Rail Travel

ออกไปท่องเที่ยวในฤดูหนาวรอบภูเขาไฟฟูจิด้วยตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass

ออกไปท่องเที่ยวในฤดูหนาวรอบภูเขาไฟฟูจิด้วยตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass

อัปเดตเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2023
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2022

 

ภูเขาไฟฟูจิ (富士山 Fuji-san) เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น และอาจจะเป็นภูเขาที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศ เพื่อได้วิวทิวทัศน์ที่ดีของภูเขาก็เพียงเป็นการเดินทางท่องเที่ยวสั้นๆด้วยรถไฟจากโตเกียว และนักท่องเที่ยวจำนวนมากท่องเที่ยวไปรอบๆภูเขาเพื่อไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ทะเลสายคาวากูจิโกะ (河口湖 Kawaguchiko) และทะเลสาบยามานากะโกะ  (山中湖 Yamanakako) ที่สวยราวกับภาพวาด

 

ผู้คนจำนวนมากจะคิดว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวภูเขาไฟฟูจิคือฤดูร้อน เพราะว่าเป็นฤดูปีนเขา แต่คุณทราบไหมว่าภูเขานี้จะสวยงามโดยเฉพาะเมื่อไปชมในฤดูหนาว สำหรับบทความนี้ เราจะไปสำรวจสิ่งที่น่าทึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์นั้นรอบๆภูเขาไฟฟูจิสำหรับฤดูหนาว รอบไปถึงจุดชมวิวที่สวยงามน่าทึ่งของภูเขา ดอกไม้ไฟที่ดึงดูดสายตา และภาพฤดูหนาวที่สวยสง่างามซึ่งผู้คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้คาดหวัง

 

แผนที่บริเวณโดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ (เครดิตภาพ: Google Maps)

 

ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับการเดินทางของเรา เราจะใช้ตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass ซึ่งทำให้เราสามารถท่องเที่ยวไปยังสถานที่น่าตื่นเต้นทุกรูปแบบภายใน 3 วันและไปชมว่าทำไมฤดูหนาวถึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวรอบๆบริเวณโตเกียวสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวฤดูหนาวที่สั้นแต่ประทับใจไม่รู้ลืม ดังนั้นใส่แจ็คเก็ตฤดูหนาวของคุณและออกเดินทางผจญภัยฤดูหนาวเปิดหูเปิดตารอบกรุงโตเกียวกันเถอะ!

 

วันที่ 1: ทะเลสาบคาวากูจิโกะ & ทะเลสาบยามานากะโกะ

รถไฟซีรีย์ E353 ใช้สำหรับรถไฟด่วนพิเศษ Fuji Excursion (เครดิตภาพ: JR East)

 

สิ่งที่ทำให้การเดินทางรอบกรุงโตเกียวเป็นสิ่งที่สนุกสนานก็คือ ความเชื่อมโยงของระบบรถไฟที่ดีอย่างเต็มที่ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางออกจากโตเกียวและมุ่งตรงไปยังสถานที่รอบๆภูมิภาคได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่น ด้วยตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass พวกเขาสามารถเริ่มการเดินทางจากสถานี JR Shinjuku (JR新宿駅) และนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Fuji Excursion (富士回遊 Fuji Kaiyū) เพื่อไปยังบริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ ด้วยรถไฟขบวนนี้ นักเดินทางสามารถทำได้ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง!

 

① ชมภูเขาไฟฟูจิจากมุมสูงด้านบน

ภาพวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิจากทะเลสาบคาวากูจิโกะระหว่างฤดูหนาว (เครดิตภาพやまなし観光推進機構)

 

ด้วยด้านหน้าที่มีหิมะปกคลุมเหมือนกับสวมหมวกอยู่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันโด่งดัง และรูปร่างที่สมมาตรสวยงาม ทำให้ภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่สำคัญที่ต้องไปชมสำหรับผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ซึ่งมีฐานอยู่ในโตเกียว และมันยังมีชื่อเสียงในหมู่นักปีนเขาโดยเฉพาะระหว่างฤดูร้อน ยิ่งไปกว่านั้นด้วยขนาดของมันที่ยิ่งใหญ่มาก ภูเขาสามารถมองเห็นจากหลายจุดชมวิวจากบริเวณโดยรอบ และในวันฟ้าใสมันสามารถมองเห็นได้จากที่ไกลถึงจังหวัดชิบะ (千葉県)!

 

สำหรับจุดหมายแรก เราเดินทางไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาไฟฟูจิ (富士五湖 Fuji-goko) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามีหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ มีจุดชมวิวจำนวนมากรอบทะเลสาบซึ่งให้วิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของภูเขาไฟฟูจิ แต่ก่อนอื่นก่อนใดนั้นเราไปเริ่มกันที่สถานที่ซึ่งสูงไปบนท้องฟ้ากันเถอะ!

