ยินดีต้อนรับการกลับมาของเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line! ฉันนั่งรถไฟตลอดสาย Tadami Line และคุณก็ควรลองดูด้วย

เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่มีทิวทิศน์สวยงามมากที่สุดสายหนึ่งของญี่ปุ่น มีระยะทาง 135.2 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างสถานี Aizu-Wakamatsu (会津若松駅 Aizu-Wakamatsu-eki) ในจังหวัดฟุคุชิมะ (福島県 Fukushima-ken) กับสถานี Koide (小出駅 Koide-eki) ในจังหวัดนีกาตะ (新潟県 Niigata-ken)
ในเดือนกรกฎาคม 2011 ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและสร้างความเสียหายอย่างหนักกับเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ทำลายและกวาดไปทั้งสะพานสถานีและรางรถไฟ บริการรถไฟในหลายๆส่วนของเส้นทางรถไฟ Tadami Line ถูกระงับและแทนที่ด้วยบริการรถบัส หลังจากหลายปีของการพูดคุยระหว่างผู้ให้บริการรถไฟ—East Japan Railway Company (JR East)— กับรัฐบาลท้องถิ่นและมีการตัดสินใจว่าพวกเขาจะทำงานร่วมกันเพื่อที่จะซ่อมแซมเส้นทางรถไฟสายนี้
ป้ายบอกการกลับมาเดินรถอีกครั้งและงานอาร์ตเวิร์กที่สถานี Aizu-Wakamatsu (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ในที่หลังจากใช้เวลากว่า 11 ปี เส้นทางรถไฟทั้งสายก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2022 ! ช่วงระยะทาง 27 กิโลเมตรระหว่างสถานี Aizu-Kawaguchi กับสถานี Tadami ได้ถูกเชื่อมต่ออีกครั้งด้วยรางรถไฟเป็นครั้งแรกในกว่า 11 ปี คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชื่นชอบรถไฟเพื่อมานั่งรถไฟสายนี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเพื่อสนับสนุนการสร้างอีกครั้งและการเปิดให้บริการอีกครั้งเพื่อที่จะสำรวจไปยังเมืองใกล้เคียงและสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่เยี่ยมยอดมหัศจรรย์
เส้นทางรถไฟสาย Tadami Line (เครดิตภาพ: Google Maps)
ในชุดบทความ 2 ตอนนี้เราจะสำรวจไปยังเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ที่ยอดเยี่ยมมาก ตอนที่ 1 เราเช็คไปยังบางจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยงามซึ่งง่ายในการเดินทางเข้าไปถึง และสำหรับตอนที่ 2 ฉันจะแบ่งปันประสบการณ์การนั่งรถไฟตลอดทั้งสายในเดือนพฤศจิกายน 2022 หลังจากที่กลับมาให้บริการอีกครั้ง คุณพร้อมแล้วหรือยัง? ไปกันเลย!
เวลา 5:45 น. : ขึ้นรถไฟ
รถไฟเต็มแล้ว ณ เวลา 5:45 น. (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ในวันแรกของฉันที่ไอซุวาคะมัทสึ ฉันนั่งรถบัส Oku-Aizu Burari Tabi เพื่อสำรวจไปยังบางจุดถ่ายรูปที่สวยงามตามเส้นทางรถไฟ แต่ในวันที่สอง ในที่สุดฉันก็ได้นั่งรถไฟ! ฉันได้ยินมาว่าตั้งแต่การกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง นักท่องเที่ยวท้องถิ่นจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาเพื่อสนับสนุนเส้นทางรถไฟสายนี้และเพื่อมาเยือนท่องเที่ยวสำหรับพวกเขาเอง แต่ฉันไม่เคยคาดคิดว่ารถไฟจะเต็มไปด้วยผู้คนก่อนเวลาออก 20 นาที ในตอนแรกฉันคิดว่าฉันเต็มไปด้วยความกระตือรือล้นแต่กลับกลายเป็นว่าใครใครทุกคนมีความกระตือรือล้นยิ่งกว่า ตอนที่ฉันขึ้นรถไฟประมาณ 5:45 น. ไม่มีที่นั่งเหลืออีกแล้วและฉันต้องเตรียมใจสำหรับการยืนตลอดการขึ้นรถไฟ 4.5 ชั่วโมง
