การท่องเที่ยวทางรถไฟที่มหัศจรรย์และสนุกสนานด้วยรถไฟ D&S Trains ของ JR Kyushu : ฉบับเส้นทางไหล่เขา
เกาะคิวชูเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยิ่งใหญ่สง่างามและทัศนียภาพทางธรรมชาติที่มีเสน่ห์ และจะมีอะไรดีไปกว่ารถไฟอีกในการสำรวจเกาะนี้? รถไฟท่องเที่ยวของ JR Kyushu ที่เป็นที่รู้จักกันในนาม รถไฟที่มีการออกแบบและเรื่องราว Design & Story Trains (D&S Trains) ซึ่งเต็มไปด้วยลักษณะที่เด่นและการออกแบบที่สวยสง่า และเต็มไปด้วยคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้โดยสารสนุกเพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ที่สวยงามน่าทึ่งและทัศนียภาพที่ผ่านไป อย่างที่ชื่อได้บอกไว้ แต่ละรถไฟ D&S Train มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและเรื่องราวเบื้องหลัง แต่ตั้งเป้าจะพาผู้โดยสารไปยังการเดินทางท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสนุกและความทรงจำรอบคิวชู
รถไฟที่จะแนะนำในบทความชุดนี้ (เครดิตภาพ: Carissa Loh)
ในกรณีที่คุณพลาดบทความซึ่งเราแนะนำรถไฟ D&S Train 3 ขบวนที่วิ่งเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลในบทความก่อนหน้านั้น คุณสามารถเช็คได้จากลิ้งค์นี้ ในบทความนี้เราจะไปดูรถไฟ D&S Train อีก 3 ขบวนที่วิ่งเส้นทางภูเขาและที่ราบสูง ดูถึงเรื่องราวที่น่าสนใจเบื้องหลังรถไฟเหล่านั้น และดูถึงบางทัศนียภาพที่น่าอัศจรรย์และแหล่งท่องเที่ยวที่คุณสามารถสนุกเพลิดเพลินได้ คุณพร้อมสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟที่มหัศจรรย์และสนุกสนานแล้วหรือยัง? ไปกันเลย~
④ YUFUIN NO MORI: รถไฟ D&S Train รุ่นบุกเบิก
เส้นทาง: สถานี Hakata (博多駅) ↔ สถานี Yufuin (由布院駅)・สถานี Beppu (別府駅) บนเส้นทางรถไฟสาย Kyudai Main Line
รถไฟขบวนแรกที่เราจะแนะนำก็คือ YUFUIN NO MORI (ゆふいんの森) ซึ่งเป็นรถไฟ D&S Train รุ่นบุกเบิก YUFUIN NO MORI เป็นรถไฟท่องเที่ยวขบวนแรกของ JR Kyushu และพาผู้โดยสารไปบนการเดินทางท่องเที่ยวที่ผ่อนคลายไปยัง ยุฟุอิน (Yufuin 由布院) ออนเซ็นที่เป็นตัวแทนจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของคิวชู YUFUIN NO MORI วิ่งไปบนเส้นทางรถไฟสาย Kyudai Main Line (久大本線) หลักๆระหว่างสถานี Hakata (博多駅) กับสถานี Yufuin (由布院駅) แม้ว่าบางขบวนจะวิ่งต่อไปยังสถานี Beppu (別府駅)
YUFUIN NO MORI (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
YUFUIN NO MORI เปิดตัวครั้งแรกในปี 1989 เป็นรถไฟมีชื่อเสียงเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รักไม่เพียงผู้โดยสารแต่ยังรวมไปถึงผู้คนท้องถิ่น รถไฟเพิ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีในเดือนมีนาคม 2019 และยังคงเป็นที่ชื่นชอบต่อไปในหมู่นักท่องเที่ยวที่มายังคิวชู
รถไฟได้แรงบรรดาลใจจากเมืองออนเซ็น ยุฟุอิน ซึ่งจำลองตามสปารีสอร์ทสไตล์ยุโรป และรถไฟมีลักษณะการตกแต่งภายนอกเป็นสีเขียวมรกตอย่างสวยสง่าออกแบบตามภาพลักษณ์ของรถไฟที่วิ่งผ่านภูเขาในยุโรป จากหน้าต่างขนาดใหญ่และห้องโดยสารยกระดับสูงคุณสามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่ขยายออกของทัศนียภาพที่สูงซึ่งขยายตัวต่อหน้าสายตาคุณ ไม่เพียงแค่เป็นรูปแบบหนึ่งของการขนส่ง แต่ YUFUIN NO MORI ทำให้คุณได้ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่หรูหราและสบายผ่อนคลายบนการเดินทางของคุณสู่ยุฟุอิน