 

การเดินทางไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ

ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 115 นาที JR Shinjuku ไปยังสถานี Kawaguchiko ของเส้นทางรถไฟสาย FUJIKYU RAILWAY (富士急行線 河口湖駅) จากที่นั้นให้นั่งรถบัสท่องเที่ยวฟูจิคิวโคคาวากูจิโกะ สายสีแดง (Fujikyuko Kawaguchiko Sightseeing Bus - Red Line) ไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ การเดินทางด้วยรถบัสใช้เวลา 5-20 นาทีขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางที่คุณชอบและที่จะลงรอบๆทะเลสาบ

 

นั่งโรปเวย์ฟูจิพาโนราม่า (Mt. Fuji Panoramic Ropeway) (เครดิตภาพ: Stephen Spencer / CC BY-NC-SA 2.0)

 

หนึ่งในวิธีการที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในการสนุกเพลิดเพลินไปกับวิวของภูเขาไฟฟูจิก็คือการนั่งโรปเวย์ฟูจิพาโนราม่า (Mt. Fuji Panoramic Ropeway) ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของทะเลสาบคาวากูจิโกะ โรปเวย์จะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปสูง 400 เมตร ไปยังจุดชมวิวซึ่งให้วิวทิวทัศน์ที่สวยจนคุณหยุดลืมหายใจ วิวของทะเลสาบเบื้องล่างกับภูเขาที่อยู่ห่างออกไป

 

ภูเขาไฟฟูจิจากจุดชมวิว (เครดิตภาพ: やまなし観光推進機構)

 

และนี่เป็นข้อเท็จจริงน่าสนุกสำหรับคุณ คุณทราบไหมว่าฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิ นั่นเป็นเพราะว่าอากาศแห้งกว่าโดยเฉพาะเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ ซึ่งทำให้ภูเขาไฟฟูจิมองเห็นได้ดีกว่าแม้กระทั่งจากตำแหน่งที่อยู่ไกล อย่างไรก็ตามในฤดูร้อนมองไม่เห็นภูเขาบ่อยในหลายๆวันเพราะว่าอากาศบริเวณรอบเต็มไปด้วยหมอกบ่อยเนื่องจากความชื้น

 

โรปเวย์ฟูจิพาโนราม่า (Mt. Fuji Panoramic Ropeway 富士山パノラマロープウェイ)
เข้าถึง: นั่งรถบัสจากสถานี Kawaguchiko บน Kawaguchiko Sightseeing Bus (สายสีแดง)

 

② ชมภูเขาไฟฟูจิจากบริเวณรอบๆทะเลสาบคาวากูจิโกะ

ทัศนียภาพภูเขาไฟฟูจิจากสวนนางาซากิ (Nagasaki Park) (บน), สวนโออิเกะ (Ōike Park) (ล่างขวา), และสวนโออิชิ (Ōishi Park) (ล่างซ้าย) (เครดิตภาพ: Kawaguchiko.net (บน), photoAC (ล่าง))

 

ทะเลสาบคาวากูจิโกะมักจะได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสถานที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิ และนั่นไม่เพียงแต่เพราะว่าตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และความใกล้กับภูเขา แต่ยังเพราะว่าระดับของสูงของทะเลสาบ ในบรรดาทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากูจิโกะมีระดับความสูงน้อยที่สุด ทำให้นักท่องเที่ยวได้วิวมุมมองสูงของภูเขา และทำให้ดูยิ่งใหญ่และขนาดใหญ่โต

 

แผนที่ของทะเลสาบคาวากูจิโกะ (เครดิตภาพ: Google Maps)

 

หลังจากที่นั่งโรปเวย์แล้ว เราสามารถลงมาและสำรวจจุดชมวิวของภูเขาไฟฟูจิรอบทะเลสาบ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสท้องถิ่นของบริษัทฟูจิคิวโค (Fujikyuko) และเที่ยวไปยังจุดที่เป็นที่นิยมเช่น สวนโออิชิ (Ōishi Park 大石公園) สวนนางาซากิ (Nagasaki Park 長崎公園) และสวนโออิเกะ (Ōike Park 大池公園) นี่เป็นเคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ทิวทัศน์ที่ดีที่สุดคือจากชายฝั่งด้านทิศเหนือ เช่น สวนโออิชิและสวนนางาซากิที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจับภาพวิวของภูเขาพร้อมกันกับทะเลสาบ

 

③ ดูชมเพชรบนท้องฟ้า

ทะเลสาบยามะนะคะโกะในฤดูหนาวกับภูเขาไฟฟูจิอยู่เบื้องหลัง (เครดิตภาพやまなし観光推進機構)

 