เวลา 6:08 น.: ออกจากสถานี Aizu-Wakamatsu
สภาพอากาศปลอดโปร่งเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
มีรถไฟเพียง 3 ขบวนต่อวันเท่านั้นที่จะวิ่งตลอดทั้งสายจากสถานี Aizu-Wakamatsu ไปยังสถานี Tadami และขบวนแรกออกในเวลา 6:08 น. มันเป็นวันที่มีหมอกอย่างไม่คาดฝันและเมื่อรถไฟออก วิวทิวทัศน์ถูกบดบังไปหมดในความขาว
โชคดี เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นแล้วอุณหภูมิสูงขึ้นและหมอกหายไปหลีกทางให้กับวิวอันสวยงามของแม่น้ำทาดะมิมันเป็นฤดูใบไม้ร่วงและมีสีสันที่สดใสตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า แม้ว่าจะต้องยืนแต่ฉันก็จัดการยึดมุมใกล้กับประตูดังนั้นฉันจึงสามารถดูออกไปนอกหน้าต่างและชมวิวทิวทัศน์ที่ผ่านไปเมื่อไรก็ตามที่ฉันต้องการ
บางอย่างทำให้ฉันประหลาดใจแต่ก็ทำให้ฉันปรารถนาว่าฉันน่าจะนึกถึงเก้าอี้พับ ฉันประหลาดใจที่เห็นผู้ช่ำชองในการนั่งรถไฟท้องถิ่นผู้ซึ่งนำเก้าอี้พับมาเองและพวกเขากางเก้าอี้นั่งข้างหน้าต่างอยู่ฝั่งตรงข้าม ช่างเป็นความคิดที่เยี่ยมยอด
เวลา 7:04 น.: สถานี Aizu-Yanaizu
รถไฟหัวรถจักรไอน้ำที่สถานี Aizu-Yanaizu เมื่อมองจากรถไฟที่นั่งอยู่ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ประมาณเวลา 7:04 น. รถไฟผ่านสถานี Aizu-Yanaizu (柳津駅 Aizu-Yanaizu-eki) บางอย่างพิเศษสำหรับสถานี Aizu-Yanaizu คือรถไฟหัวรถจักรไอน้ำเก่า (SL) C11 244 จัดแสดงข้างสถานี ซึ่งฉันได้มองแวบเดียวเมื่อรถไฟเข้าสถานี โชคไม่ดีรถไฟไม่จอดที่นี่นานมากและเราไม่สามารถลงไปเพื่อรูปที่ดีกว่า
ถ้าคุณมีเวลา ฉันแนะนำให้ลงที่สถานี Aizu-Yanaizu เพื่อสำรวจบริเวณนี้ และนั่งรถไฟขบวนถัดไปเพื่อเดินทางต่อไปยังเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line บริเวณสถานี Aizu-Yanaizu คุณสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์มากโดยมีต้นแบบมาจากรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ SL การนั่งเรือ 40 นาทีระยะทาง 4 กิโลเมตรจะผ่านสะพานซุยโคจิ (Zuikoji) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง และคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำทาดะมิซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่คุณเห็นจากการนั่งรถไฟ
วิวทิวทัศน์ของแม่น้ำทาดะมิจากวัดเอ็นโซจิ (Enzoji Temple) (เครดิตภาพ: photoAC)
อีกสถานที่หนึ่งที่น่าไปเยือนคือวัดเอ็นโซจิ (Enzoji Temple, 圓蔵寺 Enzoji) วัดที่อยู่ไหล่เขาที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าสร้างเมื่อกว่า 1,200 ปีก่อน ถ้าคุณมาเยือนเขตไอซุ คุณน่าจะเคยเห็นลวดลายของวัวสีแดงสดใสที่รู้จักกันในชื่อ อะคะเบ็คโคะ (akabeko 赤べこ) คุณทราบไหมว่าเชื่อกันว่าวัดเอ็นโซจิเป็นสถานที่กำเนิดของอะคะเบ็คโคะ มีตำนานว่าตอนที่กำลังสร้างวัดนั้นพบกับความยากลำบากในการขนย้ายเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์แต่วัวแดงปรากฏออกมาและช่วยขน ตั้งแต่นั้น อะคะเบ็คโคะ กลายเป็นสัญลักษณ์สำหรับการป้องกัน โชคดีและเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดี วัดเอ็นโซจินั่นตั้งอยู่เดิน 10 นาทีจากสถานี Aizu-Yanaizu
