มหัศจรรย์ภูเขาไฟฟูจิและจุดชมฟูจิ
ถ้ากล่าวถึงสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น คนจำนวนมากจะคิดถึงภูเขาไฟฟูจิ (富士山 Fuji-san) ด้วยความสูง 3,776 เมตรทำให้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศ ภูเขาไฟฟูจิเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นและได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก และเป็นสถานที่พิเศษที่มีทัศนียภาพสวยงาม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าภูเขาไฟฟูจิดึงดูดผู้คนมากกว่าล้านคนจากทั่วโลกมาเพื่อปีนเขาในฤดูร้อน หรือเพียงแค่มาชมวิวอันยิ่งใหญ่ของรูปร่างภูเขาที่พิเศษเป็นหนึ่งเดียว
ภาพพิมพ์บล็อคไม้อันโด่งดังในชุด "36 วิวของภูเขาไฟฟูจิ" (เครดิตภาพ: MaaYu / MEIBIS+)
ภูเขาไฟฟูจิมีความสำคัญพิเศษมากต่อผู้คนในประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญมากที่สุดในเรื่องวัฒนธรรมและศาสนาความเชื่อในประเทศและฝังรากลึกมีอิทธิพลต่อศิลปะและตำนานของญี่ปุ่น หนึ่งในตัวอย่างที่มีชื่อเสียงคือ "36 วิวของภูเขาไฟฟูจิ" (富嶽三十六景 Fugaku Sanjūrokkei) คอลเลคชั่นที่เป็นอมตะของอุคิโยะเอะ (浮世絵 ukiyo-e ) ภาพพิมพ์บล็อคไม้ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินคุณ โฮะคุไส คัตสึชิคะ (葛飾北斎) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 กล่าวกันว่าศิลปินคุณโฮะคุไสหลงรักภูเขาไฟฟูจิมากทำให้เขาสร้างชุดผลงานนี้ซึ่งถูกพิสูจน์แล้วว่ามีความคลาสสิคเหนือการเวลา
สะพานที่ชื่อเหมือนกัน นิฮอนบาชิในปัจจุบัน (เครดิตภาพ: photoAC)
ตามประวัติศาสตร์แล้ว ภูเขาไฟฟูจิสามารถเห็นจากนิฮอนบาชิ (日本橋) ศูนย์กลางการค้าขายของเอโดะ ( 江戸 ชื่อเรียกเดิมของกรุงโตเกียว) ในสมัยก่อนสามารถเห็นภูเขาจากย่านที่ชื่อเดียวกันกับสะพานและวิวอันมีชื่อเสียงนั้นได้ถูกถ่ายทอดมาเป็นหนึ่งในภาพพิมพ์ ‘36 วิวของภูเขาไฟฟูจิ’ ของศิลปินคุณโฮะคุไส แต่น่าเสียดายที่ตึกสูงถูกสร้างในนิฮอนบาชิและย่านอื่นๆในเขตกรุงโตเกียวเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ไม่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้อีกต่อไปและกลายเป็นสี่งที่เหลืออยู่ในอดีตอันไกลโพ้น
ภูเขาไฟฟูจิคร่อมอยู่ระหว่างจังหวัดยามะนะชิ (山梨県) และจังหวัดชิซึโอกะ (静岡県)ในวันที่ฟ้าใสสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากที่ไกลๆหลายๆแห่ง การได้ชมจากที่ห่างไกลเป็นความรู้สึกพิเศษยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดซึ่งไม่เพียงชาวญี่ปุ่นแต่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็รู้สึกอย่างนั้น
เมื่อพูดถึงจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุด ผู้คนส่วนใหญ่มักคิดถึงทะเลสาบคาวากูจิโกะ (河口湖) และทะเลสาบยามะนะคะโกะ (山中湖)ให้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุด แต่ทว่ายังมีจุดชมวิวหลากรูปแบบที่มีความพิเศษยิ่งกว่า เช่น จุดชมจากยอดเขาอื่นๆ ลองนึกถึงภาพที่คุณปีนเขาไปถึงยอดและได้รางวัลไม่เพียงวิวอันมหัศจรรย์ของภูเขาไฟฟูจิและยังได้รางวัลเป็นวิวจากที่สูง
หลากหลายจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ (เครดิตภาพ: Google Maps)
บทความนี้ฉันจะแนะนำสถานที่พิเศษต่างๆในญี่ปุ่นที่คุณจะสามารถชมภูเขาไฟฟูจิ บางจุดตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถเข้าถึงได้และปีนเขาได้ค่อนข้างง่าย ขึ้นกับสภาพอากาศและช่วงเวลาของปีจุดชมวิวเหล่านี้ยังสามารถแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างของภูเขาไฟฟูจิอย่างที่คุณไม่เคยนึกว่าจะเป็นไปได้
ซึ่งไม่เป็นการยุ่งยากเพิ่มขึ้นเลย ไปค้นหาจุดต่างๆที่สามารถมองเห็นได้กว้างขวางกันเถอะจุดที่เราสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิอันโด่งดัง
จุดชมวิวจากภูเขาและที่สูงยกระดับ
