เกาะซาโดะ: ประเทศญี่ปุ่นขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในทะเลญี่ปุ่น

เกาะซาโดะ ( 佐渡ヶ島 ซาโดะกาชิมะ ) เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดนีงาตะ และตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองนีงาตะ เป็นหนึ่งในเกาะที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายที่สุดจากโตเกียว

 

ด้วยพื้นที่ประมาณ 855 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเกาะหนึ่ง ของทะเลญี่ปุ่น คุณอาจจะคาดว่าจะมีประชากรจำนวนมากบนเกาะนี้เนื่องจากพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ตามรายงานจำนวนประชากร ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2020 อยู่ที่ 53,572 คน คุณนึกภาพออกไหมว่าเกาะนี้ใหญ่กว่าสิงคโปร์ แต่มีประชากรน้อยกว่า 100 เท่า ได้อย่างไร ?

 

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำถึงเทศกาลท้องถิ่นของเกาะซาโดะ อาหารอร่อย ๆ และ สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่คุณจะสามารถทำได้ที่นี่!

 

เพลิดเพลินไปกับเทศกาลท้องถิ่น

เกาะซาโดะมีอาหารอร่อยมากมาย (เครดิตรูปภาพจาก : Jasper Soh)

 

ก่อนอื่นให้เราขอแนะนำเทศกาลท้องถิ่นบางส่วนที่ เน้นนำเสนออาหารพิเศษของเกาะ เมนูอาหารอร่อย ๆ ที่คุณจะได้กิน

 

เกาะซาโดะ มีเทศกาลมากมายซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลก เช่น Earth Celebration บางเทศกาลก็จะมีความเป็นท้องถิ่นอยู่มาก อย่าง 2 เทศกาลนี้ที่คุณควรได้ลอง

 

เทศกาลปลาหมึกฮิเมสึ ( 姫津イカまつり Himezu Ika Matsuri)

ปลาหมึกย่างอร่อย ๆ และ ยากิโซบะปลาหมึก ( เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

ฮิเมสึ (姫津) เป็นพื้นที่ในเกาะซาโดะซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการลากปลาหมึกจำนวนมาก ในเทศกาลนี้มีอาหารที่ทำจากปลาหมึกทุก ชนิด เช่น คร็อกเกตปลาหมึก (イカコロッ ika korokke) ยากิโซบะปลาหมึก (イカ焼きそば ika yakisoba ) ปลาหมึกย่าง ( 焼きイカyaki ika ) และซาซิมิปลาหมึก (イカ刺身 ika sashimi) นี่เป็นเพียงตัวอย่างชื่อเมนูเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้ได้ลองทำ เช่น การนั่งเรือตกปลาหมึก และ การแล่ปลาหมึกสดๆ

 

ภาพประสบการณ์การ การแล่ปลาหมึกและเรือตกหมึก (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

หนึ่งในไฮไลท์ของเทศกาลนี้สำหรับฉันคือเกม“ เป่า ยิ้ง ฉุบ ( ค้อน, กระดาษ, กรรไกร ) ใครก็ตามที่ต้องการเข้าร่วมเล่นเกมส์ สามารถทำได้โดยการยกมือของคุณขึ้นไปบนอากาศ แล้วทำมือว่าออกกระดาษหรือกรรไกร จำนวนคนที่เล่นก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ชนะเท่านั้นที่จะเข้าสู่รอบต่อไปจนกว่าจะเหลือหนึ่งคน และคน ๆ นั้นก็คือฉัน!

 

รางวัลของฉัน (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

วันนั้นฉันเดินกลับบ้านพร้อมกับปลาหมึกสด ( ปลาหมึก 20 ตัว) ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจอย่างแท้จริง ซึ่งฉันรู้สึกว่านักท่องเที่ยวควรจะได้มีโอกาสลองประสบการณ์นี้กันมากขึ้น

 

ท่าเรือประมงฮิเมสึ (Himezu Fishing Port 姫津漁港)
ที่อยู่: 306-1 ฮิเมสึ, ซาโดะ, นีงาตะ, 952-2134
วันจัดงาน : วันอาทิตย์ที่หนึ่งของเดือน กรกฎาคม ของทุกปี
เวลา: 09:00–14:00
ค่าเข้าชม : ฟรี

 