เวลา 7:29 น.: สถานี Aizu-Miyashita
สถานี Aizu-Miyashita (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หนึ่งในสถานีที่รถไฟจอดนานคือสถานี Aizu-Miyashita (会津宮下駅 Aizu-Miyashita-eki) ที่ซึ่งจอดประมาณ 10 นาทีเพื่อรอรถไฟผ่าน เส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ส่วนใหญ่เป็นรางเดี่ยว ดังนั้นรถไฟต้องรถที่สถานีเพื่อให้แต่ละขบวนผ่านไปได้โดยไม่ชนกันระหว่างอยู่บนรางรถไฟ เนื่องจากมีเวลา ฉันจึงลงจากรถเพื่อยืดขาและเพื่อเก็บแสตมป์ของสถานีรถไฟ
แสตมป์แรลลี่ในฟุคุชิมะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
เพื่อเป็นที่ระลึกของการครบรอบ การครบรอบ 150 ปีของการรถไฟญี่ปุ่น บางสถานีในจังหวัดฟุคุชิมะเมื่อเร็วๆนี้ได้ทำการเปลี่ยนแสตมป์ใหม่และกำลังมีแสตมป์แรลลี่ (つなぐふくしまスタンプラリー) ถ้าคุณเก็บแสตมป์ได้ 3 ใน 10 สถานีที่กำหนดคุณจะได้ชุดป้ายพิน ฉันได้แสตมป์มาแล้วจากสถานี Koriyama และสถานี Aizu-Wakamatsu เมื่อวันก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นแสตมป์ที่สามของฉัน ฉันแสดงแผ่นแสตมป์ของฉันให้กับเจ้าหน้าที่สถานี และได้รางวัลเป็นชุดป้ายพินน่ารัก
วิวทิวทัศน์ของรถไฟกำลังวิ่งข้ามสะพานแม่น้ำทาดะมิหมายเลข 1 เมื่อมองจากจุดชมวิว D (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
สถานี Aizu-Miyashita ก็ยังเป็นที่ซึ่งคุณควรลงด้วยถ้าคุณจะไปจุดชมวิวสะพานแม่น้ำทาดะมิหมายเลข 1 โดยขนส่งมวลชน จากสถานี Aizu-Miyashita มีคอมมูนิตี้บัสที่ออกเวลา 8:10 น. ซึ่งไปยังสถานีพักข้างทาง Michi-no-eki Mishimajuku ที่ซึ่งเป็นที่ที่สามารถเข้าถึงจุดชมวิวได้ การนั่งรถไฟสาย Tadami Line ครั้งแรก เมื่อกุมภาพันธ์ 2020 นั่นเป็นการนั่งมาที่สถานีนี้ที่ซึ่งฉันนั่งรถบัสนั้นไปยังจุดชมวิว
เวลา 8:15 น. สถานี Aizu-Kawaguchi
สถานี Aizu-Kawaguchi (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
จุดที่รถไฟจอดนานจุดถัดไปคือสถานี Aizu-Kawaguchi (会津川口駅 Aizu-Kawaguchi-eki) ที่ซึ่งรถไฟรอรถไฟอีกขบวนผ่าน รางรถไฟที่นี่อยู่ข้างแม่น้ำทาดะมิเลยดังนั้นฉันสามารถได้วิวมหัศจรรย์ของรถไฟคู่กันกับแม่น้ำและสีสันของฤดูใบไม้ร่วง
ก่อนที่เส้นทางรถไฟสาย Tadami Line จะกลับมาให้บริการอีก สถานี Aizu-Kawaguchi เป็นจุดสิ้นสุดบริการรถไฟ และ บริการรถบัสแทนวิ่งจากที่นี่ สะพานส่วนใหญ่ที่โดนทำลายอย่างหนักโดยน้ำท่วมปี 2011 นั้นอยู่ในช่วงที่อยู่เหนือไปกว่าสถานี Aizu-Kawaguchi
สถานี Aizu-Kawaguchi เป็นที่คุณควรลงจากรถไฟและเดินไปยังจุดชมวิวคาเนะยามะ ฟุเรไอ ฮิโรบะ (Kaneyama Fureai Hiroba) ที่ซึ่งฉันได้กล่าวไว้ใน ตอนที่ 1 ที่นี่เป็นจุดประมาณครึ่งทางของเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ขณะที่มีรถไฟเพียง 3 ขบวนต่อวันที่วิ่งระหว่าง Aizu-Wakamatsu กับ Koide แต่มีรถไฟ 6 ขบวนต่อวันที่วิ่งระหว่าง Aizu-Wakamatsu กับ Aizu-Kawaguchi.