ในช่วงแรกของการผจญภัย เราจะสำรวจจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนที่สูง บางจุดตั้งอยู่บนยอดเขาที่รอบล้อมภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้กว้างขวางและยอดเยี่ยม การชมภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นจากจุดชมวิวที่สูงนั้นให้ความรู้สึกที่น่าทึ่งประหลาดใจ ยิ่งไปกว่านี้ความรู้สึกนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าการปีนเขาช่างคุ้มค่าเหลือเกิน
① มิตสึโทเกะยามะ (三ッ峠山)
ภูเขาไฟฟูจิเมื่อมองจากยอดเขาของมิตสึโทเกะยามะ (เครดิตภาพ: photoAC)
ภูเขาไฟฟูจิเป็นที่ชื่นชอบในเรื่องการปีนเขาจากทางจังหวัดยามะนะชิเพียงช่วงเวลาสั้นๆในฤดูร้อน แต่คุณทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกหลายภูเขาในจังหวัดที่ยอดเยี่ยมเมื่อพูดถึงประสบการณ์การปีนภูเขา มิตสึโทเกะยามะคือหนึ่งในภูเขาที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแต่บางทีอาจจะเป็นหนึ่งในจุดชมจากยอดเขาสูงที่เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุด
มิตสึโทเกะยามะประกอบไปด้วยยอดเขา 3 ยอดได้แก่ ภูเขาไคอุน (開運山) ที่ระดับความสูง 1,785 เมตร ภูเขาโอสุทะกะ (御巣鷹山) ที่ระดับความสูง 1,775 เมตรและภูเขาคินะชิ (木無山) ที่ระดับความสูง 1,732 เมตร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยนาระ (710-794) และในช่วงเวลาใกล้ๆนี้ภูเขาเหล่านี้กลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ที่หลงไหลการปีนเขา มั่นใจได้ว่ายอดเขาจะให้วิวมุมกว้างที่น่าทึ่งของภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลและวันที่ฟ้าใส ดังนั้นพิสูจน์ได้ว่าการปีนเขาเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ยิ่งไปกว่านั้นสามารถเดินทางไปได้จากทะเลสาบคาวากูจิโกะ ดังนั้นคนที่ชอบท่องเที่ยวผจญภัยที่มาบริเวณนี้ก็สามารถพิจารณาได้ว่าจะปีนเขาอื่นๆเพื่อวิวอันเป็นเอกลักษณ์ของภูเขาไฟฟูจิ
การเดินทาง: จากสถานี Kawaguchiko (河口湖駅 Kawaguchiko-eki) ขึ้นรถบัสของบริษัท Fujikyu (富士急) นั่งไปประมาณ 25 นาทีลงที่ป้าย Mitsutoge Tozanguchi (三つ峠登山口) ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางปีนเขา การปีนมิตสึโทเกะยามะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ฤดูปีนเขาเริ่มจากเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน และขอแนะนำให้ปีนวันหยุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์
② ภูเขาอิชิวาริ (石割山)
ภูเขาไฟฟูจิจากยอดของภูเขาอิชิวาริ (เครดิตภาพ: photoAC)
คุณต้องการมองมุมอื่นๆของภูเขาไฟฟูจิจากภูเขาลูกอื่นในจังหวัดยามะนะชิใช่ไหม? ลองไปยอดของภูเขาอิชิวาริดูซิที่ซึ่งจะให้มุมมองภูเขาไฟฟูจิที่สุดยอด ภูเขาอิชิวาริตั้งอยู่แค่ทางตอนเหนือของทะเลสาบยามะนะคะโกะซึ่งเป็นหนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าของฟูจิ (富士五湖) และมีความสูง 1,413 เมตร
ภูเขาลูกนี้มีชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ที่แปลว่า ‘หินที่แตกออก’ เพราะว่ามีหินก้อนใหญ่ที่แตกออกเป็นสองส่วนอยู่หลังศาลเจ้าบนยอดเขา รอยแยกบนหินนั้นแคบและตามตำนานท้องถิ่นแล้วผู้ที่สามารถผ่านรอยแยกนี้ได้สามครั้งจะทำให้โชคดี
การเดินทาง: จากสถานี Fujisan (富士山駅 Fujisan-eki) ต่อรถบัสท้องถิ่นของบริษัท Fujikyu ไปอีก 35 นาทียังทะเลสาบยามะนะคะโกะ และลงที่ป้าย Hirano (平野)เส้นทางปีนเขาเริ่มจากทางเข้าคอร์สปีนภูเขาอิชิวาริ (石割山ハイクコース入口) และการปีนภูเขานี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
③ ภูเขาคินโตคิ (金時山)
ยอดของภูเขาคินโตคิและภูเขาไฟฟูจิในระยะไกล (เครดิตภาพ: photoAC)
เมื่อพูดถึงออนเซ็นรีสอร์ท ฮาโกเน่ (箱根) คือหนึ่งในออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น เมืองนั้นเต็มไปด้วยออนเซ็นที่ต้องขอบคุณภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาและภูมิประเทศแบบภูเขาไฟ ที่ซึ่งเมืองสามารถเข้าถึงโดยตรงไปยังน้ำแร่ธรรมชาติ แต่ยังมีเหตุผลอื่นอีกที่ทำให้ฮาโกเน่มีชื่อเสียงอย่างโด่งดังก็เพราะว่าวิวภูเขาไฟฟูจิที่สุดยอดน่าทึ่ง