ทะเลสาบยามะนะคะโกะ (Lake Yamanakako) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาไฟฟูจิและเป็นทะเลสาบที่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด และมันยังเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่อยู่ระดับสูงที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้งห้าด้วยความสูง 982 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หลังจากชมทะเลสาบคาวากูจิโกะแล้ว เรามุ่งหน้าสู่ทะเลสาบนี้ที่ซึ่งมีบิ๊กเซอร์ไพรส์รออยู่

 

“ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji)เมื่อมองจากทะเลสาบยามะนะคะโกะ (เครดิตภาพやまなし観光推進機構)

 

ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม นักท่องเที่ยวที่โชคดีที่ทะเลสาบยามะนะคะโกะสามารถเห็นปรากฏการณ์ที่รู้จักกันในชื่อ ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) (ダイヤモンド富士) เมื่อพระอาทิตย์ซ้อนกับยอดภูเขาไฟฟูจิซึ่งดูเหมือนกับเพชรที่เปล่งประกายอยู่บนท้องฟ้า ภาพวิวทิวทัศน์นี้สามารถมองเห็นได้ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ณ ตำแหน่งอื่นๆ แต่เนื่องจากทะเลสาบยามะนะคะโกะตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของภูเขาไฟฟูจิ ทำให้สามารถมองเห็นเพียงระหว่างตอนพระอาทิตย์ตกเท่านั้น

 

ฝูงชนผู้ชื่นชมถ่ายภาพกำลังจับภาพวิวทิวทัศน์ของไดมอนด์ฟูจิ” (เครดิตภาพやまなし観光推進機構)

 

ยิ่งไปกว่านั้น “ไดมอนด์ฟูจิ” สามารถชมและเพลิดเพลินที่ทะเลสาบยามะนะคะโกะได้เป็นช่วงเวลายาวนานตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ โดยปกติจะพบเห็นได้เป็นบางครั้งประมาณ 15.30 น. ใกล้ครีษมายัน (ประมาณวันที่ 22 ธันวาคม). และประมาณ 16.30 น. ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับกำหนดเวลารายวัน คุณจะต้องตรวจสอบแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่น ๆ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ที่นี่

 

สิ่งที่ทำให้ภาพวิวทิวทัศน์ที่ทะเลสาบนี้มีเสน่ห์น่าหลงใหลเป็นพิเศษก็คือ “ผลสะท้อนกระจก mirror effect” ซึ่งปรากฏเมื่อวิวทิวทัศน์สะท้อนบนพื้นน้ำที่ใสของทะเลสาบ ดังนั้นภาพวิวที่งดงามดึงดูดฝูงชนผู้ชื่นชอบถ่ายภาพมายังทะเลสาบยามะนะคะโกะเพื่อจับภาพวิวทิวทัศน์สำหรับพวกเขาเอง

 

แผนที่ของทะเลสาบยามะนะคะโกะ (เครดิตภาพ: Google Maps)

 

มีจุดรวมทั้งหมด 9 จุดที่ซึ่งผู้คนสามารถได้ทัศนียภาพอันงดงามของ “ไดมอนด์ฟูจิ” รวมไปถึงจุดบริเวณรอบทะเลสาบยามะนะคะโกะที่กล่าวข้างล่าง

 

  • จุดชมวิวพาโนราม่า (Panorama Observatoryパノラマ台)
  • สวนริมทะเลสาบอาซาฮีกะโอกะ (Asahigaoka Lakeside 旭日丘湖畔緑地公園)
  • บริเวณหน้าชายหาดฮิราโนะ (Hirano Lakefront 平野湖畔)
  • สวนน้ำนากะอิเคะ (Nagaike Water Park長池親水公園)
  • สวนดอกไม้ฮานะ โนะ มิยาโกะ (Hana no Miyako Flower Park花の都公園)

 

ไดมอนด์ฟูจิที่ทะเลสาบยามะนะคะโกะ (เครดิตวีดีโอ山中湖村観光課)

 

การเดินทางไปยังทะเลสาบยามะนะคะโกะ

นั่งรถบัสท้องถิ่นฟูจิคิวโคสาย Fujikko-go Line (F Line) จากสถานี Kawaguchiko ไปยังป้าย Fujisan Yamanakako (Hotel Mount Fuji Iriguchi)  (富士山山中湖(ホテルマウント富士入口))รถบัสออกทุกชั่วโมงและการเดินทางใช้เวลาประมาณ 55 นาที

 

④ สนุกเพลิดเพลินไปกับแสงฤดูหนาวที่น่าประทับใจและดอกไม้ไฟ

เทศกาลเทียนน้ำแข็งยามะนะคะโกะ (เครดิตภาพやまなし観光推進機構)

 