ป้ายแสดงความยินดี (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากที่รถไฟออกจากสถานี Aizu-Kawaguchi ผู้โดยสารจะได้ประสบการณ์บางอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมากว่าทศวรรษ นั่นก็คือการนั่งรถไฟระหว่างสถานี Aizu-Kawaguchi กับสถานี Tadami (只見駅 Tadami-eki) ตลอดเส้นทางฉันเห็นป้ายนับจำนวนไม่ได้ที่เป็นข้อความอบอุ่นใจแสดงความยินดีและความรู้สึกขอบคุณประดับโดยชุมชนท้องถิ่น ผู้คนจำนวนมากโบกมือให้รถไฟที่ผ่านไปด้วย ผู้คนที่ยืนที่บ้านหรือท้องนาของเขาหรือผู้คนบนรถที่กำลังคอย ณ จุดตัดระหว่างถนนกับเส้นทางรถไฟ
เส้นทางรถไฟสาย Tadami Line เป็นสายท้องถิ่นมากๆในชนบท ดังนั้นคุณจะไม่เห็นตึกสูงหรือถนนกว้างๆ แต่แทนที่ด้วยคุณจะหลงเสน่ห์ไปกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติซึ่งน่าหลงไหลบ้านที่ดูแปลกตาและชุมชนท้องถิ่นที่อบอุ่น
เวลา 9:07 น.: สถานี Tadami
รถไฟหยุดนานที่สถานี Tadami (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
จุดที่รถไฟหยุดนานจุดสุดท้ายคือที่สถานี Tadami ณ เวลา 9:07 น. สถานีที่ใช้ชื่อเดียวกันกับเส้นทางรถไฟ รถไฟจอดที่นี่ประมาณ 30 นาที ดังนั้นผู้โดยสารทุกท่านได้แรงสนับสนุนให้ลงจากรถไฟไปดู ตอนนั้นท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและสภาพอากาศก็สวยงาม เป็นช่วงเวลาสีสันฤดูใบไม้ร่วงด้วยจึงให้พื้นหลังสีส้มอันแพรวพราย
ของฝากของเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ใกล้กับสถานีเป็นศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและร้านค้าซึ่งขายของฝากพิเศษของเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line หนึ่งในของที่มีเอกลักษณ์มากประกอบไปด้วย ข้าวสารที่มีภาชนะบรรจุรูปร่างรถไฟสาย Tadami Line สถานี Tadami เป็นสถานีสุดท้ายก่อนที่จะเข้าไปในฝั่งจังหวัดนีกาตะของเส้นทางรถไฟ และจังหวัดนีกาตะมีชื่อเสียงในเรื่องข้าว โดยเฉพาะเขตอุโอนุมะซึ่งเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line วิ่งผ่าน ของฝากอื่นๆประกอบไปด้วย มาสกิ้งเทป เสื้อทีเชิ้ตรุ่นพิเศษและอื่นๆ กับการที่เป็นผู้หลงไหลในมาสกิ้งเทปอย่างฉัน ช่วยไม่ได้จริงๆที่ฉันจะซื้อหมดทุกแบบทุกลาย…
วิวทิวทัศน์จากรถไฟบางที่ระหว่างสถานีTadami กับสถานี Oshirakawa (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากสถานี Tadami รถไฟจะข้ามเขตแดนระหว่างจังหวัดฟุคุชิมะ-จังหวัดนีกาตะก่อนที่จะถึงสถานีOshirakawa ระยะทางยืดยาวกว่า 20 กิโลเมตร ช่วงนี้เป็นระยะทางที่ยาวที่สุดระหว่างสองสถานีในระหว่างเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line จริงๆแล้วนี่เป็นหนึ่งในช่วงที่มีระยะทางยาวที่สุดระหว่างสถานีสำหรับเส้นทางรถไฟสายท้องถิ่น รถไฟวิ่งระหว่างสถานี Tadami กับสถานี Oshirakawa ใช้เวลานานมาก 29 นาที และมันเป็นเพียงแค่หนึ่งสถานี! ระหว่างเส้นทางมีโอกาศจำนวนมากด้วยที่จะได้ชมสีสันฤดูใบไม้ร่วงจากหน้าต่าง
เวลา 9:58 น. : สถานีО̄shirakawa
สีสันฤดูใบไม้ร่วงบริเวณรอบๆสถานี Oshirakawa (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ประมาณเวลา 9:58 น. รถไฟถึง สถานี Oshirakawa สถานีแรกในฝั่งจังหวัดนีกาตะของเส้นทางรถไฟสายTadami Line รอบๆบริเวณนี้สีสันฤดูใบไม้ร่วงนั้นมีชีวิตชีวาและสวยสง่างามโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอุโมงค์รถสีแดงในระยะไกล