เทศกาลเนื้ออะคาโดะมาริ   (Akadomari Gyu-niku Matsuri)

เนื้อซาโดะพรีเมียมพร้อมย่าง! (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

คนรักเนื้อจะต้องสนุกกับเทศกาลนี้อย่างแน่นอน เพลิดเพลินไปกับเนื้อซาโดะ และ ผัก เช่น หัวหอม,พริกไทย และแครอท ย่างบนเตาถ่านและ รับประทานอาหารได้ตามความต้องการของคุณ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล เนื้อซาโดะราคาอาจสูงพอสมควร ถ้าเทียบกับการที่คุณไปซื้อเนื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากเกาะนี้ไม่มีโรงฆ่าสัตว์บนเกาะ วัวจะถูกนำลงเรือส่งไปยังนีงาตะ เพื่อฆ่าแล้วส่งเนื้อลงเรือกลับมาที่เกาะซาโดะ

 

บรรยากาศของเทศกาล (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

เทศกาลท้องถิ่นที่ไม่มีเกมส์คืออะไร ? ตั๋วที่ออกให้คุณก่อนเข้างานจะมีหมายเลข เพื่อใช้ในการลุ้นรางวัล จากการจับฉลาก มีของรางวัลมากมายตั้งแต่นมซาโดะ ,ชีส ไปจนถึงเนื้อสัตว์ อีกครั้งฉันโชคดีพอที่จะเดินกลับบ้านพร้อมชุดโยเกิร์ตและชีสที่ทำจากนมซาโดะ

 

ภาพแห่งชัยชนะของฉัน! โยเกิร์ต, โยเกิร์ตพร้อมดื่ม และชีส (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

นี่ต้องเป็นเทศกาลหนึ่งที่คุณจะไม่พลาดอย่างแน่นอน หากคุณเคยมาที่เกาะนี้ แต่อย่าลืมนะว่าจำเป็นต้องทำการจองล่วงหน้าก่อนเข้างาน

 

Akadomari Ex-Fruit Sorting Grounds (赤泊旧選果前広場)
ที่อยู่ : 937-1 โทคุวะ, ซาโดะ, นีงาตะ, 952-0706
วันจัดงาน : วันอาทิตย์ที่หนึ่งของเดือน กรกฎาคม ของทุกปี
เวลา : 11:30–14:30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 5,500 เยน , เด็ก 2,700 เยน  ( อายุไม่เกิน 11 ปี ) 

 

ทานอะไรดี ?

เกาะซาโดะเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสและอาหารตามฤดูกาลมากมาย อาหารทะเลที่นี่จะสดใหม่เป็นพิเศษและมีผลไม้ท้องถิ่นนานาชนิดให้คุณได้เพลิดเพลิน และจังหวัดนีงาตะขึ้นชื่อเรื่องข้าว รวมถึงที่ซาโดะด้วย

 

เพียงแค่มองดูอาหารทะเลแสนอร่อยทั้งหมดนี้ คุณก็สามารถมาลองได้ที่เกาะซาโดะ (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

สำหรับคนรักอาหารทะเลต้องลองอย่าง Yellowtail (ブリ buri) หรือ ปลาหางเหลือง, ปูหิมะ (ズワイガニ zuwaigani) , หอยนางรม (カキ kaki), และปลาหมึก (イカ ika)  ซึ่งเป็นอะไรที่รู้จักกันดีของเกาะซาโดะ เพราะเกาะซาโดะขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลมีงานเทศกาลเฉพาะ ได้แก่ เทศกาล Winter Yellowtail (寒ブリまつり Kanburi Matsuri), Akadomari Crab Festa (赤泊カニフェスタAkadomari Kani Fesuta),  Lake Kamo Oyster Festival (加茂湖牡蠣祭り Kamoko Kaki Matsuri), และเทศกาลปลาหมึกฮิเมสึที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้

 

หอยนางรมย่าง. (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

ปลาหางเหลือง ฤดูหนาว ที่มีชื่อเสียง ของเกาะซาโดะ (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

ปูหิมะ

คนสิงคโปร์ชอบกินปูมาก และนี่คือ ที่หนึ่งที่ต้องไม่อยากพลาดอย่างแน่นอน เพราะมีบุฟเฟ่ต์ปูที่ทานได้ไม่อั้น ไม่จำกัดเวลาและเครื่องดื่มที่คุณเลือกได้สองขวด คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการกินปูหิมะให้เต็มอิ่ม แบบจุใจไปเลย