เมื่อตกกลางคืน นักท่องเที่ยวที่ไปยังทะเลสาบยามะนะคะโกะจะสามารถชมเทศกาลเทียนน้ำแข็งยามะนะคะโกะ (Yamanakako Ice Candles Festival 山中湖アイスキャンドルフェスティバル) ที่ซึ่งเทียนที่ทำจากน้ำแข็งจะถูกจุดบนพื้นและดอกไม้ไฟจะถูกจุดต่อภูเขาไฟฟูจิที่เป็นพื้นหลัง มันเป็นอีเวนต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด และภาพวิวของแสงเทียนบนพื้นหิมะสีขาวประกอบกับดอกไม้ไฟบนท้องฟ้าเป็นบางอย่างที่พวกเขาต้องมาชมสำหรับพวกเขาเอง

 

เทศกาลเทียนน้ำแข็งยามะนะคะโกะ (Yamanakako Ice Candles Festival 山中湖アイスキャンドルフェスティバル)
วันที่: โดยปกติในเดือนกุมภาพันธ์ และวันที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ฉบับปี 2024 คือวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์
เวลา: 4pm–8pm (เทียนจุดตั้งแต่เวลา 4:30pm และดอกไม้ไฟเวลา 6pm)
สถานที่: Yamanakako Communication Plaza KIRARA (山中湖交流プラザ きらら)
การเดินทาง: นั่งรถบัส 70 นาทีจากสถานีคาวากุจิโกะ Kawaguchiko หรือนั่งรถบัส 15 นาทีจากป้ายรถ Hotel Mount Fuji Iriguchi
ค่าตั๋ว: ฟรี

 

ดอกไม้ไฟฤดูหนาวที่ทะเลสาบยามะนะคะโกะในตอนกลางคืน (เครดิตภาพ: photoAC)

 

หลังจากการท่องเที่ยวไปยังทะเลสาบยามะนะคะโกะแล้ว เรากลับไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นดูยิ่งใหญ่งดงาม เมื่อตกกลางคืนนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ดอกไม้ไฟฤดูหนาวทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko Winter Fireworks 河口湖冬花火) งานฤดูหนาวประจำปีที่ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นดอกไม้ไฟสีสันสวยบนท้องฟ้ากลางคืนสดใสต่อภูเขาไฟฟูจิที่เป็นพื้นหลัง

 

ดอกไม้ไฟถูกจุดจากหลายจุดรอบทะเลสาบ เช่น สวนโออิเกะ สวนยากิซาคิ (Yagisaki Park八木崎公園) และ ทะทามิอิวะ (Tatamiiwa畳岩) ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถชมได้จากหลายตำแหน่งรอบทะเลสาบ ยิ่งไปกว่านั้นนักท่องเที่ยวผู้ซึ่งพักอยู่ที่โรงแรมรอบทะเลสาบสามารถชมภาพอันน่าตื่นเต้นนี้ด้วย ทำให้เป็นประสบการณ์การพักโรงแรมที่ลืมไม่ลง

 

ดอกไม้ไฟฤดูหนาวทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko Winter Fireworks河口湖冬花火)
วันที่: วันหยุดสุดสัปดาห์ระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ (วันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น) และ 23 กุมภาพันธ์ (วันภูเขาไฟฟูจิ) *วันที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี โดยฉบับปี 2024 จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึง 18 กุมภาพันธ์
เวลา: 8pm–8:20pm
สถานที่แนะนำ: สวนโออิเกะ (สถานที่จัดงานหลัก) และสวนยากิซาคิ
การเดินทาง:
   สวนโออิเกะ: เดิน 15 นาที จากสถานี Kawaguchiko หรือนั่งรถบัสนำเที่ยว Kawaguchiko (สายสีแดง) 7 นาที ลงที่ป้าย Kawaguchiko Herb Hall (河口湖ハーブ館)
   สวนยากิซาคิ: เดิน 30 นาทีจากสถานี Kawaguchiko หรือนั่งรถบัส Saiko Sightseeing Bus (สายสีเขียว) 12 นาที ลงที่ป้าย Yagasaki Park
ค่าตั๋ว: ฟรี

 

พักที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะ

ที่พักรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ (เครดิตภาพ: photoAC)

 

สำหรับวันที่ 1 นักท่องเที่ยวสามารถพักหนึ่งในโรงแรมออนเซ็นจำนวนมาก ซึ่งพวกเขาสามารถเลือกได้จากรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความหลากหลายของที่พักและแขกที่โรงแรมส่วนใหญ่สามารถเพลิดเพลินกับวิวที่สวยงามมหัศจรรย์ของภูเขาไฟฟูจิได้ตรงจากห้องของเขาและออนเซ็น

 