ทุ่งนาอันกว้างใหญ่ในฝั่งจังหวัดนีกาตะของเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
สถานี О̄shirakawa ตั้งอยู่ในเมืองอุโอนุมะ (魚沼市 Uonuma-shi) สถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องข้าวที่อร่อยโดยเฉพาะข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ (koshihikari コシヒカリ) เมื่อรถไฟวิ่งไปตามเส้นทางลึกเข้าไปในฝั่งจังหวัดนีกาตะ วิวทิวทัศน์เปลี่ยนจากสีสันฤดูใบไม้ร่วงเป็นทุ่งนากว้างใหญ่
เวลา 10:41 น. : ถึงสถานี Koide
สุดท้ายที่สถานี Koide (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ในที่สุด ณ เวลา 10:41 น. หลังจากกว่า 4.5 ชั่วโมงของการยืน รถไฟเข้าไปถึงสถานี Koide สถานีปลายทางฝั่งจังหวัดนีกาตะของเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line มี 36 สถานีรถไฟบนเส้นทางรถไฟนี้แต่โดยความสัตย์จริงการนั่งรถไฟนี้ไม่รู้สึกจริงๆว่ายาวนาน เพราะว่าหลากหลายที่รถไฟหยุดและวิวทิวทัศน์ที่เยี่ยมยอดฉันโชคดีที่ได้อยู่ริมหน้าต่างและสามารถมองออกไปอย่างรวดเร็วไปยังวิวทิวทัศน์ข้างนอกที่สวยงามน่าทึ่ง
ถ้าคุณเดินทางด้วยสัมภาระที่หนัก โปรดทราบว่าไม่มีบันไดเลื่อนหรือลิฟท์ที่สถานี Koide (และสถานี Aizu-Wakamatsu ตรงชานชลาที่ฉันนั่งออกมา) ดังนั้นควรเผื่อเวลาระหว่างการเคลื่อนย้ายเพื่อเอาสัมภาระขึ้นและลงบันได
ปิดท้าย
ยินดีต้อนรับกลับมา เส้นทางรถไฟสาย Tadami Line (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจาก 11 ปีอันยาวนาน เส้นทางรถไฟ Tadami Line ทั้งสายในที่สุดได้กลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า การเปิดอีกครั้ง (再開 saikai) และการพบกันอีกครั้ง (再会 saikai) ออกเสียงเหมือนกัน จริงๆแล้วการเปิดกลับมาให้บริการอีกครั้งของเส้นทางรถไฟจะนำไปสู่การพบกันอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่รู้สึกดีมากเลยที่ได้เห็นการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากนักท่องเที่ยวท้องถิ่นผู้ซึ่งหลั่งไหลมายังเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line เมื่อมันกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง บางทีความจริงที่ว่ามันเป็นฤดูใบไม้ร่วงจึงเพิ่มเสน่ห์ดึงดูด แต่มีแรงสนับสนุนมากมายจนต้องมีการเพิ่มบริการรถไฟเป็นพิเศษ
ถ้าคุณไปภูมิภาคตะวันออกของญี่ปุ่น ฉันหวังว่าคุณจะสามารถได้นั่งรถไฟสาย Tadami Line และท่องเที่ยวไปยังเมืองตลอดเส้นทาง อย่าเพียงแค่ไปเยือน ควรใช้เวลาหนึ่งหรือสองคืนที่ชนบทไอซุที่มหัศจรรย์ สนุกเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อาหารและผู้คน
การเดินทางไปที่นั่น
สถานี Aizu-Wakamatsu และสถานี Koide (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
เส้นทางรถไฟสาย Tadami Line วิ่งระหว่างสถานี Aizu-Wakamatsu ในจังหวัดฟุคุชิมะกับสถานี Koide ในจังหวัดนีกาตะ มีรถไฟวิ่งเพียง 3 ขบวนต่อวันในแต่ละทิศทางที่วิ่งตลอดทั้งเส้นทาง แต่ยังมีรถไฟอีกบางขบวนที่วิ่งเส้นทางสั้นกว่า Aizu-Wakamatsu↔Aizu-Kawaguchi หรือ Koide↔️Oshirakawa.