หนึ่งในจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวสามารถเห็นวิวที่ยอดเยี่ยมของภูเขาไฟฟูจิจากยอดของภูเขาคินโตคิซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในฤดูร้อนสำหรับผู้ที่หลงไหลในการปีนเขาและเป็นกิจกรรมดีมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักในฮาโกเน่และได้สนุกเพลิดเพลินไปกับออนเซ็นท้องถิ่น และนี่อาจจะทำให้คุณสนใจที่จะทราบว่าตามตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นภูเขาคินโตคิคือสถานที่เกิดของคินทาโร่หรือเด็กทอง (金太郎) เด็กที่มีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ที่กลายเป็นบุคคลสำคัญทางวัฒนธรรมในยุคปัจจุบัน
การเดินทาง: จากสถานี Hakone-Yumoto (箱根湯本駅 Hakone-Yumoto-eki) ของรถไฟสาย Hakone Tozan Railway ให้ขึ้นรถบัส Hakone Tozan (箱根登山) ต่ออีก 35 นาทีด้วยรถที่ไปทางTogenkyo (桃源郷) และลงที่ป้าย Senseki (仙石) หรือขึ้นรถบัสที่ไปทาง Gotenba (御殿場) และลงที่ป้าย Kintoki-Tozanguchi (金時登山口) เส้นทางปีนเขาเริ่มต้นที่ป้ายรถบัสทั้งสองป้ายและใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
④ มิชิมะสกายวอร์ค (三島スカイウォーク)
วิวภูเขาไฟฟูจิจากมิชิมะสกายวอร์ค (เครดิตภาพ: photoAC)
วิวภูเขาไฟฟูจิที่ไม่ธรรมดาและราวกับจินตนาการ? วิวจากสะพานสูงบนฟ้าล่ะเป็นอย่างไรบ้าง? ที่เมืองมิชิมะ (三島市) ในจังหวัดชิซุโอกะนั้นมีสะพานแขวนสำหรับเดินที่ขึงพาดผ่านฟ้าชื่อว่า มิชิมะสกายวอร์ค ด้วยความยาว 400 เมตรทำให้ที่นี่เป็นสะพานแขวนสำหรับเดินที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวจะได้เป็นพยายเห็นด้วยตากับวิวที่งดงามของภูเขาไฟฟูจิทีและวิวโดยรอบของอ่าวสุรุกะ
เวลาที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิที่นี่ก็คือช่วงเวลาเช้าและช่วงเวลาเย็น โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่พระอาทิตย์ขึ้นและตกกับฉากหลังของภูเขา แม้ว่าฤดูร้อนจะเป็นช่วงเวลาที่นิยมมากที่สุดสำหรับการมาเยือนเพราะสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ทุกอย่างที่มีในบริเวณนี้ แต่มิชิมะสกายวอร์คเปิดตลอดทั้งปี จริงๆแล้วภูเขาไฟฟูจิสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ถ้าอากาศอำนวย
มิชิมะสกายวอร์ค (三島スカイウォーク)
ที่อยู่: 313 Sasahara Shinden, Mishima, Shizuoka 411-0012, Japan
สถานีที่ใกล้ที่สุด: สถานี JR Mishima (三島駅)
เวลาทำการ: 9:00–17:00, เปิดตลอดทั้งปี (เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสถาพอากาศ)
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 1,100 เยน / เด็กมัธยม 500 เยน / เด็กประถม 200 เยน
การเดินทาง: จากสถานี JR Mishima (JR三島駅 Mishima-eki) นั่งรถชัตเติ้ลบัส Tokai Orange และลงที่ป้าย Mishima Skywalk และมิชิมะสกายวอร์คอยู่หน้าป้ายรถบัส
จุดชมวิวจากน้ำ
ต่อไปเราจะมองที่จุดชมวิวที่ซึ่งภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลังของแหล่งน้ำ ภูมิทัศน์ที่ประกอบด้วยภูเขาและแหล่งน้ำนั้นทำให้เกิดวิวที่งดงามราวกับภาพวาด และสถานที่เหล่านี้จะมอบประสบการณ์ที่พิเศษแก่นักท่องเที่ยว
⑤เอะโนะชิมะ (江ノ島)
ภูเขาไฟฟูจิเมื่อมองจากเอะโนะชิมะ (เครดิตภาพ: photoAC)
เราเคลื่อนตัวออกจากแผ่นดินใหญ่ไปยังเอะโนะชิมะ เกาะเล็กๆนอกชายฝั่ง เกาะนี้เป็นที่นิยมของผู้คนจากโตเกียวและโยโกฮาม่าเพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับเมืองและผู้คนจำนวนมากกลับมาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะหาดทรายอันโด่งดัง แต่ยิ่งไปกว่านั้นนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกลในวันอากาศดี
ภาพพิมพ์อุคิโยะเอะของเอะโนะชิมะกับภูเขาไฟฟูจิโดยโฮะคุไส (เครดิตภาพ: MaaYu / MEIBIS+)
สิ่งที่มีชื่อเสียงโดดเด่นของวิวภูเขาไฟฟูจิจากเอะโนะชิมะเช่นเดียวกับวิวจากนิฮอนบาชิในสมัยเอโดะก็คือการได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน "36 วิวของภูเขาไฟฟูจิ" ของโฮะคุไส มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกับการไปเยือนสถานที่ที่ซึ่งถูกเลือกเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานศิลปะคลาสสิกไม่ใช่หรือ!