การที่สามารถลงไปแช่ในน้ำออนเซ็นอุ่นๆในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บและการที่มองชมภูเขาที่สวยโอ่อ่าสง่างามไปในเวลาเดียวกัน เป็นประสบการณ์ราวกับสวรรค์ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องสัมผัสอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต

 

วันที่ 2: ฮาโกเน่

สำหรับวันที่ 2 นักท่องเที่ยวสามารถออกจากทะเลสาบคาวากูจิโกะและสำรวจไปยังจุดอื่นๆในบริเวณรอบๆได้อย่างง่ายดายโดยนั่งรถบัสท้องถิ่นของบริษัทฟูจิคิวโคหรือบริษัทโอดะคิว (Odakyu 小田急) จริงๆแล้วนักเดินทางสามารถพิจารณาที่จะใช้ตั๋วพาส Fujikyuko Mt. Fuji Pass ซึ่งใช้นั่งได้ไม่จำกัดในรถบัสท้องถิ่นและรถไฟในบริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ หรือตั๋วพาส Odakyu Fuji Hakone Pass ซึ่งรวมไปไกลถึงบริเวณฮาโกเน่ ตั๋วพาสสามารถซื้อได้ที่สถานี Kawaguchiko และทำให้เป็นทางเลือกที่เยี่ยมยอดสำหรับนักเดินทางท่องเที่ยวไปยังเขตนี้!

 

⑤ ฮาโกเน่ เมืองที่มีวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของภูเขาไฟฟูจิ

คุณทราบไหมว่าฮาโกเน่ (Hakone 箱根) ในจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa Prefecture神奈川県) มีจุดชมวิวที่สุดยอดเช่นเดียวกับวิวจากทะเลสาบคาวากูจิโกะและทะเลสาบยามะนะคะโกะด้วย สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฮาโกเน่เป็นที่ชื่นชอบมาอย่างยาวนานในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ การเดินทางที่ง่ายจากโตเกียวและความใกล้ชิดกับภูเขาไฟฟูจิ ทำให้สะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปที่นั่นและสนุกเพลิดเพลินไปกับวิวที่สวยงามมหัศจรรย์ของภูเขาตามเส้นทาง

 

จังหวัดยามะนะชิ (Yamanashi Prefecture山梨県) อาจจะมีสถานที่จำนวนมากที่ให้หลายวิวที่สวยที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ แต่คุณทราบไหมว่าจังหวัดคานากาว่ามีจุดจำนวนมากที่มีวิวซึ่งยอดเยี่ยมพอๆกัน จุดจำนวนมากนั้นสามารถพบได้ที่ฮาโกเน่ เมืองที่มีมากกว่าเพียงแค่ออนเซ็นและท่องเที่ยวมายังที่นี่สามารถได้ภาพวิวทิวทัศน์ของภูเขาจากระดับความสูงที่สูงด้วยเช่นกัน

 

ที่ฮาโกเน่เราสามารถเลือก 1 ใน 2 กิจกรรม ซึ่งทั้งสองให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำด้วยข้อได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์ของภูเขาไฟฟูจิ ไปเช็คกันว่ามันคืออะไร

 

การเดินทางไปยังฮาโกเน่

การเดินทางครั้งนี้ต้องมีการเปลี่ยนรถหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าจุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณอยู่ที่ไหน จากคาวากุจิโกะ นั่งรถบัสท้องถิ่นฟูจิคิวโกะที่มุ่งหน้าไปยังสถานีเจอาร์โกเท็มบะ (JR御殿場駅) ใช้เวลา 75 นาที จากที่นั่นคุณสามารถขึ้นรถบัสทางหลวงโอดะคิวไปยังเซ็นโงกุหรือโทเก็นได ก่อนที่จะใช้บริการขนส่งรูปแบบต่างๆ ที่ดำเนินการโดยโอดะคิวเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณ

 

ทางเลือกที่ 1: อีกวิวหนึ่งของภูเขาไฟฟูจิจากท้องฟ้า

นั่งโรปเวย์ฮาโกเน่โคมะกะทะเคะ (Hakone Komagatake Ropeway) สำหรับวิวที่น่าตื่นเต้นประทับใจ (เครดิตภาพ: PRINCE HOTELS,INC.)