 

ปูซูไว เสิร์ฟมาเป็นถาด ทานหมดขอเติมได้  (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

หากคุณไม่แน่ใจวิธีการทานปู ทางร้านจะมีคู่มือการแกะปูไว้ให้คุณด้วย และ คุณควรสวมเสื้อผ้าที่สามารถเลอะเทอะได้มาทานเพราะอาจจะมีคราบสกปรกติดเสื้อผ้าได้ และต้องทำการจองล่วงหน้า

 

ผลลัพธ์ (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

Akadomari Tourist Centre (赤泊観光センター)
ช่วงเวลา : ตุลาคม ถึง ธันวาคม / มีนาคม ถึงเมษายน
ที่อยู่: 2206-3 อะคาโดะมาริ, ซาโดะ, นีงาตะ, 952-0711
เวลาเปิด-ปิด: 10:30-18:00 ( ปิดวันพุธ)
เบอรืโทร: +81-0259-87-3121
ราคา: 2,200 เยน

 

ซูชิ

หากคุณอยากทานซูชิ แนะนำต้องลองเข้าร้านซูชิสายพาน Conveyor Belt Sushi Benkei (回転寿司弁慶 Kaiten Sushi Benkei), หรือถ้าคุณต้องการประสบการณ์ซูชิที่แท้จริงมากขึ้นไปอีกต้องที่ร้าน Sushi Chozaburo (寿司長三郎).

 

ชุดซูชิแบบซื้อกลับบ้าน จากร้าน Benkei (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

ร้าน Benkei เป็นหนึ่งในสถานที่โปรดของฉันในการไปทานซูชิเพราะราคาไม่แพงมากและซูชิก็สดมาก

 

Conveyor Belt Sushi Benkei (回転寿司弁慶)
ที่อยู่ : 833 ฮิกาชิโอโดริ , ซาโดะ, นีงาตะ, 952-1307
เวลาเปิด-ปิด: 10:30–21:00 ( ร้านปิดวันอังคาร)
เบอร์โทร : +81-0259-22-2125

 

ชุดซูชิ Omakase จากร้าน Chozaburo (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

ในทางกลับกัน ที่ร้าน Chozaburo เป็นร้านที่น่าไปลองทาน หากคุณต้องการชมเชฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านซูชิแสดงการหั่นอาหารทะเล แน่นอนว่าย่อมแพงกว่าแน่นอน แต่ก็ถือซะว่าเป็นค่าประสบการณ์ในการทานชูชิแล้วกัน

                                                                                                    

Sushi Chozaburo  (寿司長三郎 Chozaburo)
ที่อยู่ : 84-1 Niibo, Sado, Niigata, 952-0116
เวลาเปิด-ปิด : 11:00–22:00 ( ร้านปิดวันอาทิตยืที่ 2  และ วันจันทร์ที่ 4ของเดือน)
เบอร์โทร : +81-0259-22-2125

 

ผลไม้

สำหรับคนรักผลไม้ก็มีเช่น ลูกพลับ (おけさ柿 Okesa-gaki), มะเดื่อฝรั่ง ( ビオレ・ソリエス　イチジク Biore Soriesu ichijiku) แอปเปิ้ล, ส้ม (蜜柑 mikan),และ ลูกแพร์ Le Lectier pears (ルレクチェ Ru Rekuche).

 

มะเดื่อฝรั่ง  Violette de Sollies (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

เนื่องจากตำแหน่งภูมิศาสตร์ของเกาะซาโดะ (อยู่ทางตอนกลางของญี่ปุ่น) จึงมีผลไม้ที่สามารถเพาะปลูกและเติบโตได้เฉพาะทางตอนเหนือ (แอปเปิ้ล) และทางใต้ (ส้ม) ของญี่ปุ่นตามลำดับที่นำมาปลูกที่นี่ได้ ลูกพลับ,แอปเปิ้ล และมะเดื่อ จะมีเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นหากคุณต้องการรับประทานผลไม้เหล่านี้ นี่ก็คือช่วงที่ต้องไปเยือนเกาะซาโดะนั่นเอง

 

