Rail Report: ทริปรถไฟของผมบน HIGH RAIL 1375
คุณอยากขึ้นรถไฟที่วิ่งบนทางรถไฟของ JR ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นหรือไม่? ทางรถไฟสาย Koumi (小海線 Koumi-sen) เป็นทางรถไฟที่ครองตำแหน่งทางรถไฟที่ยกระดับสูงที่สุดในญี่ปุ่น และมีวิวบรรดาภูเขาและที่ราบที่น่าตื่นตา หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะชมบรรดาสิ่งอัศจรรย์ทางรถไฟได้ก็ไม่พ้น HIGH RAIL 1375 รถไฟ Joyful Train ที่มีคอนเซ็ปต์คือ “รถไฟที่วิ่งใกล้ท้องฟ้ามากที่สุด!”
HIGH RAIL 1375 วิ่งไปตามทางรถไฟสาย Koumi ระหว่างสถานี Kobuchizawa (小淵沢駅 Kobuchizawa-eki) ในจังหวัดยามานาชิและสถานี Komoro (小諸駅 Komoro-eki) ในจังหวัดนากาโนะ ระหว่างที่รถไฟกำลังวิ่งไปตามเส้นทาง ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวอันน่าตะลึงของเทือกเขายัตสึงะทาเกะและที่ราบสูงของจังหวัดนากาโนะและยามานาชิ และขณะที่ทางรถไฟไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็จะได้ความรู้สึกเหมือนเส้นทางกำลังเข้าใกล้ท้องฟ้ามากขึ้นด้วย
แผนที่เส้นทางของ HIGH RAIL 1375 (เครดิตภาพ: Google Maps)
HIGH RAIL 1375 เป็นหนึ่งในรถไฟ Joyful Train ที่อยู่ในลิสต์สิ่งที่ผมอยากทำมาระยะหนึ่งแล้ว และในที่สุดผมก็มีโอกาสได้ขึ้นมัน ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เป็นสองครั้งในวันเดียว แม้ผมจะตื่นเต้นเป็นทุนเดิมที่จะได้ขึ้นรถไฟนี้ในตอนกลางวัน แต่ที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอจริงๆ คือขบวน Hoshizora (星空) ซึ่งเป็นเที่ยวรถไฟยามค่ำคืนที่มีดาวเด่นคือทัวร์ดูดาวสุดพิเศษนั่นเอง
ในบทความนี้ ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมตอนที่นั่งรถไฟ HIGH RAIL 1375 และสิ่งที่ผมค้นพบบนรถไฟและตามทางรถไฟสาย Koumi ซึ่งผมไม่เคยนั่งรถไฟที่วิ่งใกล้ท้องฟ้าเท่าขบวนนี้มาก่อน และเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ผมได้เพลิดเพลินไปกับวิวอันมหัศจรรย์ของบรรดาภูเขาและที่ราบกว้าง รวมถึงการได้ชมดาวในยามค่ำบนรถไฟขบวนเดียวกัน!
① เริ่มต้นกันที่ Sakudaira
สถานี Sakudaira (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
การเดินทางบน HIGH RAIL 1375 ของผมเริ่มต้นที่สถานี Sakudaira (佐久平駅) ในจังหวัดนากาโนะ สถานีแห่งนี้เป็นสถานีของทั้งทางรถไฟสาย Koumi และ Hokuriku Shinkansen (北陸新幹線) อีกทั้งเป็นสถานีที่สองของรถไฟ Joyful Train ขบวนนี้หลังจากที่มันออกเดินทางจากสถานี Komoro ด้วยความที่มันเชื่อมกับ Hokuriku Shinkansen ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เดินทางมาจากเมืองใหญ่จะมาขึ้น HIGH RAIL 1375 จากที่นี่กัน ทำให้เป็นการต่อรถที่ราบรื่นและสะดวกสบายมาก
ต่อรถไปยังทางรถไฟสาย Koumi ที่สถานี Sakudaira (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ผมมาถึงที่สถานี Sakudaira หลังจากนั่ง Hokuriku Shinkansen มาจากนากาโนะ และผมมารับรู้ด้วยตนเองว่าการขึ้นรถไฟ Joyful Train จากที่นี่มันง่ายขนาดไหน ผมมีเวลาว่างเหลืออยู่ก่อนที่รถไฟจะมาถึง และได้เดินสำรวจรอบๆ สถานีรถไฟนิดนึง
ถ้ามีคำแนะนำหนึ่งที่ผมอยากแบ่งปันกับทุกคน นั่นก็คือให้เดินออกจากทางเข้าออก Tateshina (蓼科口 Tateshina-guchi) ของสถานี คุณจะสังเกตเห็นว่าอาคารสถานีนั้นดูเหมือนยอดภูเขา ซึ่งเป็นการสื่อถึงบรรดาภูเขามากมายที่พบได้ในนากาโนะนั่นเอง!