ได้วิวทิวทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ของเทือกเขามิโนะจากเส้นทางรถไฟสาย Kyudai Main Line (เครดิตภาพ:久留米観光コンベンション国際交流協会)
เส้นทางรถไฟสาย Kyudai Main Line ผ่านทัศนียภาพที่มหัศจรรย์จำนวนมาก เช่น ทุ่งข้าวชนบท พืชพันธุ์เขียวขจีและแม่น้ำไหลผ่าน และหน้าต่างบานใหญ่ของ YUFUIN NO MORI จะทำให้คุณสนุกเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์เหล่านั้นได้อย่างเต็มอิ่มจุใจ จับตาดูเทือกเขามิโนะระหว่างสถานี Kurume กับสถานี Hita น้ำตกจิอนระหว่างสถานี Sugikawachi กับสถานี Kita-Yamada และวงเวียนกลับรถจักรบุนโกะโมริ (Bungo Mori Roundhouse) ระหว่างสถานี Bungo-Mori กับสถานี Era
ข้อแนะนำ : เพื่อวิวที่ดีที่สุดสำหรับจุดเหล่านี้ให้นั่งฝั่งที่นั่ง “C” และ “D”
รถไฟ YUFUIN NO MORI 2 แบบและสะพานที่เชื่อมรถ (เครดิตภาพ: Carissa Loh and JR Kyushu)
คุณทราบไหมว่า จริงๆแล้ว YUFUIN NO MORI มี 2 แบบ ยุคหนึ่ง (I世) และยุคสาม (III世) แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนกัน (ขบวนที่มีเส้นสีทองเพิ่มคือรถไฟยุคหนึ่ง) แต่การตกแต่งภายในและสิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟนั้นแตกต่างกัน เมื่อมองดูการตกแต่งภายนอกของรถไฟจะดูเหมือนว่าสูงกว่ารถไฟส่วนใหญ่อื่นๆ ไม่ใช่หรือ? เพื่อจะให้ผู้โดยสารได้วิวของทัศนียภาพภูเขาที่ดียิ่งขึ้น ห้องโดยสารถูกสร้างให้ยกระดับสูงขึ้น และรถไฟยุค 3 มีแม้กระทั่งสะพานเชื่อมและบันไดบนรถไฟ
การตกแต่งภายในที่สวยสง่าของรถไฟ YUFUIN NO MORI (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
แม้ว่าขบวนรถไฟทั้งสองแบบมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในการตกแต่งภายใน แต่ทั้งสองแบบมีการออกแบบที่สวยงามทันสมัย ด้วยลายผ้าของที่นั่งที่เป็นสีเขียวชอุ่มซึ่งสะท้อนถึงชื่อของรถไฟ “YUFUIN NO MORI” ที่แปลตามตัวอักษรว่า “ป่าของยุฟุอิน (Forest of Yufuin)” ขบวนรถไฟยุค 1 มีพื้นที่ฟรีทำด้วยไม้สวยงามด้วยหน้าต่างจากพื้นถึงเพดานและที่นั่งหันหน้าเข้าหาหน้าต่าง ที่ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้เพื่อสนุกเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่ผ่านไป ขบวนรถไฟยุค 3 มีที่นั่งเป็นกลุ่มที่มีโต๊ะอยู่ตรงกลางซึ่งกลุ่ม 3-4 คนสามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับการพูดคุยได้ดียิ่งขึ้น
ทานอะไรเล็กน้อยและดื่มอะไรบางอย่าง (เครดิตภาพ: JR Kyushu and Carissa Loh)
การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสถานี Hakata กับสถานี Yufuin ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 15 นาทีซึ่งสมบูรณ์แบบสำหรับทานอะไรบางอย่างหรือดื่มเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นและคลายกระหาย YUFUIN NO MORI มี 4-5 ตู้ดังนั้นข้อแนะนำหนึ่งก็คือตรงไปยังเคาร์เตอร์ขายให้เร็วที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ เพราะว่าจะมีการเข้าคิวแน่นอน
ข้าวกล่องเบ็นโตะจะต้องมีการสั่งจองล่วงหน้า ซึ่งสามารถจองได้ล่วงหน้า 1 เดือนถึง 2 วันทำการก่อนรถไฟออก (การสั่งจองสามารถทำได้เพียงโดยโทรศัพท์และภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) ถ้าคุณไม่ได้จัดการจองข้าวกล่องเบ็นโตะ คุณยังสามารถเลือกจากของว่างเช่น ไส้กรอก ไก่ คุกกี้ ไอศครีมและอื่นๆ