 

ยังไม่เพียงพอสำหรับวิวของภูเขาไฟฟูจิจากท้องฟ้า ใช่ไหม? ดังนั้นไปนั่งอีกหนึ่งโรปเวย์อีกครั้งขณะที่อยู่ที่ฮาโกเน่กัน นักท่องเที่ยวผู้ซึ่งรักพาโนราม่าวิวของภูเขาและบริเวณโดยรอบสามารถนั่งโรปเวย์ฮาโกเน่โคมะกะทะเคะ (Hakone Komagatake Ropeway)  ไม่เพียงสามารถเพลิดเพลินวิวโดยรอบได้อย่างเต็มที่แต่ยังสามารถเบิ่งตาชมทะเลสาบอะชิโนะโกะที่สงบนิ่ง (Lake Ashinoko芦ノ湖) จากโรปเวย์

 

ภูเขาไฟฟูจิเมื่อมองจากภูเขาฮาโกเน่-โคมะกะทะเคะ (เครดิตภาพ: Guilhem Vellut / CC BY-NC-SA 2.0)

 

ในวันฟ้าใสภูเขาไฟฟูจิสามารถมองเห็นได้จากภูเขาฮาโกเน่-โคมะกะทะเคะด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาดโดยเฉพาะในฤดูหนาวเมื่อบริเวณโดยรอบถูกปลกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว โปรดทราบว่าในขณะที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงกระเช้าลอยฟ้าได้โดยตรงด้วยรถบัสจากสถานี JR Gotemba โดยลงที่ป้ายรถบัส Hakone-en (箱根園) มีบริการดังกล่าวเพียงวันละหนึ่งเที่ยวเท่านั้น และสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นผ่าน Togendai.

 

โรปเวย์ฮาโกเน่โคมะกะทะเคะ (Hakone Komatagatake Ropeway箱根駒ヶ岳ロープウェー)
เข้าถึง: นั่งรถบัสจากโทเก็นได 15 นาที
*โรปเวย์อาจจะปิดเนื่องจากสภาวะอากาศเลวร้าย และช่วงเวลาบำรุงรักษาและตรวจสอบประจำ

 

ทางเลือกที่ 2: วิวทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิจากยอดเขาอื่น

วิวทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิจากยอดภูเขาคินโทคิ (เครดิตภาพ: 箱根町観光課)

 

วิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงามไม่ธรรมดาอีกครั้งจากยอดภูเขาอื่นอีกไหม? ลองไปที่ภูเขาคินโทคิดูซิ (Mount Kintoki金時山) จุดที่เป็นที่ชื่นชอบมากในหมู่ผู้ชื่นชอบการปีนเขา นักท่องเที่ยวผู้ปีนไปยังยอดเขาจะได้สนุกเพลิดเพลินไปกับวิวที่สุดยอดของภูเขา และเนื่องจากเพราะว่ามันเดินทางได้ง่ายจากฮาโกเน่ทำให้มันเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบออนเซ็นในฐานะกิจกรรมผลพลอยได้ การปีนภูเขาในฤดูหนาวเป็นสิ่งที่จัดการได้และปฏิบัติได้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถลองทำดูได้

 

มันเป็นสิ่งที่รู้สึกพิเศษที่จะชมวิวภูเขาหนึ่งจากอีกภูเขาหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมันเป็นวิวของภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าคุณไม่เคยลองชมภูเขาไฟฟูจิจากภูเขาลูกอื่น ลองดูสักครั้งและคุณจะพบว่าทำไมผู้คนมากมายรู้สึกว่ามันเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินวิวทิวทัศน์นั้นๆ

 

การเดินทางไปภูเขาคินโทคิ

จากสถานี JR Gotemba นั่งรถบัส Hakone Tozan 20 นาทีและลงที่ป้าย Sengoku (仙石) หรือป้าย Kintoki-Tozanguchi (金時登山口) เส้นทางปีนเขาเริ่มจากทั้งสองป้ายรถบัสและใช้เวลาปีนประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที แนะนำนักท่องเที่ยวอย่างยิ่งให้เช็คสภาพอากาศก่อนที่จะตัดสินใจปีนเขา

 

พักที่โอดะวาระ

เมืองโอดะวาระโดยมีสถานี JR Odawara อยู่ตรงกลาง (เครดิตภาพ: photoAC)

 

หลังจากที่ท่องเที่ยวสำรวจฮาโกเน่แล้ว เราเดินทางย้ายไปยังเมืองโอดะวาระ (city of Odawara小田原市) เพื่อพักหนึ่งคืน ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของจังหวัดคานากาว่า เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นประตูสำหรับนักเดินทางท่องเที่ยวไปยังฮาโกเน่และเขตบริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ ต้องขอบคุณเครือข่ายรถไฟที่เชื่อมผ่านสถานี JR Odawara (JR小田原駅)

 

มันเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอดที่จะสรุปจบหลังจากใช้เวลาเต็มวันในการเยี่ยมชมจุดชมวิว โดยเฉพาะเมื่อเมืองนั้นมีทางเลือกที่ดีสำหรับที่พักและทำหน้าที่เป็นจุดพักผ่อนที่ดีสำหรับวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย!