การมาถึงของ HIGH RAIL 1375 ณ สถานี Sakudaira (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
HIGH RAIL 1375 มาถึงที่ชานชลาของทางรถไฟสาย Koumi ในสถานี ณ เวลา 14:44 น. และผมเห็นรถไฟกำลังวิ่งมาจากไกลๆ ได้เพราะการตกแต่งภายนอกที่เป็นสีน้ำเงินเข้มและภาพดาวส่องประกายโดดเด่นของมันนั่นเอง การตกแต่งภายนอกนั้นอิงมาจากท้องฟ้ายามค่ำที่เต็มไปด้วยดวงดาว ซึ่งผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินในทัวร์ดูดาวยามค่ำของรถไฟ และผมอดใจรอที่จะไปร่วมด้วยในตอนค่ำไม่ไหวแล้ว
② ภายในรถไฟ
ภายในตู้รถคันที่ 1 (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ทั้งขบวนของ HIGH RAIL 1375 มีเพียงสองตู้รถด้วยกัน โดยมีตู้รถที่ 1 ที่มีที่นั่งแบบเดี่ยว คู่ และแบบ Box Seat ส่วนตู้รถคันที่สองจะมีที่นั่งแบบสองแถว แถวละสองที่นั่ง ซึ่งปรับเบาะเอนได้ ข้อดีสุดๆ ของการจัดวางที่นั่งหลายรูปแบบให้เลือกได้นั้น ก็คือการที่ตอบโจทย์ผู้โดยสารประเภทต่างๆ บนรถไฟได้ ไม่ว่าคุณจะเดินทางคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเล็กๆ ก็จะมีประเภทที่นั่งที่เหมาะสมสำหรับทุกคนอยู่
ด้วยความที่ผมชอบเดินทางคนเดียว ผมคิดว่ามันดีมากๆ ที่มีที่นั่งแบบเดี่ยว และนอกจากนั้น ทั้งที่นั่งแบบเดี่ยวและแบบคู่ต่างหันหน้าเข้าหาหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ผมได้ชมวิวข้างนอกได้เต็มที่แบบไม่ต้องแบ่งใครเลย
ของที่ระลึกและเซอร์ไพรส์ต่างๆ บน HIGH RAIL 1375 (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
มีเซอร์ไพรส์มากมายรออยู่บน HIGH RAIL 1375 ผู้โดยสารจะสังเกตเห็นภาพกลุ่มดาว ดวงดาว และท้องฟ้ายามค่ำมากมายในตู้รถ ตั้งแต่ผนังภายในรถไฟจนถึงที่บุเบาะนั่ง ซึ่งยึดกับดาวที่เป็นธีมหลักของรถไฟขบวนนี้ แถมผู้โดยสารยังสามารถไปที่ท้ายตู้รถคันที่หนึ่งและดูขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม และของที่ระลึกแบบลิมิเต็ดได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าด้วยนะ
ถ้าคุณเป็นคนรักรถไฟ อย่างหนึ่งที่คุณจะสังเกตเห็นก็คือเคาน์เตอร์สแตมป์ที่คุณสามารถเก็บสแตมป์พิเศษของ HIGH RAIL 1375 ได้ เกร็ดสนุกๆ ก็คือรถไฟนี้เป็นหนึ่งใน Joyful Train ที่มีอยู่เพียงสามขบวนเท่านั้นที่วิ่งในจังหวัดนากาโนะ โดยอีกสองขบวนได้แก่ Oykot และ Resort View Furusato ถ้าคุณมีโอกาส มานั่งรถไฟ Joyful Train ทั้งสามขบวนและเก็บคอลเลกชันสแตมป์ของจังหวัดนี้ให้ครบนะ!