สำหรับเครื่องดื่ม เราแนะนำ Yuzu Honey Squash (ゆずみつスカッシュ yuzu mitsu sukasshu) อย่างยิ่ง เครื่องดื่มที่สวยงามทำจากผลไม้ยูซุและน้ำผึ้งจากเมืองฮิตะ (Hita City) เป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของความหวานและความเปรี้ยว และรสชาติที่ทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างยิ่ง
ซื้อของฝากบางอย่างบนรถไฟ YUFUIN NO MORI (เครดิตภาพ: JR Kyushu and Carissa Loh)
ก่อนที่คุณจะลงจากรถไฟ ซื้อของบางอย่างเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับการนั่งรถไฟของคุณไหม? ผู้โดยสารทุกท่านจะได้รับโปสการ์ดที่ระลึก ดังนั้นอย่าลืมประทับตราด้วยตราพิเศษซึ่งมีเพียงบนรถไฟเท่านั้น ยังมีสินค้าธีม YUFUIN NO MORI ขายอีกด้วย เช่น ผ้าขนหนู พวงกุญแจ แฟ้มพลาสติคใส่เอกสารขนาด A4 ผ้าห่อของฟุโรชิคิ (Furoshiki) ของเล่นโมเดลรถไฟและอื่นๆ ถ้าคุณเดินทางกับเด็ก มีแม้กระทั่งมุมถ่ายรูปที่ซึ่งเด็กๆสามารถลองสวมชุดและหมวกคนขับรถไฟ และถ่ายรูปที่ระลึกได้
สถานี Yufuin
แช่เท้าลงในออนเซ็นเท้าที่สถานี Yufuin (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั่งรถไฟ YUFUIN NO MORI เป็นไปได้มากไปยังหรือจากสถานี Yufuin สิ่งพิเศษบางอย่างสำหรับสถานีนี้ก็คือ ออนเซ็นเท้า (足湯 ashiyu) ซึ่งตั้งอยู่ตรงบนชานชลาสถานี ราคาตั๋วค่าบริการแช่เท้าเพียง 200 เยนและตั๋วสามารถซื้อได้ที่เคาร์เตอร์ขายตั๋ว ตั๋วมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่เอาไว้เช็ดเท้าให้แห้งและสามารถนำกลับไปบ้านเป็นของที่ระลึกได้ ด้วยตำแหน่งที่สะดวกทำไมคุณไม่แช่เท้าอย่างรวดเร็วเพื่อทำให้กระปรี้กระเปร่าจากความเหนื่อยล้า
ยุฟุอินออนเซ็น
ออนเซ็นกลางแจ้งกับวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมมหัศจรรย์ของภูเขายุฟุ (เครดิตภาพ: ツーリズムおおいた)
เมืองออนเซ็น ยุฟุอิน ในจังหวัดโออิตะเป็นหนึ่งในออนเซ็นที่ได้จัดระดับชั้นสูงมากและเป็นที่รักในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในที่ลุ่มแม่น้ำและล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่สวยงามจำนวนมากโดยเฉพาะภูเขายุฟุ ยุฟุอินเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับออนเซ็นกลางแจ้ง (露天風呂 rotenburo) ซึ่งให้วิวที่น่าทึ่งของภูเขายุฟุในระยะไกล
นอกจากแขกที่พักค้างคืนแล้ว ออนเซ็นรีสอร์ทจำนวนมากก็รับนักท่องเที่ยวกลางวันด้วย ตลอดถนนสายหลักของเมืองคุณสามารถพบกับร้านค้าจำนวนมาก พิพิธภัณฑ์ศิลปะเล็กๆ คาเฟ่ร่วมสมัยและร้านเบเกอรี่และขนมอร่อยๆ ซึ่งทำให้ยุฟุอินเป็นสถานที่วิเศษยอดเยี่ยมสำหรับทั้งการท่องเที่ยวแบบค้างคืนและแบบไปเช้าเย็นกลับ
ทะเลสาบคินริน
ทะเลสาบคินรินยามเช้า (เครดิตภาพ: ツーリズムおおいた)
จุดที่ต้องไปชมระหว่างที่อยู่ที่ยุฟุอินก็คือ ทะเลสาบคินริน (金鱗湖 Kinrinko) ซึ่งเป็นระยะเดิน 1.5 กิโลเมตรจากสถานี Yufuin ทั้งน้ำเย็นและน้ำออนเซ็นไหลลงไปยังทะเลสาบเล็กๆ หากคุณมาในวันที่อากาศเย็นโดยเฉพาะในตอนเช้า คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยภาพอันสวยงามของทะเลสาบปกคลุมไปด้วยหมอกที่ดูลึกลับซึ่งเป็นน้ำออนเซ็นที่ละเหยบนผิวน้ำ