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR สาย Ueno-Tokyo (JR上野東京ライン) ไปสถานี JR Fujisawa (JR藤沢駅 Fujisawa-eki) เปลี่ยนเป็นรถไฟบริษัท Enoshima Electric Railway (江ノ島電鉄 Enoshima dentetsu) ไปยังสถานี Enoshima (江ノ島駅) เกาะเอะโนะชิมะตั้งอยู่ 10-15 นาทีเดินจากสถานีรถไฟ ทางเลือกอื่นของการไปเอะโนะชิมะได้แก่ สถานี Katase-Enoshima (片瀬江ノ島駅 Katase-Enoshima-eki) ของบริษัทรถไฟ Odakyu Railways และสถานี Shonan-Enoshima (湘南江の島駅 Shonan-Enoshima-eki) ของบริษัทรถไฟ Shonan Monorail ที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดิน 10-15 นาทีจากแต่ละสถานีไปยังเกาะได้
⑥คาบสมุทรมิอุระ (三浦半島)
ภูเขาไฟฟูจิจากคาบสมุทรมิอุระ (เครดิตภาพ: photoAC)
อยู่ในจังหวัดคานะกะวะ (神奈川県) ไกลไปทางใต้ของโยโกฮามะ (横浜) เป็นที่ตั้งของคาบสมุทรมิอุระซึ่งมีชื่อเสียงด้วยชายหาดทรายขาวและเป็นที่นิยมดึงดูดผู้คนที่อาศัยอยู่เมืองใกล้ๆ เช่น โยโกฮามะและโตเกียว และที่นี่ก็เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย
นักท่องเที่ยวสามารถชมภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลจากชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรมิอุระโดยเฉพาะในวันที่อากาศอำนวย ชายฝั่งตะวันตกเรียงรายไปด้วยชายหาดและสวน แต่หนึ่งในตำแหน่งที่มีชื่อเสียงคือ สวนทะเทะอิชิ (立石公園 Tateishi-koen) ตั้งอยู่ที่เมืองโยโคสุคะ (横須賀市) เป็นสวนที่มีภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระและคลื่นที่ซัดสาดจากอ่าวสะกะมิ การผสมผสานระหว่างโขดหินคลื่นทะเลและภูเขาไฟฟูจิก่อให้เกิดวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่น่าทึ่งและนี่เป็นหนึ่งจุดที่คุณไม่อยากพลาด
การเดินทาง: จากสถานี JR Zushi (JR逗子駅 Zushi-eki) นั่งรถบัสบริษัท Keikyu (京急) นั่ง 30 นาทีและลงที่ป้าย Tateishi (立石) สวนอยู่ติดกับป้ายรถบัส
⑦ทะเทะยามะ (館山)
ภาพถ่ายทางอากาศของทะเทะยามะ (เครดิตภาพ: Tateyama City)
อย่าสับสนกับเส้นทางทะเทะยามะคุโรเบะอัลไพน์อันโด่งดัง (Tateyama Kurobe Alpine Route) ทะเทะยามะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใต้สุดของคาบสมุทรโบโส (房総半島) ซึ่งเป็นส่วนทางใต้ของจังหวัดชิบะ (千葉県) ยิ่งไปกว่านั้นเมืองยังตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรหันไปทางภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิจากสวนชิโรยามะ (เครดิตภาพ: Tateyama City)
ทะเทะยามะมีชื่อเสียงในเรื่องชายหาด และหนึ่งในชายหาดของทะเทะยามะให้วิวทิวทัศน์ที่คาดไม่ถึงของภูเขาไฟฟูจิ นั่นคือหาดโฮโจ (北条海水浴場 Hojo kaisuiyoku-ba) และถ้าคุณต้องการวิวมุมกว้างของภูเขาไฟฟูจิร่วมกับเมืองรอบข้าง ให้ขึ้นไปข้างบนที่สวนชิโรยามะ (城山公園 Shiroyama-koen) และเพลิดเพลินไปกับวิวที่สวยจนหยุดลืมหายใจในวันฟ้าใส
"ไดมอนด์ฟูจิ" (เครดิตภาพ: Tateyama City)
นี่คือบางสิ่งบางอย่างที่นักท่องเที่ยวค้นหาภาพที่น่าตกตะลึงสะกดใจในทะเทะยามะ จากกลางถึงปลายเดือนพฤษภาคมและจากกลางถึงปลายเดือนกรกฎาคมจะมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ไดมอนด์ฟูจิ" (ダイアモンド富士) เกิดขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ตกเหนือตรงกับภูเขาไฟฟูจิ ราวกับเพชรที่ส่องแสงจากที่ไกลๆ ซึ่งปรากฏการณ์นี้สามารถมองเห็นได้จากหาดโฮโจและสวนชิโรยามะแต่ต้องเป็นช่วงเวลาเฉพาะและสภาพอากาศที่เหมาะสมเท่านั้น
การเดินทาง: จากสถานี JR Tateyama (JR館山駅 Tateyama-eki) เดิน 3 นาทีถึงหาดโฮโจ สำหรับสวนชิโรยามะนั้นเดิน 30 นาทีหรือนั่งเท็กซี่ 10 นาทีจากสถานี
⑧ เรือเฟอร์รี่อ่าวสึรุกะ (駿河湾フェリー)
ภูเขาไฟฟูจิจากอ่าวสึรุกะ (เครดิตภาพ: Yoshitaka / PIXTA)
ก่อนหน้านี้เราสำรวจจุดชมภูเขาไฟฟูจิจากแผ่นดิน เช่น ยอดเขา สวน และชายหาด แต่มันจะเป็นเช่นไรถ้าคุณสามารถชมภูเขาไฟฟูจิตรงจากอ่าวสึรุกะ(駿河湾)? ใช่แล้วมันมีวิธีที่นักท่องเที่ยวสามารถชมภูเขาจากทะเล