ลูกพลับ (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

ฉันขอแนะนำให้เลยว่าคุณต้องลองลูกพลับของที่นี่ เพราะเนื้อมันหวาน กรอบ และอุดมไปด้วยวิตามินซี เมื่อถึงฤดูลูกพลับฉันกินมันอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง ต้องแวะไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อทุกที

 

แอปเปิ้ล. (เครดิตภาพจาก : Jasper Soh)

 

หากคุณต้องการเลือกผลไม้ท้องถิ่นของเกาะซาโดะ และมีผลไม้ให้เลือกมากมาย ให้ไปที่ Yorankaya (よらんか舎) ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ไม่เพียง แต่คุณจะได้พบกับผลไม้ในท้องถิ่นเท่านั้นคุณยังจะได้พบกับผลผลิตในท้องถิ่นทุกชนิดอีกด้วย

 

Yoranka มีสินค้าในท้องถิ่นทุกชนิดจำหน่ายที่นี่ (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

Yorankaya (よらんか舎)
ที่อยู่ : 69-1 Chigusa, Sado, Niigata, 952-1209
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-19:00
เบอร์โทร : +81-0259-63-3538

 

ข้าว

พวกเราชาวเอเชีย ชอบข้าวเราเองและ ก็ข้าวที่มาจากเกาะซาโดะ เพราะมันสุดยอดมาก “โคชิฮิคาริ” (コシヒカリKoshihikari) เป็นหนึ่งในแบรนด์ข้าวที่ดีที่สุดที่ผลิตบนเกาะและได้รับการจัดอันดับ“ A” สำหรับคุณภาพในญี่ปุ่น เนื้อข้าวมีความนุ่มมาก (もちもち mochi-mochi) มีความหวานและรสชาติดีแม้จะเย็นแล้ว อร่อยไปกับการรับประทานข้าวที่ใช้ทำเป็นวัตถุดิบของอาหารชุด (定食 teishoku) ข้าวปั้น (おにぎり onigiri) และแม้แต่ซูชิ (寿司 sushi)

 

ภาพของคุณโอนิ กำลังมีความสุขกับโอนิกิริ (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

คุณจะบอกว่าฉันชอบอาหารมากใช่ไหม ? แต่เป็นเรื่องน่าแปลกใจจริงๆ ที่ฉันน้ำหนักไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่เลยในช่วงที่ฉันอยู่ที่นี่

 

สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่ควรลอง

การทำนาบนเกาะซาโดะ. (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

บนเกาะซาโดะ มีหลายสิ่งให้ได้ลองสัมผัส และหลายสถานที่ให้ไปสำรวจ คุณสามารถไปดูนก เพื่อหานกช้อนหอยญี่ปุ่น (Japanese Crested Ibis (朱鷺 Toki) ที่หายากมากในทุ่งนา หรือจะไปตกปลาริมชายฝั่ง หรือแม้แต่เยี่ยมชมวัดกระต่าย! และนี่คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของฉันเลย

 

นั่งเรือในอ่างไม้ หรือ เรือกะละมัง ( たらい舟  Tarai bune)

นั่งเรือในอ่างไม้ ที่ Yajima Taiken Koryukan ( เครดิตรูปภาพ Sado City)

 

แฟน ๆ ของอนิเมชั่น จิบริ (Ghibli) คงรู้จักเรือลำนี้จากแอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away (千と千尋の神隠し Sen to Chihiro no Kamikakushi) ตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้ เรือกะละมัง ยังคงถูกใช้ในการตกปลาในทะเลชายฝั่งที่เป็นโขดหิน เพื่อจับหอยและเก็บสาหร่ายทะเลอยู่

 

ล่องเรือกะละมัง ที่ Rikiya Kanko Kisen (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

สามารถติดต่อเพื่อล่องเรือได้ 3 ที่ด้วยกัน: 1. Yajima Experience & Exchange Center, 2. Rikiya Kanko Kisen  3. Shukunegi

 

ล่องเรือกะละมัง ที่ Shukunegi (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

แต่ละที่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นถ้าคุณมีเวลาอย่าลืมลองใช้บริการให้ครบทุกที การพายดูเหมือนจะง่ายมากเมื่อเราดูคนพายเรือบังคับเรือ แต่เมื่อได้ลองด้วยตัวเองแล้วคุณจะพบว่าตัวเองพายวนเป็นวงกลม ไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง แต่ไม่ต้องกังวล ! เจ้าหน้าที่จะคอยช่วยเหลือคุณเอง  ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลยว่ากิจกรรมนี้จะไม่สนุก แน่นอนที่สุดคุณสามารถขอทดลองพายเรือได้ตลอดระหว่างการล่องเรือ