ชื่อ คินริน หมายถึง “เกล็ดทอง” กล่าวกันว่านักปราชญ์ขงจื๊อได้เห็นปลาในทะเลสาบ เกล็ดของมันเปล่งประกายเป็นสีทองสวยงามยามพระอาทิตย์ตกดิน ดังนั้นจึงตั้งชื่อทะเลสาบตามที่ได้เห็นเกล็ดปลานั้น
ชมภายในรถไฟ YUFUIN NO MORI อย่างเสมือนจริง (เครดิตภาพ: Google Maps and JR Kyushu)
รถไฟ YUFUIN NO MORI วิ่งเพียง 2-3 รอบไป-กลับต่อวัน และวิ่งทุกวัน คุณสามารถเช็คเว็บไซต์นี้สำหรับข้อมูลตารางเวลาวิ่งรถไฟ YUFUIN NO MORI ได้มากขึ้น
รถไฟขาเดียวระหว่างสถานี Hakata กับสถานี Yufuin ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาทีและราคา 5,190 เยน แต่จะฟรีถ้าคุณใช้ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass หรือ Northern Kyushu Rail Pass
⑤ ASO BOY!: สนุกสนานได้ทั้งทุกคนในครอบครัว
เส้นทาง: สถานี Kumamoto (熊本駅) ↔ สถานี Beppu (別府駅) บนเส้นทางรถไฟสาย Hohi Main Line
ท่องเที่ยวกับลูกเด็กเล็กๆ? ถ้าใช่ รถไฟขบวนถัดไป ASO BOY! (あそぼーい!) เหมาะสำหรับคุณมาก รถไฟขบวนนี้วิ่งบนเส้นทางรถไฟสาย Hohi Main Line (豊肥本線) ระหว่างสถานี Kumamoto (熊本駅) กับสถานี Beppu (別府駅) และชื่อของมันก็เป็นการเล่นคำ “asobo” (遊ぼう) ที่แปลว่ามาเล่นกันเถอะ กับคำว่า Aso (阿蘇) เขตภูเขาสวยที่รถไฟวิ่งผ่าน
รถไฟ ASO BOY! (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เส้นทางรถไฟสาย Hohi Main Line ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างมากระหว่างแผ่นดินไหวคุมาโมโตะปี 2016 ได้รับการบูรณะสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม 2020 และในที่สุดรถไฟ ASO BOY! ก็ได้เริ่มวิ่งอีกครั้ง เปี่ยมไปด้วยความสุขของผู้โดยสารและผู้คนท้องถิ่นผู้ซึ่งรอคอยหลายปีสำหรับการกลับมาของรถไฟขบวนนี้
รถไฟ ASO BOY! มีมาสคอตเป็นของตนเอง คุโรจัง (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีในปี 2021 รถไฟ ASO BOY! ได้ถูกสร้างขึ้นโดยมีครอบครัวในใจและถูกกำหนดให้เป็นรถไฟที่เต็มไปด้วยความสนุกเช่นเดียวกับสวนสนุก ซึ่งเชื้อเชิญทั้งผู้ใหญ่และเด็กไปยังการเดินทางท่องเที่ยวที่ผจญภัย
คุณทราบไหมว่า รถไฟ ASO BOY! มีกระทั่งมาสคอตเป็นของตัวเอง สุนัขสีดำน่ารักชื่อ อะโซคุโรเอมอน (Aso Kuroemon) หรือรู้จักกันในอีกนามว่า คุโรจัง (Kuro-chan)
คุณสามารถสังเกตุเห็นคุโรจังได้กี่ตัว? (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ลองสังเกตุหาคุโรจังทั้งหมดที่ถูกวางออกแบบไว้กระจัดกระจายทั่วรถไฟทั้งภายในและภายนอก คุณคิดว่าคุโรจังมีจำนวนเท่าไหร่? คุณสามารถพบคุโรจังในหลากการออกแบบและหลากสไตล์ บนสถานที่เช่น ผนัง ที่นั่ง หน้าต่าง ผ้าม่านบังตา (noren) กรอบรูปและอื่นๆ บนการตกแต่งภายนอกคุณสามารถพบ 101 คุโรจังในอากัปกิริยาต่างๆ สำหรับการตกแต่งภายในทำไมคุณไม่ลองนับดูเมื่อคุณนั่งรถไฟ ASO BOY! ในครั้งหน้า
รถไฟ ASO BOY! มีการตกแต่งภายในที่สนุกสนานและมีสีสัน (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
รถไฟ ASO BOY! มีจำนวนตู้ทั้งหมด 4 ตู้ มีที่นั่งสีสันสดใสหลากรูปแบบถูกสร้างในโครงสร้างที่แตกต่าง ประกอบไปด้วย ที่นั่งสำหรับกลุ่มมีโต๊ะอยู่ตรงกลาง ที่นั่งโซฟา ที่นั่งหันหน้าเข้าหน้าต่าง ที่นั่งปกติหันไปข้างหน้าทิศทางที่รถไฟวิ่งและอื่นๆ ที่สุดขอบทั้งสองของรถไฟมีที่นั่งชมวิวทิวทัศน์มุมกว้าง 180 องศาของวิวท้องฟ้า ภูเขาและพื้นดิน และคุณสามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่ไม่มีอะไรบดบังของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่สง่างามของอะโซะ
