเที่ยวไป-กลับหนึ่งเที่ยวต่อวัน ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการญี่ปุ่น โดยให้บริการระหว่างสถานี JR Joetsumyoko (上越妙高駅) ในจังหวัดนีงาตะ และสถานี JR Niigata (新潟駅) หรือสถานี JR Echigo-Yuzawa (越後湯沢駅) หรือสถานี JR Tokamachi (十日町駅) ที่ต่างอยู่ในสถานีนีงาตะเช่นกัน คุณสามารถเช็คตารางและกำหนดการได้ที่นี่ ที่นั่งทั้งหมดบนรถไฟขบวนพิเศษนี้เป็นที่นั่งที่ต้องจองเท่านั้น คุณสามารถจองที่นั่งได้ที่นี่ และคุณสามารถนั่งตู้รถคันที่ 2 และ 3 ได้ฟรีถ้าคุณมี JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
เส้นทาง
เส้นทางของ Koshino Shu*Kura (เครดิตรูปภาพ: JR East)
เส้นทางของรถไฟ Koshino Shu*Kura มีทั้งหมดสามทาง ฉันขอแนะนำให้เช็คกำหนดการเพื่อดูว่าเส้นทางไหนที่ให้บริการบ้างในวันที่คุณเดินทาง โดยชื่อรถไฟจะเปลี่ยนไปตามทางแต่ละเส้น
- Koshino Shu*Kura (越乃Shu*Kura): ga Jо̄etsumyо̄kо̄ ⇄ ga Tо̄kamachi
- Yuzawa Shu*Kura (ゆざわShu*Kura): ga Jо̄etsumyо̄kо̄ ⇄ ga Echigo-Yuzawa
- Ryuto Shu*Kura (柳都Shu*Kura): ga Jо̄etsumyо̄kо̄ ⇄ ga Niigata
JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
ตั๋ว JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) แบบใหม่และพื้นที่ที่ตั๋วครอบคลุม (เครดิตรูปภาพ: JR East)
ถ้าคุณมีแพลนเที่ยวนากาโนะและนีงาตะ เราขอแนะนำ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) ตั๋ว Pass ราคาย่อมเยาที่ปลดล็อคการเดินทางด้วยรถไฟแบบไม่จำกัดในเส้นทาง JR East (รวมถึงชินกันเซ็นด้วย) โดยคุณสามารถนั่งรถไฟรอบโทโฮคุได้เป็นเวลา 5 วันติดกัน ด้วยราคาเพียง 18,000 เยน ตั๋ว JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) สามารถช่วยคุณประหยัดค่าโดยสารรถไฟได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณยังสามารถจองที่นั่งบนรถชินกันเซ็น รถด่วนพิเศษบางขบวน และ Joyful Train ล่วงหน้าได้นานถึง 1 เดือนผ่านช่องทางออนไลน์ที่นี่ได้ฟรี ตั๋ว JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) สามารถใช้งานได้กับประตูอัตโนมัติ และผู้ถือพาสปอร์ตต่างประเทศที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋ว Pass นี้ได้เช่นกัน
หมายเหตุ: ความเปลี่ยนแปลงในข้อกำหนดและราคาของตั๋ว JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) จะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2021 เป็นต้นไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
เครดิตรูปภาพส่วนหัวบทความ: JR East / Carissa Loh
Translated by ANNGLE