ท้องฟ้าจำลองรูปโดม (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
จุดที่น่าจะเด่นที่สุดของ HIGH RAIL 1375 ก็คือ HIGH RAIL Gallery ซึ่งโดดเด่นด้วยห้องสมุดดาราศาสตร์เล็กๆ และท้องฟ้าจำลองรูปโดมที่เด่นสะดุดตา แฟนๆ ดาราศาสตร์สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มดาวต่างๆ ได้ที่นี่ และยังชมพวกกลุ่มดาวเคลื่อนที่บนเพดานด้วยตาตัวเองได้ด้วย
③ วิวสุดมหัศจรรย์และการต้อนรับสุดอบอุ่น
วิวด้านนอกที่ยอดเยี่ยมตลอดทริปนั่งรถไฟของผม (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ขณะที่ HIGH RAIL 1375 ออกจากสถานี Sakudaira ผมค่อยๆ เริ่มเห็นวิวธรรมชาติอันน่าทึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับรถไฟ Joyful Train ตั้งแต่แม่น้ำที่สวยราวภาพวาดไปจนถึงบรรดาท้องนาที่แผ่กว้าง และเทือกเขาที่สะกดสายตา ทิวทัศน์ที่สวยจนลืมหายใจนี้ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณที่ได้มาอยู่บนรถไฟขบวนนี้ และวันนี้ของผมก็ได้สภาพอากาศปลอดโปร่งมาช่วยทำให้วิวเหล่านี้มหัศจรรย์ยิ่งขึ้นไปอีก
พนักงานรถไฟกำลังต้อนรับบรรดาผู้โดยสารที่สถานี Nakagomi (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
หนึ่งในสถานีรถไฟของทางรถไฟสาย Koumi ที่ HIGH RAIL 1375 จอดนั้น คือสถานี Nakagomi (中込駅) และผู้โดยสารทุกคน (รวมถึงผมด้วย) ก็เจอเซอร์ไพรส์ดีๆ ในตอนที่รถไฟของเรามาถึงที่นี่ พนักงานรถไฟผู้สวมเสื้อนอกฮัปปิที่มีดีไซน์ตามแบบฉบับ Joyful Train ขบวนนี้ต่างก็กำลังโบกมือให้เราอย่างเต็มที่อีกทั้งยังต้อนรับพวกเราเข้ามาในสถานี โดยรถไฟจะจอดที่นี่ไม่กี่นาทีเพื่อให้ผู้โดยสารได้ลงรถไปถ่ายรูปกับพนักงานเป็นที่ระลึกสำหรับการเดินทางในครั้งนี้
ถ่ายรูปรวมกับพนักงานรถไฟ (เครดิตรูปภาพ: JR East / Nazrul Buang)
การได้เห็นพนักงานรถไฟต้อนรับเราอย่างอบอุ่นที่สถานี Nakagomi เป็นประสบการณ์ที่ดีต่อใจสำหรับผม และการต้อนรับนั้นทำให้ผมได้เห็นว่าคนในท้องที่มีอัธยาศัยดีขนาดไหน มันทำให้ผู้โดยสารอย่างผมรู้สึกขอบคุณที่มานั่ง HIGH RAIL 1375 และยังเป็นประสบการณ์การเดินทางด้วยรถไฟที่ไม่มีวันลืมด้วย หลังแวะสั้นๆ ที่สถานี Nakagomi ผมกระโดดกลับขึ้นรถไฟและออกเดินทางต่อ
แวะพักสั้นๆ ที่สถานี Shinano-Kawakami (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
รถไฟของผมมุ่งหน้าต่อไปยัง Kobuchizawa และมันหยุดระหว่างทางอีกครั้งที่สถานี Shinano-Kawakami (信濃川上駅) ซึ่งเป็นจุดที่ผู้โดยสารสามารถลงรถเพื่อสำรวจพื้นที่รอบๆ ได้ไม่กี่นาที่ก่อนที่รถจะออกเดินทางอีกครั้ง เกร็ดสนุกๆ ก็คือที่นี่เป็นสถานีรถไฟ JR ที่สูงเป็นอันดับสี่ของญี่ปุ่น โดยมีระดับความสูงที่ 1,138 ม. โดยทางรถไฟสาย Koumi มีสถานีรถไฟ JR ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมากถึง 9 สถานีจากทั้งหมด 10 สถานี และที่นี่เป็นหนึ่งใน 5 อันดับต้นๆ