 

การเดินทางไปโอดะวาะร

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในพื้นที่ฮาโกเน่ (โทเก็นได, เซ็นโกกุ, ฮาโกเน่-ยุโมโตะ) มีหลายวิธีในการไปยังสถานี JR โอดาวาระ เช่น รถไฟฮาโกเน่โทซัง รถบัสหรือเคเบิลคาร์ ตลอดจนกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่และการล่องเรือชมทิวทัศน์

 

วันที่ 3: โอดะวาระ & ยูกะวาระ

สำหรับวันที่ 3 นักท่องเที่ยวสามารถกำหนดการเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวสำรวจสถานที่ที่น่าตื่นเต้นอื่นๆในจังหวัดคานากาว่า หลังจากสองวันในการเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์จำนวนมากที่สวยงามเยี่ยมยอดของภูเขาไฟฟูจิ มันได้เวลาที่จะไปสำรวจค้นหาบางอย่างที่แตกต่างในจังหวัดนี้

 

สิ่งต่อไปในการเดินทางท่องเที่ยวก็คือ เราจะไปดูสถานที่อื่น 2 แห่งที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวที่สวยงามสง่างามก่อนที่สรุปจบทริปการเดินทางครั้งนี้

 

⑦ เยือนปราสาทโอดะวาระ

ปราสาทโอดะวาระในเมืองโอดะวาระ (เครดิตภาพ小田原市)

 

สำหรับผู้คนจำนวนมาก ทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะไม่สมบูรณ์โดยปราศจากการไปเยือนปราสาท ญี่ปุ่นมีปราสาทจำนวนมากไปทั่วประเทศซึ่งเป็นที่แพร่หลายในความร่ำรวยทางประวัติศาสตร์และมรดกวัฒนธรรม และกระทั่งปราสาทจำนวนมากมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและลักษณะที่โดดเด่น เมืองโอดะวาระ (小田原市) เป็นที่ตั้งของปราสาทเช่นกัน และนักท่องเที่ยวจะพบว่ามันเป็นสิ่งที่เพลิดเพลินที่จะชมปราสาทในฤดูหนาว

 

ปราสาทโอดะวาระ (小田原城 Odawara-jō) เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญหลักของโอดะวาระ และเป็นหนึ่งในร้อยปราสาทที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น (日本百名城 Nihon Hyaku-Meijō) แรกเริ่มถูกสร้างในศตวรรษที่ 15 ปราสาทถูกสร้างใหม่หลายครั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยการสร้างใหม่ครั้งล่าสุดนั้นเสร็จในปี 2016

 

ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงโดยปกติแล้วจะเป็นฤดูที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาชื่นชมปราสาท แต่ฤดูหนาวก็เป็นช่วงเวลาที่เยี่ยมยอดเช่นกันในการมาเยือน โอดะวาระไม่ค่อยมีหิมะตกมากนักแม้กระทั่งในฤดูหนาว ดังนั้นมันเป็นเวลาที่ดีในการมาเยี่ยมเยือนชมปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองและชื่นชมยกย่องความยิ่งใหญ่ของมัน

 

ปราสาทโอดะวาระ (小田原城)
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานี JR Odawara

 

ลำดับถัดไป เราไปยังยูกะวาระ (Yugawara 湯河原町) เมืองที่ตั้งอยู่ไกลไปทางทิศใต้ของจังหวัดคานากาว่า ที่นี่มีเซอร์ไพรซ์พิเศษซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวลุ่มหลงสำหรับฤดูหนาว โดยเฉพาะผู้ซึ่งรักดอกไม้และสภาพภูมิประเทศที่มีดอกไม้โดดเด่นน่าประทับใจ

 

การเดินทางไปยูกะวาระ

จากสถานี JR Odawara นั่งรถไฟสาย JR Tōkaidō Line (JR東京上野線) ไปยังสถานี JR Yugawara (JR湯河原駅) การเดินทางใช้เวลาประมาณ 20 นาที

 

⑧ ชมจ้องมองดอกบ๊วยบานมหัศจรรย์ที่ยูกะวาระ

ดอกบ๊วยบานเต็มที่ที่สวนมาคุยามะ (Makuyama Park) (เครดิตภาพ湯河原町)

 

ผู้คนส่วนใหญ่คาดหวังดอกไม้ในระหว่างฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นมันจึงเป็นความประหลาดใจที่พวกเขาสามารถชมดอกไม้ได้แม้กระทั่งฤดูหนาว นักท่องเที่ยวรอบเขตกรุงโตเกียวสามารถมุ่งหนึ่งไปยังเมืองยูกะวาระเพื่อชมดอกไม้พันธุ์พิเศษ ดอกบ๊วยบาน

 