 

Yajima Experience & Exchange Centre (矢島体験交流館)
ที่อยู่ : 365-1 Ogi, Sado, Niigata, 952-0605
เวลาเปิด-ปิด: เดือนเมษายน ถึง ตุลาคม เวลา 08:00–17:00 ( ปิดทำการวันที่  21 ตุลาคม และ พฤศจิกายน  ถึงมีนาคม)
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก 400 เยน
เบอร์โทร: +81-0259-86-2992

 

Rikiya Kanko Kisen (力屋観光汽船)
ที่อยู่ : 1935 Ogimachi, Sado, Niigata, 952-0604
เวลาเปิด-ปิด : มีนาคม ถึง กลางเดือนตุลาคม เวลา 08:20–17:00 น.
                    ปลายเดือนตุลาคม ถึง กลางเดือนพฤศจิกายน เวลา 08:20–16:30 น.
                     ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ เวลา 08:20–16:00 น.
อัตราค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 500 เยน , เด็ก 300 เยน
เบอร์โทร: +81-0259-86-3153

 

Shukunegi (宿根木)
ที่อยู่ : 393 Shukunegi, Sado, Niigata, 952-0612
เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง กลางเดือนพฤศจิกายน เวลา 09:00–18:00 น.  ( ปิดปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมีนาคม)
อัตราค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 800 เยน , เด็ก 500 เยน
เบอร์โทร +81-090-4835-5446

 

เล่นกับกระต่ายแสนน่ารักที่วัดโชโคคุจิ (長谷寺 Chokokuji)

ลูกกระต่ายเกิดใหม่. (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดว่าเป็นวัด ฮาเสะเดระ (長谷寺 Hasedera) ในเมืองนารา วัดโชโคคุจิ (Chokokuji) เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของ

 

ซาโดะ และถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะคล้ายกับ วัดฮาเสะเดระ แต่วัดโชโคคุจิ เหมือนเป็นวัดกระต่าย เพราะที่นี่มีกระต่ายถูกเลี้ยงแบบธรรมชาติปล่อยอิสระวิ่งไปมารอบ ๆ บริเวณวัด คุณอาจถามว่าทำไม ? มันเป็นวิธีหนึ่งที่วัดใช้กำจัดวัชพืชตามธรรมชาติ และยังได้รับผลพลอยได้ใช้เป็นแรงดึงดูดใจด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย

 

รูปปั้นกระต่าย ที่วัดโชโกคุจิ. Usagi Kannon (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับวัดนี้คือ มีรูปปั้นกระต่ายสองตัว (ウサギ観音 Usagi Kannon) ที่สร้างขึ้นโดยจะมีแสงเลเซอร์สีแดงออกมาจากดวงตากระต่ายในตอนเย็น รูปปั้นกระต่ายน่าจะเลียนแบบมาจากเมอร์ไลออนที่ของประเทศสิงคโปร์ !

 

กอดลูกกระต่าย ( เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh )

 

หากคุณเคยเดินชนนักบวชในวิหารแล้วละก็ จงเตรียมตัวที่จะอุ้มลูกกระต่ายที่เขาจะดึงออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของเขาได้เลย และที่นี่คุณสามารถทำสมาธิแบบเซน (座禅 zazen) และประสบการณ์การนั่งในโลงศพ (暗闇体験 kurayami taiken)  กิจกรรมคุรายามิ คือ กิจกรรมเพื่อให้เราสัมผัสถึงความเงียบและความมืดเพื่อเรียนรู้ของการมีชีวิตอยู่ และ ความตาย

 

บันไดทางขึ้นสู่ตัววัด. (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

Chokokuji Temple (長谷寺)
ที่อยู่  13 Hase, Sado, Niigata, 952-0204
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
อัตราค่าเข้าชม: ฟรี ( ส่วนค่าทำกิจกรรมภายในวัดแยกจ่ายต่างหาก )
เบอร์โทร : +81-0259-66-2052

 

ต้องลองเล่นไทโกะดู !