สำหรับผมแล้ว การได้มาอยู่ ณ สถานีรถไฟที่สูงขนาดนี้เป็นความรู้สึกเหมือนฝันไปเลย และมันให้ความรู้สึกราวกับว่าผมกำลังเดินทางขึ้นไปบนท้องฟ้าใสสีครามมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกขณะที่รถไฟของผมกำลังเดินทางไปตามทางรถไฟสายนี้ ที่เยี่ยมที่สุดก็คือมันยังไม่ใช่ “จุดสูงสุด” ของการเดินทางด้วยรถไฟของผม โดยสถานีรถไฟแห่งถัดไปที่ผมกำลังจะไปถึงนั้นจะเป็นอีกที่ที่น่าจดจำที่สุด
④ ยินดีต้อนรับสู่สถานีรถไฟ JR ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น
สถานี Nobeyama (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
หลังแวะสั้นๆ ที่สถานี Shinano-Kawakami ในที่สุด HIGH RAIL 1375 ก็มาถึงที่สถานี Nobeyama (野辺山駅) จุดที่รถไฟจะแวะจอดสักครู่อีกครั้งและผู้โดยสารสามารถลงไปสำรวจพื้นที่รอบๆ ได้ โดย ณ ความสูง 1,345.67 ม. นี้ มันคือสถานีรถไฟที่สูงที่สุดของทางรถไฟสาย Koumi อีกทั้งเป็นสถานีรถไฟ JR ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
การมาถึงและเหยียบพื้น ณ สถานี Nobeyama นี้ทำให้ผมรู้สึกประสบความสำเร็จเป็นการส่วนตัวทีเดียว และมันรู้สึกเยี่ยมมากที่ได้มายังสถานีรถไฟอันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนที่ผมเคยไปมาก่อน ผมลงจากรถด้วยความตื่นเต้นที่ปริ่มเต็มอกเช่นเดียวกันกับผู้โดยสารคนอื่น และตัดสินใจสำรวจสถานีรถไฟและพื้นที่รอบๆ
ภายในสถานี Nobeyama (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ตั้งแต่ก่อนจะก้าวออกจากสถานี Nobeyama ตัวสถานีก็มีลูกเล่นน่าสนใจที่ดึงความสนใจของผมไปแล้วเรียบร้อย อาทิเช่น แผนผังของทางรถไฟสาย Koumi และระดับความสูงของสถานีรถไฟทั้งหมดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ดูว่าบรรดาสถานีรถไฟตามเส้นทางนั้นอยู่สูงขนาดไหนเป็นต้น
บนเพดานของอาคารก็มีภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาวอันมีชื่อเสียงของสถานี Nobeyama อีกทั้งนักดาราศาสตร์ยังถือว่าที่นี่เป็นหนึ่งในสามทำเลที่ดีที่สุดสำหรับชมดาวในตอนกลางคืนอีกด้วย และมันยังเป็นสถานที่สำหรับทัวร์ดูดาวที่จะจัดขึ้นในภายหลังในคืนนั้นด้วย
การค้นพบสนุกๆ รอบสถานี Nobeyama (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang (ซ้าย), JR East / Suzuki Kei (ขวา))