ที่สวนมาคุยามะ (幕山公園 Makuyama-kōen) ในเมืองยูกะวาระ มีเทศกาลดอกไม้อุเมะโนะอุทะเกะ (Ume no Utage 梅の宴) เริ่มจากต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงกลางเดือนมีนาคม เมื่อนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่กว้างขวางของกลีบดอกสีชมพูและดอกบ๊วยสีขาวเต็มสวน บ๊วยมากกว่า 4,000 ต้นบานระหว่างช่วงเวลานี้ และนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาที่นี่เพื่อชมมัน เมืองนี้ค่อนข้างมีอากาศอบอุ่นทำให้เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการที่ดอกไม้จะเจริญเติบโตเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับส่วนใหญ่ที่อื่นที่บานหลัง

 

ภาพมุมใกล้ของดอกบ๊วยบาน (เครดิตภาพ湯河原町)

 

ในระหว่างช่วงนี้ จะมีการออกร้านอาหาร (屋台 yatai) และการแสดงบนเวทีที่สวนซึ่งผู้คนสามารถสนุกเพลิดเพลินได้ มันเป็นงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสำหรับทุกคนในระหว่างช่วงเวลานี้ และสภาพพื้นที่ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง โปรดทราบว่านักท่องเที่ยวสามารถไปจากสถานี JR Yugawara ไปยังสวนได้ด้วยรถบัสและลงที่ป้าย Makuyama Kōen (幕山公園)

 

สวนมาคุยามะ (Makuyama Park 幕山公園)
การเดินทาง: *นั่งรถบัสท้องถิ่น 15 นาทีจากสถานี JR Yugawara
*ในระหว่างฤดูเทศกาล จะมีชัตเติ้ลบัสประจำฤดูวิ่งบ่อยครั้งกว่าปกติ.

 

รถไฟซีรี่ย์ E257 ใช้สำหรับรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express Odoriko (เครดิตภาพ: JR East)

 

โดยจุดนี้ เรามาจนถึงจุดจบของทริปท่องเที่ยว 3 วันไปยังบริเวณรอบๆภูเขาไฟฟูจิ หลังจากไปเยือนท่องเที่ยวเมืองยูกะวาระ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางกลับโตเกียวได้ง่ายๆโดยนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express Odoriko (踊り子) จากสถานี JR Yugawara ตรงกลับไปยังสถานี JR Tōkyō (JR東京駅) การเดินทางนั่งรถไฟนี้ใช้เวลาไม่เกิน 80 นาทีทำให้สะดวกสบายและวิธีที่ราบรื่นในการกลับไปยังในเมือง

 

ปิดท้าย

ตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass ให้โอกาสนักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวสำรวจโตเกียวและเขตบริเวณโดยรอบ และฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเดินทางไปรอบภูมิภาค มันมีการเดินทางค้นพบเปิดหูเปิดตาจำนวนมากที่ซึ่งนักท่องเที่ยวควรไปเที่ยวเช็คดู และด้วยตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass และทางเลือกในการขนส่งอื่นๆจำนวนมากรอบๆบริเวณภูเขาไฟฟูจิ มันกลายเป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นระหว่างฤดูหิมะตก

 

โปรดทราบว่าสำหรับแผนการเดินทางตามที่อธิบายไว้ การเดินทางโดยตรงระหว่างคาวากุจิโกะและฮาโกเน่ไม่ครอบคลุมอยู่ในบัตร JR TOKYO Wide Pass

 

ดังนั้นใส่สถานที่ข้างต้นลงในรายการท่องเที่ยวของคุณและเตรียมตัวแพลนการเดินทางท่องเที่ยวของคุณสำหรับการผจญภัยในฤดูหนาวหน้าเมื่อคุณก้าวเท้ามาถึงญี่ปุ่นอีกครั้ง!

 

JR TOKYO Wide Pass

ตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass และพื้นที่ใช้ตั๋ว (เครดิตภาพ: JR East)

 

ถ้าคุณจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังโตเกียวและบริเวณโดยรอบ เช็คดูตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass ตั๋วพาสที่ราคาไม่แพง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ไม่จำกัดด้วยสายรถไฟของ JR East (รวมทั้งชินคันเซ็น) ในพื้นที่ที่สามารถใช้ได้สำหรับ 3 วันติดต่อกัน ราคาเพียง 15,000 ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวไปรอบภูมิภาคนี้ คุณก็สามารถจองที่นั่งชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษบางขบวนและ Joyful Trains ทางออนไลน์ฟรีล่วงหน้าถึง 1 เดือนได้ที่นี่

 

ตั๋วพาส JR TOKYO Wide Pass สามารถใช้กับช่องทางเข้าอัตโนมัติ และผู้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นซึ่งถือพาสปอร์ตต่างชาติก็สามารถใช้ตั๋วพาสนี้ได้ด้วย

 

เครดิตภาพส่วนหัวやまなし観光推進機構 (บน), 湯河原町 (ล่างขวา) and 小田原市 (ล่างซ้าย)

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Share this article:
TSC-Banner