จากท่าเรือชิมิซุ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวสึรุกะไปยังจุดหมายปลายทางหลายแห่งเช่น โทอิ (土肥) ในคาบสมุทรอิซุ ระหว่างการเดินทางด้วยเฟอร์รี่นักท่องเที่ยวสามารถไขว้นิ้วและหวังว่าอากาศจะดีทำให้สามารถเห็นวิวอันยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิในระยะไกล และมันจะทำให้การนั่งเฟอร์รี่ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
การเดินทาง: จากสถานี JR Shimizu (JR清水駅 Shimizu-eki) เดิน 15-20 นาทีถึงท่าเรือชิมิซุเพื่อนั่งเรือเฟอร์รี่
⑨ป่าสนมิโฮะโนะมัตสึบาระ (三保の松原)
ป่าสนมิโฮะโนะมัตสึบาระโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลัง (เครดิตภาพ: photoAC)
ตั้งอยู่ที่คาบสมุทรมิโฮะ (三保半島) ในจังหวัดชิซึโอกะ มีชายฝั่งสวยงดงาม 7 กิโลเมตรชื่อว่า ป่าสนมิโฮะโนะมัตสึบาระ ร่วมกันกับวิวภูเขาไฟฟูจิในระยะไกล อะไรคือสิ่งที่ทำให้ชายฝั่งนี้มีความพิเศษ นอกจากวิวภูเขาไฟฟูจิแล้วเราสามารถทราบได้จากชื่อของชายฝั่ง ‘มัตสึบาระ’ แปลว่าป่าสน และชายฝั่งนี้เรียงรายไปด้วยต้นสนกว่า 54,000 ต้น
การจัดวางเคียงกันของน้ำทะเลสีน้ำเงินของอ่าวสึรุกะ คลื่นทะเลสีขาวซัดฝั่ง ต้นสนสีเขียวและภาพที่ยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิทำให้มิโฮะโนะมัตสึบาระสวยงามราวกับภาพวาดอย่างยิ่ง เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินภาพพิมพ์อุคิโยะเอะผู้ยิ่งใหญ่ อุตะกะวะ ฮิโรชิเกะ (歌川広重) สร้างสรรค์ทัศนียภาพนี้เป็นหนึ่งในงานศิลปะของเขาที่ไร้กาลเวลา และได้รับการจดทะเบียนเป็นสถานที่มีทิวทัศน์สวยงามแห่งชาติของญี่ปุ่นในปี 1922 ยิ่งไปกว่านั้นป่าสนตลอดชายฝั่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2013 ในฐานะส่วนหนึ่งของสถานที่ทางวัฒนธรรมภูเขาไฟฟูจิ
การเดินทาง: จากสถานี JR Shimizu นั่งรถบัสท้องถิ่นของบริษัท Shizutetsu (静鉄) ไป 25 นาทีแล้วลงที่ป้าย Miho-no-Matsubara Iriguchi (三保の松原入口) และป่าสนมิโฮะโนะมัตสึบาระอยู่ห่าง 20 นาทีเดินจากป้ายรถบัส
⑩นิฮงไดระ (日本平)
ภูเขาไฟฟูจิจากนิฮงไดระ (เครดิตภาพ: photoAC)
ชิซึโอกะเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะจังหวัดที่มีหลายจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุด และนิฮงไดระเป็นหนึ่งในจุดเหล่านั้นที่สร้างชื่อให้ชิซึโอกะ นิฮงไดระเป็นเนินเขาสูง 307 เมตรทำให้สามารถมองเห็นเป็นมุมกว้างของภูเขาไฟฟูจิไปด้วยกันกับท่าเรือชิมิซุ คาบสมุทรอิซุ (伊豆半島) และเห็นแม้กระทั่งเทือกเขาแอลป์ใต้ของญี่ปุ่น
วิวที่สวยงามนี้ถึงกับมีการกล่าวว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุดโดยผู้คนมากมาย และเป็นที่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในแต่ละฤดูกาลที่แตกต่าง ฤดูใบไม้ผลิเมื่อบริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยซากุระบาน หรือฤดูใบไม้ร่วงเมื่อใบไม้สีแดงเพลิงแต้มสีไปทั่วบริเวณ
การเดินทาง: จากสถานี JR Shizuoka นั่งรถบัสสาย Shizuoka Nihondaira (静岡日本平ライン) และลงที่ป้าย Nihondaira-Sekihi-mae (日本平石門前) นิฮงไดระเดินเพียง 5 นาทีจากป้ายรถบัส
จุดชมวิวจากเมือง
มันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจสำหรับผู้คนจำนวนมากที่ภูเขาไฟฟูจิสามารถมองเห็นตรงจากใจกลางเมืองหลวงของญี่ปุ่น โตเกียว (東京) ถึงแม้ว่าเมืองจะเต็มไปด้วยตึกสูงที่ทำให้มองเห็นภูเขาได้ลำบาก แต่มีสถานที่พิเศษอยู่ที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นไปบนฟ้าและเห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจนในระยะไกล
⑪โตเกียวสกายทรี (東京スカイツリー)
ภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลมากจากลานชมวิวของโตเกียวสกายทรี (เครดิตภาพ: photoAC)
โตเกียวสกายทรีเป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์และหอคอยชมวิวในย่านอาสะคุสะ ด้วยความสูง 634 เมตรทำให้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น หอคอยประกอบไปด้วยลานชมวิว 2 แห่ง TEMBO DECK ที่ความสูง 350 เมตรและ TEMBO GALLERIA ที่ความสูง 450 เมตร ทั้งสองลานชมวิวสามารถชมวิวเส้นขอบฟ้าของเมืองโตเกียวที่สวยจนทำให้ลืมหายใจ บางทีอาจเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่นักท่องเที่ยวจะสามารถเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกลได้ด้วย