- Aizu-Wakamatsu:จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟชินคันเซน Tohoku Shinkansen ไปยังสถานี Koriyama (~80 นาที) หลังจากนั้นเปลี่ยนรถไฟไปเป็นสาย Ban-etsu West Line นั่งไปยังสถานี Aizu-Wakamatsu (~70 นาที)
- Koide:จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟชินคันเซน Joetsu Shinkansen ไปยังสถานี Urasa (~100 นาที) หลังจากนั้นเปลี่ยนรถไฟไปเป็นสาย Joetsu Line นั่งไปยังสถานี Koide (~10 นาที)
ถ้าคุณคิดจะนั่งเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line หรือท่องเที่ยวสำรวจจังหวัดฟุคุชิมะและจังหวัดนีกาตะ พิจารณา JR EAST PASS ตั๋วพาส JR EAST PASS (Tohoku area) และ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) ให้ส่วนลดจำนวนมากและไม่เหมือนตั๋วพาสอื่นๆส่วนใหญ่ ตั๋วพาสนี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติทุกคนแม้กระทั่งคนต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่น ตั๋วพาสทั้งคู่สามารถนั่งรถไฟของ JR East ได้ไม่จำกัด (รวมทั้งรถไฟชินคันเซนและรถไฟ Joyful Train) ในเขตที่กำหนด 5 วันติดต่อกัน
JR EAST PASS (Tohoku area)
ตั๋วพาส JR EAST PASS (Tohoku area) และที่ที่คุณสามารถใช้พาสได้ (เครดิตภาพ: JR East)
ถ้าคุณจะท่องเที่ยวเยือนภูมิภาคโทโฮคุ พิจารณา JR EAST PASS (Tohoku area) เป็นตั๋วพาสที่ราคาไม่แพงและสามารถนั่งรถไฟของ JR East ได้ไม่จำกัด (รวมทั้งชินคันเซน) ในเขตที่กำหนด 5 วันติดต่อกันด้วยราคาเพียง 20,000 เยน ซึ่งราคาถูกกว่าตั๋วไป-กลับระหว่างสถานี Tokyo กับสถานี Aizu-Wakamatsu (25,000 เยน) สำหรับเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมระหว่างสถานี Aizu-Wakamatsu ถึงสถานี Tadami คุณสามารถจองที่นั่งสำหรับชินคันเซนและรถไฟด่วนพิเศษบางสายและรถไฟ Joyful Train ทางออนไลน์ได้ฟรี ล่วงหน้าได้สูงสุด 1 เดือนที่เว็บจองที่นั่งรถไฟของ JR-EASTที่เว็บนี้
JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
ตั๋วพาส JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) และที่ที่คุณสามารถใช้พาสได้ (เครดิตภาพ: JR East)
ถ้าคุณจะท่องเที่ยวเยือนจังหวัดนีกาตะและจังหวัดนากาโน่ พิจารณา JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) เป็นตั๋วพาสที่ราคาไม่แพงและสามารถนั่งรถไฟของ JR East ได้ไม่จำกัด (รวมทั้งชินคันเซน) ในเขตที่กำหนด 5 วันติดต่อกันด้วยราคาเพียง 18,000 เยน ซึ่งราคาถูกกว่าตั๋วไป-กลับระหว่างสถานี Tokyo กับสถานี Koide (~23,000 เยน) สำหรับเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมระหว่างสถานี Oshirakawa ถึงสถานี Koide คุณสามารถจองที่นั่งสำหรับชินคันเซนและรถไฟด่วนพิเศษบางสายและรถไฟ Joyful Train ทางออนไลน์ได้ฟรี ล่วงหน้าได้สูงสุด 1 เดือนที่เว็บจองที่นั่งรถไฟของ JR-EASTที่เว็บนี้
ทั้งตั๋วพาส JR EAST PASS (Tohoku area) และตั๋วพาส JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) สามารถใช้ได้กับประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติ และผู้ที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติและอาศัยในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋วพาสเหล่านี้ได้
เครดิตภาพส่วนหัว: photoAC
ข้อมูลถูกต้องเมื่อเดือนพศฤจิกายน 2022 ตารางเวลาวิ่งรถไฟอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบก่อนนั่ง