ประสบการณ์ การเล่นไทโกะ สำหรับทั้งครอบครัว  ( เครดิตรูปภาพ: Takamoto Sho)

 

ซาโดะ ถือว่าเป็นที่ตั้งของวงดนตรีไทโกะโคโดที่มีชื่อเสียงระดับโลก ลองมาเล่นกลองไทโกะชนิดต่าง ๆ ที่ Sado Island Taiko Center (佐渡太鼓体験交流館 Sado Taiko Taiken Kōryūkan) หรือที่เรียกกันติดปากว่า ทาทาโคคัง Tatakokan ทาทาโคคัง เป็นที่ตั้งของกลองยักษ์สองใบที่แกะสลักจากต้นเซลโคว่า (zelkova tree)  อายุกว่า 600 ปี แกะสลักโดยสมาชิกของโคโด เช่นเดียวกับกลองขนาดเล็กจำนวนมาก

 

ประสบการณ์เล่นกลองไทโกะ อาจารย์สอนสนุกมาก (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

ลองมาเรียนตีกลอง ไปพร้อมๆ กับครูใจดี และ คุณจะรู้สึกได้ ถึงเสียงสะท้อนที่ก้องไปทั่วรอบๆ ตัวคุณ โดยคุณจะได้รับการดูแลฝึกสอนจากมืออาชีพ นี่เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย

 

Sado Island Taiko Centre (佐渡太鼓体験交流館)
ที่อยู่ : 150-3 Ogi Kanetashinden, Sado, Niigata, 952-0611
เวลาเปิด-ปิด : 09:00–17:00 น. ( ปิดวันจันทร์ )
อัตราค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 2,000 เยน , เด็ก 1,000 เยน ( อายุไม่เกิน 12 ขวบ)
เบอร์โทร : +81-0259-86-2320

 

สำรวจประวัติศาสตร์ของเหมืองที่มีประสิทธิผลมากที่สุดในญี่ปุ่น

เหมืองทองซาโดะคินซัง ( 佐渡金山 Sado Kinzan) ได้รับจดทะเบียนให้ขึ้นเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก เป็นเหมืองที่มีประสิทธิผลมากที่สุดในญี่ปุ่นโดยผลิตทองคำได้ประมาณ 400 กิโลกรัม และผลิตทองแดง กับ แร่เงิน ได้อีกเล็กน้อย โดยภายในจะมีกลุ่มสถานที่ต่างๆ ให้คุณได้สำรวจ เช่น โรงงานร่อนแร่คิตาซาวะ (北沢選鉱場 Kitazawa Senkōba) ,สวนทองนิชิมิคาว่า (Nishimikawa Gold Park 西三川ゴールドパーク) และเหมืองทองซาโดะ

 

รูปภาพโรงงานร่อนแร่คิตาซาวะ ตอนพระอาทิตย์ตก (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh )

 

ที่โรงงานร่อนแร่คิตาซาวะ (Kitazawa Flotation Plant) นับป็นที่สำหรับขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการสกัดทองทั้งหมด และมักกล่าวกันว่าคล้ายกับ "Castle in the Sky" ของ Ghibli แอนิเมชั่น

 

ทองที่ร่อนกันได้จากที่นี่เขาจะเอาใส่หลอดแก้วขนาดเล็กให้นำกลับบ้านได้ หรือ ใครอยากซื้อทำเป็นจี้หรือพวงกุญแจเป็นของที่ระลึกก็ได้ (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

ที่ Nishimikawa Gold Park มีสถานที่ให้ได้ทดลองร่อนทองกันอีกด้วย และมีหลักสูตรที่แตกต่างกัน 3 หลักสูตร ได้แก่ ระดับเริ่มต้นระดับกลาง และ ระดับสูง เป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นสำหรับทุกเพศทุกวัย และคุณยังสามารถเก็บทองที่คุณร่อนได้มากลับบ้านได้เลยด้วย !