โตเกียวสกายทรีสูงเกินกว่าทุกตึกในเมือง ดังนั้นด้วยความสูงทีเดียวและระยะทางที่เหมาะสมจากภูเขาไฟฟูจิทำให้เกิดจุดดีๆที่สามารถมองเห็นได้กว้างขวางสำหรับภูเขาไฟฟูจิที่โดดเด่น แต่แน่นอนปัจจัยเดียวที่ควรระวังคือสภาพอากาศ ภูเขาไฟฟูจิมักจะถูกปลุกคลุมด้วยเมฆและสภาพอากาศสามารถกีดขวางทัศนวิสัยได้ ดังนั้นครั้งหน้าเมื่อคุณขึ้นโตเกียวสกายทรี หวังว่าสภาพอากาศจะอำนวยให้คุณ
โตเกียวสกายทรี (東京スカイツリー)
ที่อยู่: 1-1-2 Oshiage, Sumida, Tokyo 131-0045
สถานีที่ใกล้ที่สุด: สถานี Tokyo Skytree (とうきょうスカイツリー駅) / สถานี Oshiage (押上駅)
เวลาทำการ: 10:00–20:00 (เวลาเข้าสุดท้าย 19:00 และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงวันหยุดปีใหม่)
ค่าเข้า: วันธรรมดา: ผู้ใหญ่ 3,100 เยน (ตั๋วคอมโบระหว่าง TEMBO DECK และ TEMBO GALLERIA)
วันหยุด: ผู้ใหญ่ 3,400 เยน (ตั๋วคอมโบระหว่าง TEMBO DECK และ TEMBO GALLERIA)
จุดชมวิวจากระยะไกล
ด้วยขนาดที่ใหญ่มากและระยะที่เห็นได้ทำให้ภูเขาไฟฟูจิสามารถมองเห็นจากสถานที่ที่อยู่ไกลได้ด้วย จุดชมวิวต่อไปนี้ตามสภาพภูมิศาสตร์แล้วตั้งอยู่ห่างออกไปจากภูเขาไฟฟูจิ แต่เมื่ออากาศอำนวยสถานที่เหล่านี้จะให้วิวที่สวยงามอย่างที่ไม่ได้คาดหวังมาก่อนของภูเขาไฟฟูจิที่โด่งดัง ถึงกับอาจสร้างความประหลาดใจแก่นักท่องเที่ยว
⑫ภูเขานิวคะสะ (入笠山)
ภูเขาไฟฟูจิเมื่อมองจากภูเขานิวคะสะ (เครดิตภาพ: Fujimi Panorama Resort)
เรามากันที่จังหวัดแห่งขุนเขา นากาโน่ (長野県) ที่ซึ่งภูเขานิวคะสะตั้งอยู่ บริเวณรอบๆภูเขารู้จักกันดีสำหรับความหลากหลายของดอกไม้และเป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวระหว่างฤดูร้อน โดยเฉพาะ ฟูจิมิ พาโนราม่า รีสอร์ท (Fujimi Panorama Resort) คือสถานที่ที่ผู้คนมาเยือนเพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ของดอกไม้ที่น่าทึ่งนานาพันธุ์เช่น ดอกลิลลี่แห่งหุบเขา (Lily of the Valley) ดอกเจอราเนียม (Geraniums) และดอกไม้ระฆัง (bellflowers)
ที่ฟูจิมิพาโนราม่ารีสอร์ทนั้นมีจุดชมวิวยัตสึกะทะเคะที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมเมืองฟูจิมิ(富士見町) อยู่เบื้องล่างและภูเขายัตสึกะทะเคะที่สวยสง่างามในระยะไกล แต่ที่นี่จริงๆแล้วก็สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิในทิศทางตรงกันข้ามกับภูเขายัตสึกะทะเคะและมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเป็นที่รู้กันทั่วไปว่ามักจะซ่อนตัวอยู่ในเมฆดังนั้นจึงมักจะมองไม่เห็น แต่ทว่ามันมีค่าพอที่จะมาที่นี่เพื่อชมภูเขาที่ยากจะหาในระยะไกล อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือเมื่อชื่อเมืองว่า ฟูจิมิ ที่แปลตามตัวอักษรได้ว่าภูเขาไฟฟูจิสามารถมองเห็นได้จากที่นี่!
กอนโดล่า ฟูจิมิพาโนราม่ารีสอร์ท
ที่อยู่: 6666-703 Fujimi, Fujimi-machi, Suwa-gun, Nagano 399-0211
สถานีที่ใกล้ที่สุด: สถานี JR Fujimi (富士見駅)
เวลาทำการ: 8:30–16:00 (รอบลงรอบสุดท้าย 16:30 เมษายน–กันยายน)
8:30am–15:30 (รอบลงรอบสุดท้าย 16:00 ตุลาคมเป็นต้นไป)
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 1,700 เยน / เด็ก 800 (ไป-กลับ และแถมหนังสือดอกไม้ฟรีสำหรับผู้ซื้อตั๋วไป-กลับ)
หมายเหตุ:
- เวลาเริ่มให้บริการเป็น 8:00 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม - 20 มิถุนายน และ 17 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม
- เริ่มขายตั๋ว 15 นาทีก่อนเวลากอนโดล่าเริ่มทำการ
- เวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
การเดินทาง: จากสถานี JR Fujimi (JR富士見駅 Fujimi-eki) นั่งรถชัตเติ้ลบัสฟรีไปยังฟูจิมิพาโนราม่ารีสอร์ท รถไฟจาก Shinjuku ถึง Fujimi ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หมายเหตุรถชัตเติ้ลบัสฟรีไปยังฟูจิมิพาโนราม่ารีสอร์ทมีเพียงรอบเดียวต่อวัน รอบออกจากสถานีรถไฟเวลา 10:00 น. และออกจากรีสอร์ทเวลา 15:00 น.