ตู้ 3 ถูกสร้างมาเพื่อสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
บนรถไฟมีสิ่งอำนวยความสะดอกหลายอย่างที่เตรียมมาให้เด็กๆได้สนุกและสะดวกสบาย เช่น บ่อบอล มุมหนังสือและที่นั่งพิเศษ ในตู้ 3 หรือตู้ครอบครัว (ファミリー車両) บ่อบอลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์แน่นอนต้องเป็นจุดไฮไลต์สำหรับเด็กๆ พนักงานต้อนรับประจำอยู่เพื่อคอยระวังและเล่นกับเด็กๆ
ในตู้นี้ คุณสามารถพบก็ที่นั่งคุโรจังออกแบบพิเศษได้ด้วย ซึ่งถูกสร้างสำหรับผู้ปกครองและเด็กได้นั่งด้วยกันและเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพจากหน้าต่าง โดยเฉพาะที่นั่งหน้าต่างถูกสร้างมาเพื่อสำหรับเด็ก
หาอะไรทานบนรถไฟ ASO BOY! (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ถ้าคุณหิว มุ่งหน้าไปยังคาเฟ่ KURO CAFE ในตู้ 3 ห้ามพลาดข้าวกล่องเบ็นโตะคุโรจังที่น่ารักน่าชื่นชม ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆ มีจำนวนจำกัดและข้าวกล่องเบ็นโตะมี ไก่เทมปุระ (โทริเท็น toriten) และข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) จากอะโซะโปะหน้าด้วยวัตถุดิบสี่อย่างที่มีสีแตกต่างกัน
อาหารอย่างอื่นที่อร่อยและคุณต้องลองก็คือ พุดดิ้ง ซึ่งมาในรูปแบบสำหรับเด็กและรูปแบบสำหรับผู้ใหญ่ รูปแบบสำหรับเด็กนั้นทำจากไข่และนมจากอะโซะ ขณะที่รูปแบบสำหรับผู้ใหญ่นั้นมีกลิ่นหอมเหล้ารัมเพื่อเพิ่มความลึกของรสชาติ
อย่าลืมของฝากสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของคุณบนรถไฟ ASO BOY! (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
บนรถไฟคุณสามารถเข้าไปขอพนักงานต้อนรับที่มีมิตรไมตรีใจให้ถ่ายรูปที่ระลึกของคุณกับแผ่นรูปภาพ ผู้โดยสารทุกคนจะได้รับโปสการ์ดที่ระลึกที่ซึ่งคุณสามารถประทับตราด้วยตราพิเศษที่มีเพียงบนรถไฟเท่านั้น คุณสามารถซื้อสินค้าธีมคุโรจังและ ASO-BOY! รุ่นจำกัด เช่น ผ้าขนหนู กระเป๋าถือ แฟ้มพลาสติคใส่เอกสารขนาด A4 สายรัดมือถือและอื่นๆ
โปรเจควันพีซฟื้นฟูคุมาโมโตะ (One Piece Kumamoto Revival Project)
รูปปั้นอุซป (Usopp) นอกสถานี Aso (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
คุณเป็นแฟนผู้ชื่นชอบการ์ตูนเรื่องยาวที่เป็นที่นิยมทั้งเป็นการ์ตูนและอนิเมะวันพีซหรือไม่? คุณทราบหรือไม่ว่านักเขียนคุณ โอดะ เออิจิโร่ (Oda Eiichiro) เกิดในจังหวัดคุมาโมโตะ หลังจากแผ่นดินไหวคุมาโมโตะ 2016 ที่ซึ่งทำให้ส่วนใหญ่ของจังหวัดเสียหายอย่างรุนแรง คุณโอดะได้ร่วมกับทางจังหวัดคุมาโมโตะเพื่อเป็นความพยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวและโปรเจควันพีซฟื้นฟูคุมาโมโตะ ( One Piece Kumamoto Revival Project)ได้เริ่มขึ้น ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคนี้ รูปปั้นตัวการ์ตูนชื่อดังจากเรื่องวันพีซ (ลูกเรือกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง) ถูกสร้างขึ้นรอบจังหวัดคุมาโมโตะ บริเวณนอกสถานี Aso (阿蘇駅) มีรูปปั้นอุซปหนึ่งตัว ถ้าคุณมีเวลาทำไมไม่โพสท่าและถ่ายรูปคู่กับอุซปก่อนที่คุณจะไปล่ะ?