HIGH RAIL 1375 แวะจอด 10 นาทีที่สถานี Nobeyama และในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ผมลองไปดูว่าผมจะหาอะไรน่าสนใจเจอในบริเวณนี้หรือไม่ สิ่งโดดเด่นอย่างหนึ่งที่ผมค้นพบและถูกใจบรรดาคนรักรถไฟก็คือ Ginga Park (銀河公園 Ginga-kōen) ซึ่งเดินจากสถานีไปถึงได้ใน 1 นาที ที่นี่มีรถจักรไอน้ำ C56 96 ที่ในอดีตเคยวิ่งไปตามทางรถไฟในญี่ปุ่นตั้งอยู่ เมื่อปลดระวางในปี 1974 รถไฟขบวนนี้ก็ถูกจัดแสดงที่ใจกลางสวน และนักท่องเที่ยวสามารถไปชมสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งนี้ได้ก่อนที่จะกลับขึ้น Joyful Train
อีกสิ่งที่ผมค้นพบใกล้ๆ สถานี Nobeyama น่ะหรือ? มีร้านขายของที่ระลึกแห่งหนึ่งชื่อ White Rabbit (ホワイトラビット) ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ ซึ่งจำหน่ายของที่ระลึกท้องถิ่นและของขวัญเก๋ๆ อื่นๆ และสินค้าที่ฮิตที่สุดก็คือไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟนั่นเอง ด้วยเนื้อที่ทั้งมันครีมและเบานุ่มอย่างห้ามใจไม่อยู่นี้ เห็นได้ชัดเลยว่ามันคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนสถานี Nobeyama ต้องมาซื้อให้ได้ และถือเป็นของดีที่อร่อยได้ก่อนจะกลับขึ้นไปบนรถไฟ
จุดที่สูงที่สุดในบรรดาเส้นทางรถไฟของ JR (เครดิตภาพ: photoAC)
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าทำไม HIGH RAIL 1375 ถึงมีเลข “1375” อยู่ในชื่อด้วย คำตอบนั้นตั้งอยู่ที่ระหว่างสถานี Nobeyama และสถานี Kiyosato (清里駅) โดย ณ จุดใดจุดหนึ่งระหว่างเส้นทางช่วงนี้มีจุดที่สูงที่สุดในบรรดาทางรถไฟของ JR ในญี่ปุ่น ซึ่งสูง 1,375 ม. (อันเป็นที่มาของชื่อ) จุดนี้ถูกทำเครื่องหมายไว้ด้วยอนุสรณ์ไม้เพื่อให้ผู้คนเห็นได้ และรถไฟจะชะลอลงเล็กน้อยเพื่อให้ผู้โดยสารได้ชมกัน
นี่เป็นเคล็ดลับจากผมเพื่อให้เห็นอนุสรณ์นั้นได้ชัดขึ้น ตอนเดินทางในทิศที่ออกจากสถานี Nobeyama ไปยังสถานี Kiyosato พยายามหาที่นั่งในฝั่งขวาของรถไฟให้ได้ซึ่งเป็นจุดที่คุณจะได้เห็นอนุสรณ์ได้ใกล้ขึ้นไปอีก นอกจากนี้ เตรียมกล้องให้พร้อมไว้ล่วงหน้านะ ไม่งั้นคุณอาจจะพลาดถ่ายรูปสุดพิเศษของคุณได้
⑤ แวะพักที่ Kobuchizawa
สถานี Kobuchizawa (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ตอนราวๆ 5 โมงเย็น ในที่สุดผมก็มาถึงที่สถานี Kobuchizawa อันเป็นสถานีปลายทางของ HIGH RAIL 1375 ตัวสถานีเป็นทางผ่านยอดนิยมในหมู่คนรักการเดินเขาเพราะพื้นที่รอบๆ สถานีขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางเดินเขา และรวมถึงในหมู่นักท่องเที่ยวที่ปักหลักอยู่ในโตเกียวเพราะสถานีนี้มีรถไฟ Limited Express Azusa เชื่อมโดยตรงกับสถานี Shinjuku (新宿駅)
นี่คือจุดที่ผมลงจาก HIGH RAIL 1375 และรอเที่ยวยามค่ำของ Joyful Train ขบวนนี้ที่จะกลับไปยังสถานี Sakudaira ผมมีเวลาว่างราวหนึ่งชั่วโมงก่อนรถไฟเที่ยวกลางคืนจะออก ดังนั้นคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินสำรวจอาคารสถานีแห่งนี้!