⑬ ภูเขาไดโบสัตสึ (大菩薩嶺)
ภูเขาไฟฟูจิมองจากยอดภูเขาไดโบสัตสึ (เครดิตภาพ: photoAC)
ภูเขาไดโบสัตสึตั้งอยู่ฝั่งจังหวัดยามะนะชิในเขตอุทยานแห่งชาติจิจิบุ-ทะมะ-ไค (秩父多摩甲斐国立公園) ซึ่งทอดยาวระหว่าง ยามะนะชิ ไซตามะ(埼玉) นากาโน่และโตเกียว ภูเขานี้เป็นหนึ่งใน "100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น" (日本百名山 Nihon Hyaku-meizan) หนังสือที่เขียนโดยนักปีนเขา ฟุคุดะ คิวยะ (深田久弥) ในปี 1964 และด้วยความสูง 2,057 เมตรทำให้เป็นจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สูงที่สุด
ภูเขาไดโบสัตสึไม่เพียงมีชื่อเสียงในเรื่องวิวภูเขาไฟฟูจิแต่ยังมีชื่อเสียงเพราะใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าทึ่งรอบๆภูเขาระหว่างฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบการปีนเขา ยิ่งไปกว่านั้นภูเขานี้เดินทางเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในโตเกียวและการปีนเขาก็ง่ายพอสำหรับมือใหม่สามารถปีนได้
การเดินทาง: จากสถานี JR Kai-Yamato (JR甲斐大和駅 Kai-Yamato-eki) นั่งรถบัสของบริษัท Eiwa Kotsu (栄和交通) 40 นาทีแล้วลงที่ป้าย Kamihikawa-Toge Yamaguchi (上日川峠登山口) ที่เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางปีนเขา การปีนภูเขาไดโบสัตสึจากตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที และยังมีอีกทางเลือกหนึ่งคือ จากสถานี JR Enzan (JR塩山駅 Enzan-eki) นั่งรถบัสของบริษัท Yamanashi Kotsu (山梨交通) 30 นาทีแล้วลงที่ป้าย Daibosatsumine-iriguchi (大菩薩嶺入口) ที่เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางปีนเขาและการปีนภูเขาไดโบสัตสึจากที่นี่ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที
⑭ภูเขาทะคะโบจจิ (高ボッチ山)
ภูเขาไฟฟูจิมองจากยอดภูเขาทะคะโบจจิ (เครดิตภาพ: photoAC)
ภูเขาทะคะโบจจิตั้งอยู่บนที่ราบสูงทะคะโบจจิ (高ボッチ高原 Takabocchi-kogen) ซึ่งเป็นที่ราบระหว่างเมืองโอคะยะ (岡谷) และเมืองชิโอะจิริ (塩尻) ในจังหวัดนากาโน่ ด้วยความสูง 1,665 เมตร ภูเขาและที่ราบสูงให้วิวขอบฟ้าเมืองโอคะยะที่สวยงามน่าทึ่งอยู่เบื้องล่าง และนี่เป็นจุดที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาคู่รักเพราะบรรยากาศโรแมนติค
จากที่ราบสูงนักท่องเที่ยวจะเห็นความยิ่งใหญ่สง่างามของภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกลในวันฟ้าใส จริงๆแล้วยังมียอดเขาอื่นๆที่สามารถมองเห็นได้จากที่นี่ ภูเขาคิตะ(北岳) ภูเขาโอคุโฮะทะคะ(奥穂高岳) ภูเขาไอโนะ(間ノ岳) รวมถึงภูเขาไฟฟูจิเป็น 4 ภูเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น
การเดินทาง: จากสถานี JR Shiojiri (JR塩尻駅 Shiojiri-eki) นั่งรถบัสรอบเมืองสาย Midoriko-Higashiyama ลงที่ป้าย Higashiyama-Reiun (東山霊園) ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางปีนเขา
⑮ทะเลสาบสุวะ (諏訪湖)
ภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลังของทะเลสาบสุวะ (เครดิตภาพ: 下諏訪観光協会)
ทะเลสาบสุวะเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดนากาโน่และตั้งอยู่ตรงกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมือง3 เมืองรอบทะเลสาบได้แก่ คามิสุวะ (上諏訪) ชิโมะสุวะ (下諏訪) และโอคะยะ มีออนเซ็นที่เงียบสงบ มีสาเกหลากหลายแบบและมีเสน่ห์ของเมืองเก่า และทายสิว่ามีอะไรอีก? ทะเลสาบสุวะถูกกล่าวว่าเป็นแรงบันดาลใจในฉากไคลแมกซ์ของ Your Name (君の名は Kimi no Na wa) ภาพยนต์อนิเมชั่นทำเงินของผู้กำกับ ชินไค มาโกะโตะ
บนพื้นที่เฉพาะเจาะจงของทะเลสาบและมุมที่พอดี นักท่องเที่ยวสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลมากได้ ภาพของภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลังให้กับทะเลสาบที่สงบนิ่งและภาพของภูเขาที่อยู่ไกลลิบทำให้เกิดวิวที่ราวกับภาพวาดสวยงามอย่างยิ่งซึ่งได้ดึงดูดผู้คนจำนวนมากกว่าศตวรรษ จริงๆแล้ววิวนี้ได้เป็นแรงบันดาลใจให้นักพิมพ์ภาพอุคิโยะเอะหลายๆคนให้ใส่วิวนี้เข้าไปในผลงานของพวกเขา
การเดินทาง: จากสถานี JR Shimo-Suwa (JR下諏訪駅 Shimo-Suwa-eki) นั่งเท็กซี่ 6 นาทีไปยังทะเลสาบ
⑯ภูเขาทสึคุบะ (筑波山)
ภูเขาทสึคุบะในฤดูร้อน (เครดิตภาพ: photoAC)