ปล่องภูเขาไฟนาคะดาเคะของภูเขาไฟอะโซะ
ปล่องภูเขาไฟนาคะดาเคะที่ภูเขาอะโซะ (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ขณะอยู่ที่อะโซะ สถานที่ที่ต้องไปให้ได้อย่างแน่นอนคือปล่องภูเขาไฟนาคะดาเคะของภูเขาอะโซะที่ยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอะโซะ-คุจู ภูเขาอะโซะ (阿蘇山 Aso-san) เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หลุมปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ของมันนั้นเป็นหนึ่งในหลุมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และบริเวณตรงกลางคุณสามารถพบห้าภูเขา
ในบรรดาทั้งห้า ทิวทัศน์ที่น่าประทับใจมากที่สุดบางทีคือ ปล่องภูเขาไฟนาคะดาเคะ (中岳火口 Nakadake-kako) ที่ซึ่งวิวทิวทัศน์อันงดงามที่สังเกตุได้เมื่อคุณเห็นควันสีขาวถูกปล่อยออกมาอย่างใกล้ชิดและรู้สึกได้ถึงพลังธรรมชาติของโลก ปล่องภูเขาไฟสามารถเข้าถึงได้ด้วยขนส่งมวลชน แต่การเข้าไปอาจจะถูกจำกัดเมื่อภูเขาไฟคุกรุ่นเป็นจำนวนมาก เมื่อสถาพอากาศแย่หรือเมื่อปริมาณก๊าซภูเขาไฟพิษมีระดับสูง
การเดินทางไปถึงปล่องภูเขาไฟนาคะดาเดะนั้น สามารถนั่งรถบัส 40 นาทีจากสถานี JR Aso ไปยังสถานี Asosan Nishi / สถานีรถบัส Aso Sanjo หลังจากนั้นต่อชัตเติ้ลบัส 5 นาทีเพื่อไปยังปากปล่องภูเขาไฟ
ชมภายในรถไฟ ASO-BOY! อย่างเสมือนจริง (เครดิตภาพ: Google Maps and JR Kyushu)
รถไฟ ASO-BOY! วิ่งเพียง 1 รอบไป-กลับต่อวัน และวิ่งส่วนใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของญี่ปุ่น คุณสามารถเช็คเว็บไซต์นี้สำหรับข้อมูลตารางเวลาวิ่งรถไฟ ASO-BOY! ได้มากขึ้น
รถไฟขาเดียวระหว่างสถานี Kumamoto กับสถานี Aso ใช้เวลาประมาณ 80 นาทีและราคา 2,410 เยน ขณะที่รถไฟวิ่งขาเดียวระหว่างสถานี Beppu กับสถานี Aso ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงและราคา 3,950 เยน แต่จะฟรีถ้าคุณใช้ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass, Northern Kyushu Rail Pass หรือ Southern Kyushu Rail Pass
⑥ KAWASEMI YAMASEMI: สนุกเพลิดเพลินไปกับความงามของภูเขาและแม่น้ำ
เส้นทาง: สถานี Hakata (博多駅) ↔ สถานี Mojiko (門司港駅) บนเส้นทางรถไฟสาย Kagoshima Line
*ฝนตกหนักในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ได้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อทางรถไฟสาย Hisatsu Line ทำให้รถไฟ KAWASEMI YAMASEMI วิ่งในช่วงที่กล่าวข้างต้นแทน
รถไฟขบวนสุดท้ายที่เราจะแนะนำคือ รถไฟ KAWASEMI YAMASEMI (かわせみやませみ) ซึ่งเป็นหนึ่งในรถไฟท่องเที่ยว D&S Trains ใหม่ล่าสุด เริ่มเดินรถครั้งแรกในปี 2017 รถไฟ KAWASEMI YAMASEMI ถูกสร้างขึ้นมาจากภาพลักษณ์ของแม่น้ำและภูเขาอันสวยงามของเขตคุมะ (Kuma 球磨) และรถไฟอันสวยงามนี้ตั้งชื่อตามนกป่าที่ท่องเที่ยวไปในธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