วิวจากระเบียงชมวิวบนหลังคาของสถานี (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ทางรถไฟสาย Koumi มีชื่อเสียงเรื่องวิวภูเขาและที่ราบยัตสึงะทาเกะ แต่รู้อะไรไหม? คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวชั้นเยี่ยมจากสถานี Kobuchizawa ได้ด้วย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังระเบียงชมวิวบนหลังคาของสถานีได้ ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาจะชมวิวพาโนรามาของภูเขาโดยรอบได้แบบ 360 องศา ในวันที่ฟ้าแจ่มใสจะเห็นเทือกเขาแอลป์ใต้ได้ และถ้าโชคเข้าข้างจริงๆ ก็จะยังเห็นภูเขาไฟฟูจิอันยิ่งใหญ่ได้ไกลๆ อีกด้วย!
ผมประทับใจกับวิวอันเหลือเชื่อที่เห็นได้จากบนระเบียง และแม้ว่าจะเป็นยามเย็นที่มีเมฆครึ้มเล็กน้อย ผมก็ยังได้ชมทิวทัศชั้นเยี่ยมอยู่บ้าง การมาสถานีรถไฟที่มีวิวภูเขาสุดวิเศษแบบนี้เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยนัก และมันเป็นวิธีฆ่าเวลาที่เยี่ยมไปเลยสำหรับผู้โดยสารอย่างผม เมื่อนาฬิกาถึงเวลา 18:17 น. ขบวนรถไฟเที่ยวค่ำ “Hoshizora” ของ HIGH RAIL 1375 ก็ออกรถในที่สุด และผมก็กำลังเดินทางเที่ยวที่สองบนรถไฟ Joyful Train ของผม
⑥ ตามหาฟ้ายามค่ำที่เต็มไปด้วยดาว
สถานี Nobeyama หลังพระอาทิตย์ตก (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ขณะที่ HIGH RAIL 1375 ออกจากสถานี Kobuchizawa และมุ่งหน้ากลับไปยังทิศของสถานี Komoro พระอาทิตย์ก็เริ่มตกและท้องฟ้าก็ค่อยๆ มืดลง โดยเผยให้วิวที่ผู้โดยสารบนรถต่างกำลังเฝ้ารอด้วยความดีใจ ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่กำลังตื่นเต้น และพวกเรากำลังมุ่งหน้ากลับไปยังสถานี Nobeyama เพื่อร่วมทัวร์ดูดาวที่เฝ้ารอกันมา
ไกด์ทัวร์ดูดาวยามค่ำของเรา ณ สถานี Nobeyama (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ชื่อเที่ยวรถไฟยามค่ำของ HIGH RAIL 1375 คือ “Hoshizora” (ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว) ที่ซึ่งท้องฟ้ายามค่ำจะมีประกายระยิบระยับของดาว และวิธีไหนเล่าที่จะให้เราได้ชื่นชมภาพนั้นได้ดีไปกว่าการออกไปทัวร์ชมดาว ณ สถานีเดียวกันกับที่ผมลงรถมาก่อนในวันนั้น ก่อนที่จะไปถึงที่หมาย มีสุภาพบุรุษท่านหนึ่งออกมาทักทายผู้โดยสารบนรถ ซึ่งเขาจะเป็นไกด์ของเราในทัวร์นั่นเอง
ไกด์ท่านนี้เคยทำงานที่ศูนย์อวกาศมาก่อน และเขาสังเกตการณ์ดาวบนท้องฟ้ามาแล้วนับหลายปี ด้วยชุดความรู้มากมายเกี่ยวกับดาราศาสตร์ที่มีติดตัวนี้ เขาอธิบายเรื่องกลุ่มดาวตามฤดูกาลต่างๆ พร้อมสร้างความสนุกสนานด้วยเรื่องเล่าเกี่ยวกับดาวบนท้องฟ้า
ออกเดินทางไปยังโรงยิม (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
เมื่อรถไฟไปถึงสถานี Nobeyama ท้องฟ้ายามเย็นยังสว่างเกินกว่าจะเห็นดาวได้เต็มที่ ไกด์ของเราจึงนำทางไปยังโรงยิมในท้องที่เพื่อชมวิดีโอพิเศษ ซึ่งรวมคลิปที่ถ่ายและนำมารวมกันด้วยฝีมือของไกด์เอง วิดีโอนี้ให้เราเห็นบรรดาวิดีโอ Time-lapse ของท้องฟ้ายามเย็นที่ Nobeyama ซึ่งมีสีสันสวยงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล และดาวส่องแสงเป็นประกายแผ่กว้างไปทั่วฟ้าและเหนือโพ้นเส้นขอบฟ้า
มันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่าไกด์นั้นเก็บภาพดาวและท้องฟ้าที่ดูเหนือจริงและยอดเยี่ยมไว้ได้มากขนาดนี้ ลำพังแค่เห็นภาพของเขาผมก็เห็นถึงความหลงใหลและความอดทนเป็นอย่างมากของเขาในการถ่ายทำมาตลอดหลายปี และความกระตือรือร้นที่จะแบ่งปันความรักในดาราศาสตร์ของเขาให้กับแขกของเขา
มองหาดาวรอบๆ สถานี Nobeyama (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
พอถึงตอนที่พวกเราออกมาจากโรงยิม ท้องฟ้าก็มืดลงกว่าเดิม และทุกคนก็เริ่มแหงนหน้าขึ้นมองหาดาวบนท้องฟ้า โชคร้ายที่ในตอนเย็นสภาพอากาศมีเมฆครึ้มมากขึ้นจากเมื่อกลางวัน ดังนั้นดาวที่มองเห็นได้จึงมีน้อยมาก ประกอบกับเวลานี้ของปีที่พวกเราไปนั้นท้องฟ้าจะค่อนข้างสว่าง ทำให้มองเห็นดาวได้ยากขึ้น
ด้วยความที่ทัวร์ดูดาวเป็นไฮไลต์ของทริปบน HIGH RAIL 1375 ของผม ผมยอมรับว่าผมผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้เห็นดาวมากเท่าที่หวังไว้ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังได้เห็นดาวอยู่บ้าง และพระจันทร์เสี้ยวเองก็กำลังส่องสว่างอยู่ด้วย ทำให้วันนี้ (หรือคืนนี้) ของผมเยี่ยมไปเลย
ไกด์อธิบายให้ฟังว่าในเดือนที่อากาศอบอุ่นนั้นจะเห็นดาวได้ยากเป็นปกติเพราะมีเมฆมากในท้องฟ้า และเวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมดาวมักเป็นช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นเวลาที่อากาศเย็นกว่าและโอกาสที่สภาพอากาศมีเมฆครึ้มจะน้อยกว่า
กลับขึ้นบน HIGH RAIL 1375 (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
หลังใช้เวลาราว 50 นาทีที่สถานี Nobeyama ผู้โดยสารและผมก็กลับขึ้นไปบน HIGH RAIL 1375 และมุ่งหน้ากลับไปยังสถานี Komoro ผมลงรถที่สถานี Sakudaira และขึ้นรถไฟต่อบน Hokuriku Shinkansen เพื่อเดินทางกลับไปยังนากาโนะที่ผมปักหลักอยู่สำหรับคืนนั้น
เอกิเบ็นอาหารเย็นของผมสำหรับคืนนี้ (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผมปิดท้ายวันของผมด้วยอาหารเย็นบน HIGH RAIL 1375 และพอเป็นมื้ออาหารบนรถไฟในญี่ปุ่นแล้ว สำหรับผมไม่มีวิธีไหนดีไปกว่าการอร่อยกับเอกิเบ็น (駅弁 ข้าวกล่องรถไฟ)! เอกิเบ็นของผมที่ซื้อที่สถานี Kobuchizawa นั้นรวมทั้งผักสดที่เก็บเกี่ยวจากที่ราบสูงของยามานาชิและไก่ชุบแป้งทอดปริมาณจุใจ คงไม่ต้องบอกว่ามันอร่อยและอิ่มพุงอิ่มใจขนาดไหน ทำให้มันปิดท้ายการนั่งรถไฟขบวนนี้ของผมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เกร็ดแนะนำสุดท้ายของผมสำหรับบทความนี้ ถ้าคุณคิดจะกินเอกิเบ็นบนรถไฟเที่ยวค่ำ “Hoshizora” ล่ะก็ ควรไปซื้อให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ทันทีที่คุณมาถึงที่สถานี Kobuchizawa สถานีนี้เป็นจุดลงรถยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว และหลายคนก็จะมาซื้อเอกิเบ็นที่สถานีนี้ด้วยเช่นกัน เอกิเบ็นส่วนมากจะขายหมดโดยเฉพาะในตอนเย็น ดังนั้นมาซื้อของคุณให้ได้เมื่อมีโอกาส