ในเขตชนบทของเมืองทสึคุบะ (つくば市 Tsukuba-shi) เป็นที่ตั้งของภูเขาทสึคุบะซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่ห่างจากภูเขาไฟฟูจิมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับจุดชมวิวอื่นๆที่แนะนำมาข้างต้น ภูเขานี้รู้จักกันดีในเรื่องมียอดเขา 2 ยอด เนียวไทซัง หรือแปลว่าร่างกายผู้หญิง (女体山 Nyotai-san) ที่ความสูง 877 เมตรและ นันไทซัง หรือแปลว่าร่างกายผู้ชาย (男体山 Nantai-san) ที่ความสูง 871 เมตร
ภูเขาไฟฟูจิเมื่อมองจากยอดเขา (เครดิตภาพ: photoAC)
ผู้คนปีนเขานี้ปกติแล้วเพื่อวิวของที่ราบคันโตจากยอดเขา เมื่อสภาพอากาศดีสมบูรณ์แบบจะสามารถมองเห็นกระทั่งขอบฟ้าเมืองโตเกียว ทะเลสาบคาสุมิกะอุระ (霞ヶ浦) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น และเห็นแม้กระทั่งภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลมาก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะเดินปีนเขาหรือนั่งเคเบิ้ลคาร์หรือโรปเวย์ไปยังศาลเจ้าภูเขาทสึคุบะ (つくば山神社 Tsukuba-jinja) บนยอดเขา
กอนโดล่า ภูเขาทสึคุบะ
ที่อยู่: 1 Tsukuba, Tsukuba-City, Ibaraki
สถานีที่ใกล้ที่สุด: สถานี Tsukuba (つくば駅)
เวลาทำการ: 9:00–17:00 (ชั่วโมงทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
ค่าโดยสาร: ผู้ใหญ่ 1,070 เยน / เด็ก 540 เยน (เคเบิ้ลคาร์ ไป-กลับ)
ผู้ใหญ่ 1,120 เยน / เด็ก 560 เยน (โรปเวย์ ไป-กลับ)
การเดินทาง: จากสถานี Tsukuba (つくば駅 Tsukuba-eki) ของบริษัทรถไฟ Metropolitan Intercity Railway นั่งรถชัตเติ้ลบัสไปสถานี Tsutsujigaoka (つつじヶ丘駅 Tsutsujigaoka-eki) ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปีนขึ้นภูเขาทสึคุบะ
ภูเขาไฟฟูจิยังคงเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่นและเป็นสถานที่สำคัญที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์แก่ผู้คนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วโลกมาญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องเพื่อชมภูเขาไฟฟูจิและมีจุดชมวิวจำนวนมากที่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นสามารถเสาะหาเพื่อมุมและสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง เมื่อคุณมาเยือนญี่ปุ่นครั้งหน้าให้ออกค้นหาจุดชมวิวในญี่ปุ่นหลากหลายจุดที่กล่าวมาแล้วในบทความนี้และในบทความอื่นทั้งหมด และตกหลุมรักกับหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น
(การเดินทางอย่างมืออาชีพ: หากคุณกำลังตามล่าจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิในโตเกียว นากาโน่และบริเวณใกล้เคียง ต้องเช็คตรวจสอบตั๋วพาสรถไฟของ JR East!)
JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
ตั๋ว JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) และแผนที่เขตที่สามารถใช้ตั๋วได้ (เครดิตภาพ: JR East)
ตั๋ว JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) มีราคาที่เหมาะสมและสามารถนั่งรถไฟของ JR East ได้ไม่จำกัด (รวมทั้งชินคันเซน) ในเขตที่กำหนด 5 วันติดต่อกันด้วยราคาเพียง 18,000 เยน คุณสามารถประหยัดได้มากถ้าคุณเดินทางเป็นวงกว้างด้วยรถไฟในเขตโตเกียว นากาโน่และสถานที่อื่นๆจำนวนมากในเขตที่สามารถใช้ตั๋วได้ คุณสามารถจองที่นั่งสำหรับชินคันเซน บางสายของรถไฟด่วนพิเศษ และ Joyful Trains ทางออนไลน์ได้ฟรีและจองล่วงหน้าได้สูงสุด 1 เดือนที่เว็บไซต์นี้
ตั๋วนี้สามารถใช้ได้กับช่องทางเข้าอัตโนมัติและผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติและอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋วพาสนี้ได้ด้วย
JR TOKYO Wide Pass
ตั๋ว JR TOKYO Wide Pass และแผนที่เขตที่สามารถใช้ตั๋วได้ (เครดิตภาพ: JR East)
ตั๋ว JR TOKYO Wide Pass มีราคาที่เหมาะสมและสามารถนั่งรถไฟของ JR East ได้ไม่จำกัด (รวมทั้งชินคันเซน) ในเขตที่กำหนด 3 วันติดต่อกันด้วยราคาเพียง 10,180 เยน คุณสามารถเดินทางในเขตโตเกียว บริเวณโดยรอบและสถานที่อื่นๆจำนวนมากในเขตที่สามารถใช้ตั๋วได้ คุณสามารถจองที่นั่งทางออนไลน์ได้ฟรีและจองล่วงหน้าได้สูงสุด 1 เดือนที่เว็บไซต์นี้ ถ้าคุณสนใจทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตั๋วพาสนี้ คุณสามารถดูได้ที่นี่
เครดิตภาพส่วนหัว: (ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย) Tateyama City, photoAC, Yoshitaka / PIXTA