รถไฟ KAWASEMI YAMASEMI (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เขตคุมะล้อมรอบด้วยภูเขาสูงในทุกทิศทางที่ซึ่งแม่น้ำคุมะที่มีทิวทัศน์สวยงามไหลผ่าน เป็นที่ที่รถไฟ KAWASEMI YAMASEMI ได้รับแรงบันดาลใจจาก “Kawasemi” แปลว่า “นกกระเต็น” ขณะที่ “Yamasemi” แปลว่า “นกกระเต็นขาวดำใหญ่” และดูเหมือนว่านกสองชนิดนี้บินอย่างอิสระเหนือเขตคุมะตั้งแต่ก่อนที่มนุษย์จะตั้งถิ่นฐานที่นั้น
คุณทราบไหมว่า เดิมรถไฟ KAWASEMI YAMASEMI วิ่งในเขตคุมะบนเส้นทางรถไฟสาย Hisatsu Line (肥薩線) ระหว่างสถานี Kumamoto (熊本駅) และสถานี Hitoyoshi (人吉駅) แต่โชคไม่ดีฝนตกหนักในปี 2020 ได้ทำลายรางรถไฟช่วงนี้ ดังนั้นปัจจุบันรถไฟนี้วิ่งระหว่างสถานี Hakata (博多駅) กับสถานี Mojiko (門司港駅) อย่างไรก็ตามกรอบความคิดของรถไฟยังไม่เปลี่ยนแปลงและมุ่งเป้าหมายที่จะประชาสัมพันธ์ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และความงามของคุมะและฮิโตโยชิ (Hitoyoshi)
การตกแต่งภายนอกด้วยสีน้ำเงินและเขียวของรถไฟ KAWASEMI YAMASEMI (เครดิตภาพ: Carissa Loh)
รถไฟ KAWASEMI YAMASEMI เป็นรถไฟร่วมสมัยของญี่ปุ่นประกอบไปด้วย 2 ตู้ หนึ่งตู้เป็นสีน้ำเงิน (KAWASEMI) และหนึ่งตู้เป็นสีเขียว (YAMASEMI) สีราวกับหยกดูสง่างามนี้ได้ถูกคัดเลือกเพื่อแสดงถึงสีน้ำเงินเป็นประกายของแม่น้ำคุมะและพืชพรรณเขียวชอุ่มของภูเขาในเขตนี้ ถ้าคุณสังเกตุอย่างใกล้ชิดคุณจะเห็นแต่ละตู้มีภาพของนกทั้งสอง
ภายในตู้ KAWASEMI (เครดิตภาพ: JR Kyushu and Carissa Loh)
การตกแต่งภายในที่เก๋ทันสมัยของแต่ละตู้ก็มีธีม ด้วยสีน้ำเงินหลากเฉดได้ประดับประดาตู้ KAWASEMI รวมไปถึงมีที่นั่งพร้อมโต๊ะ และมีที่นั่งหันหน้าเข้าหน้าต่าง สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตู้ KAWASEMI ก็คือมีแม้กระทั่งมุมชมนก พร้อมครบครันไปด้วยหน้าต่างกลมขนาดใหญ่และกล้องส่องทางไกล
ภายในตู้ YAMASEMI (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ในทางตรงข้ามตู้ YAMASEMI ถูกตกแต่งด้วยลายสีเขียวทันสมัยที่ทำให้คิดถึงภาพของป่า ไม้สนซีดาร์ปลูกในท้องถิ่นจากเขตคุมะถูกใช้ในการทำพื้น ขณะที่ไม้ไซเปรสถูกใช้ทำโต๊ะและเคาร์เตอร์ ในตู้นี้มีมุมโชว์ที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงจาก ยาชิโร่ คุมะและฮิโตโยชิ เช่น โชจู (shochu 焼酎) เหล้าชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น
บริการและของฝาก (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เมื่อพูดถึงโชจู เคาร์เตอร์บริการในตู้ KAWASEMI บางครั้งจัดให้มีงานอีเวนต์ชิมโชจูและงานอีเวนต์อื่นๆแนะนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากคุมะและฮิโตโยชิ หากคุณปรารถนาอยากหาอะไรทานหรือดื่ม คุณสามารถเช็คเคาร์เตอร์บริการในตู้ YAMASEMI ที่ซึ่งขายของว่างและของฝากหลากหลายแบบ เช่น โชจูท้องถิ่นจากคุมะหรือชาท้องถิ่น