ปิดท้าย
ยกนิ้วโป้งให้สำหรับ HIGH RAIL 1375 (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
นับเป็นโอกาสเยี่ยมมากที่ผมได้มาขึ้น HIGH RAIL 1375 สองครั้งในวันเดียว โดยตอนขึ้นขบวนกลางวันผมได้วิวภูเขาและที่ราบสูงอันยอดเยี่ยมของนากาโนะและยามานาชิ และผมโชคดีมากที่อากาศเป็นใจในตอนนั้น สำหรับรถไฟเที่ยวกลางคืนนั้นนับเป็นประสบการณ์ที่ต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ผมได้เห็นดาวบางส่วนบนท้องฟ้าและได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มดาว ซึ่งต้องขอบคุณไกด์ผู้เป็นมิตรของเรา
รถไฟ HIGH RAIL 1375 ได้เปิดหูเปิดตาผมและทำให้ผมตระหนักว่าการมีภูเขาและทุ่งราบกว้างเป็นวิวให้ชมระหว่างนั่งรถไฟนั้นวิเศษขนาดไหน โดยส่วนตัวแล้วเวลานั่งรถไฟในสิงคโปร์ผมแทบไม่มองออกไปนอกหน้าต่างเลย แต่การมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นหนึ่งในสิ่งที่เยี่ยมที่สุดในการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น และรถไฟ Joyful Train อย่างขบวนนี้ทำให้ทริปรถไฟของผมเต็มไปด้วย “Joy” (ความสุข)
ไว้พบกันอีกเร็วๆ นี้นะ HIGH RAIL 1375 (เครดิตภาพ: JR East / Nazrul Buang)
ถามว่าผมอยากขึ้น HIGH RAIL 1375 อีกครั้งไหม? แน่นอนว่าผมอยาก! การเดินทางบนเส้นทางสายรถไฟที่ขึ้นชื่อเรื่องระดับความสูงในญี่ปุ่นถือเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับผม และผมไม่มีทางยอมพลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสมันอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครั้งหน้าผมอยากขึ้นรถในฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนจะโปร่งขึ้น และผมจะมีโอกาสได้ชมดาวมากขึ้นด้วย ระหว่างนี้ คุณอาจจะอยากลองคว้าโอกาสนั่ง Joyful Train ขบวนนี้และเอื้อมมือคว้าหาดาวด้วยตัวคุณเอง
ตั๋ว Rail Pass ของ JR East
ถ้าคุณอยากขึ้น HIGH RAIL 1375 รวมถึงเดินทางไปจุดหมายอื่นๆ ในพื้นที่ญี่ปุ่นตะวันออกด้วย งั้นขอแนะนำตั๋ว Rail Pass ต่างๆ ของ JR East ที่คุณสามารถใช้เพื่อตอบโจทย์การเดินทางของคุณได้ ลองดูตั๋ว Pass ดังต่อไปนี้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
- JR TOKYO Wide Pass: ผู้ใหญ่ 15,000 เยน / คน อายุใช้งาน 3 วันติดกัน
- JR EAST PASS (Tohoku area): ผู้ใหญ่ 30,000 เยน / คน อายุใช้งาน 5 วันติดกัน
- JR EAST PASS (Nagano, Niigata area): ผู้ใหญ่ 27,000 เยน / คน อายุใช้งาน 5 วันติดกัน
บรรดาตั๋ว Pass ด้านบนให้สิทธิ์เดินทางบนทางรถไฟสาย JR East ได้แบบไม่จำกัดเที่ยว (รวมถึงรถไฟชินกันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษที่กำหนด) ในพื้นที่ที่ตั๋วครอบคลุม และตั๋วเหล่านี้ยังใช้ขึ้น HIGH RAIL 1375 และรถไฟ Joyful Train อื่นๆ ได้ฟรีด้วย อีกทั้งยังใช้กับประตูอัตโนมัติ รวมถึงจองที่นั่งล่วงหน้าถึง 1 เดือนได้ดวย
เครดิตภาพปก: JR East / Nazrul Buang, illustAC
Translated by: conomi.co