โปสการ์ดที่ระลึก (เครดิตภาพ: JR Kyushu and Carissa Loh)
รถไฟ KAWASEMI YAMASEMI วิ่งเพียง 1 รอบไป-กลับต่อวัน และวิ่งส่วนใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของญี่ปุ่น คุณสามารถเช็คเว็บไซต์นี้สำหรับข้อมูลตารางเวลาวิ่งรถไฟ KAWASEMI YAMASEMI ได้มากขึ้น
รถไฟขาเดียวระหว่างสถานี Hakata กับสถานี Mojiko ใช้เวลาประมาณ 90 นาทีและราคา 2,550 เยน แต่จะฟรีถ้าคุณใช้ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass หรือ Northern Kyushu Rail Pass
การเดินทางไปที่นั่น
ในบรรดารถไฟเหล่านี้ รถไฟอะไรที่คุณสนใจจะท่องเที่ยวไป? รถไฟเหล่านี้ทุกขบวนสามารถนั่งได้ฟรีเมื่อใช้ JR Kyushu Rail Pass ดังนั้นต้องขึ้นรถไฟเหล่านี้เพื่อการนั่งรถไฟที่มหัศจรรย์และสนุกสนานเมื่อคุณอยู่ที่คิวชูครั้งหน้า ในกรณีที่คุณพลาดมันไป เช็คตอนที่หนึ่งของบทความชุดนี้ที่ซึ่งเราได้แนะนำรถไฟ 3 ขบวนที่วิ่งผ่านไปในเส้นทางเลียบชายฝั่งและที่สูงอันสวยงาม
JR Kyushu Rail Pass
ท่องเที่ยวไปรอบคิวชูด้วยตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ถ้าคุณจะเที่ยวคิวชู เช็ค All Kyushu Rail Pass ตั๋วพาสที่ราคาไม่แพงและสามารถนั่งรถไฟของ JR Kyushu ได้ไม่จำกัดรวมทั้งชินคันเซนในเขตที่กำหนด มี 3 ช่วงเวลาสำหรับตั๋วพาสได้แก่ 3 5 และ 7 วันและราคาตั้งแต่ 17,000 ถึง 20,000 เยน ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมรถไฟทั้ง 3 ขบวนที่แนะนำไปแล้วในบทความนี้
ถ้าคุณจะท่องเที่ยวหลักๆในเขตคิวชูเหนือ (ฟุคุโอกะ โออิตะ คุมาโมโตะ นางาซากิ ซากะ) คุณสามารถเลือกตั๋วพาส Northern Kyushu Rail Pass ซึ่งมีแบบ 3 วัน (10,000เยน) หรือแบบ 5 วัน (14,000เยน) ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมรถไฟทั้ง 3 ขบวนที่แนะนำไปแล้วในบทความนี้
ถ้าคุณจะท่องเที่ยวหลักๆในเขตคิวชูใต้ (โออิตะ คุมาโมโตะ มิยาซาคิ คาโกะชิม่า) คุณสามารถเลือกตั๋วพาส Southern Kyushu Rail Pass ซึ่งมีแบบ 3 วัน ที่ราคา 8,000เยน ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมรถไฟ ASO BOY! แต่ไม่ครอบคลุมรถไฟ YUFUIN NO MORI และ KAWASEMI YAMASEMI
ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass Northern Kyushu Rail Pass และ Southern Kyushu Rail pass สามารถใช้ได้กับประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติ และสำหรับช่วงเวลาจำกัดนี้ (ถึงเดือนกันยายน 2022) ผู้ที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติและอาศัยในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋วพาสเหล่านี้ได้
เครดิตภาพส่วนหัว: JR Kyushu