 

การแสดงหุ่นจำลองคนงานขนาดเท่าตัวจริง ภายในเส้นทางเดินอุโมงค์ซาโดะ  (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

เหมืองทองซาโดะ จะมีอุโมงค์สองแห่งที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้นั่น คืออุโมงค์โซดายุ (Sōdayū Tunnel 宗太夫坑 Sōdayū-kō) และอุโมงค์โดยู Dōyū Tunnel (道遊坑 Dōyū-kō). ที่อุโมงค์โซดายุ จะมีหุ่นยนต์เคลื่อนไหว สำหรับแสดงให้เห็นสภาพของเหมืองในยุคเอโดะ ( ค.ศ. 1603–1868) และอุโมงค์โดยุ จะจัดแสดงวัตถุโบราณ และเครื่องมือที่ใช้ในอุตสาหกรรม และความทันสมัยของเหมืองในยุคเมจิ ( ค.ศ.1868–1912).

 

ซากของเครื่องมือที่เคยใช้งานจริงในอุโมงค์โดยุ (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

สำหรับส่วนพิพิธภัณฑ์คุณจะได้เห็นทองคำแท่งขนาด 12.5 กิโลกรัม ที่สามารถลองยกได้ ถ้ายกสำเร็จเขามีรางวัลเล็กๆน้อยๆ ให้ด้วย

 

 

ภูเขายุบตัวลงตรงกลางเป็นรูปตัวเอ็ม (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

Kitazawa Flotation Plant (北沢選鉱場)
ที่อยู่ : 3-2 Aikawa Kitazawamachi, Sado, Niigata, 952-1539

 

Nishimikawa Gold Park (西三川ゴールドパーク)
ที่อยู่ : 835-1 Nishimikawa, Sado, Niigata, 952-0434
เวลาเปิด-ปิด: 08:30–17:00 น. ( เดือนพฤษภาคม - เดือนสิงหาคม , เดือนมีนาคม – เดือนเมษายน )
                   09:00–16:30 ( เดือนธันวาคม– เดือนกุมภาพันธ์)
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 700 เยน ( อายุไม่เกิน 12 ปี)
เบอร์โทร: +81-0259-58-2021

 

Sado Kinzan Gold Mine (佐渡金山)
ที่อยู่ : 1305 Shimoaikawa, Sado, Niigata, 952-1501
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-17:30 ( เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม )
          08:00-17:00 ( เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม )
อัตราค่าบริการ: อุโมงค์โซดายุ ( Sōdayū Tunnel )  ผู้ใหญ่ 900 เยน, เด็ก 450 เยน ( อายุไม่เกิน 15 ปี )
            อุโมงค์โดยุ ( Dōyū Tunnel ) ผู้ใหญ่ 900 เยน , เด็ก 450 เยน ( อายุไม่เกิน 15 ปี )
            อุโมงค์โดยุ  และ อุโมงค์โซดายุ  ผู้ใหญ่ 1,400 เยน, เด็ฏ 700 เยน ( อายุไม่เกิน 15 ปี )
เบอร์โทร : +81-0259-74-2389

 

วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

เกาะซาโดะเป็นที่ตั้งของแนวชายฝั่งที่สวยงามและมีหน้าผาหน้าตาน่าทึ่ง สามารถขับรถไปรอบ ๆ เกาะเพื่อสำรวจเกาะซาโดะ คุณจะได้เห็นมุมพิเศษ ๆ และแน่นอนว่าเป็นเกาะที่มีจุดถ่ายรูปอัพลงอินสตาแกรม ไว้อวดกันอยู่เยอะเลย

 

วิวจากชายฝั่งฮาเนซากะ ( 跳坂 Hanezaka)  (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

Hanezaka (跳坂)
ที่อยู่ : Iwayaguchi, Sado, Niigata 952-2201

 

หน้าผาที่สวยงามมากที่อ่าว Senkakuwan (尖閣湾 ) (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

Senkakuwan Bay (尖閣湾)
ที่อยู่ : Kita-ebisu - Himezu Sado, Niigata 952-2133

 

ภาพพระอาทิตย์ตกที่หาดซาวาตะ Sawata (佐和田海岸 Sawata Kaigan) (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

Sawata Beach (佐和田海岸)
ที่อยู่ : Kawaharada Honmachi, Sado, Niigata 952-1314

 

ทะเลสีฟ้าใสที่ Shukunegi (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

Shukunegi (宿根木)
ที่อยู่ : 393 Shukunegi, Sado, Niigata 952-0612

 

พระอาทิตย์ขึ้นจากทุ่งนาขั้นบันไดอิวะคุบิ (岩首升竜棚田 Iwakubi Shoryu Tanada) (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

Iwakubi Terraced Rice Fields (岩首升竜棚田)
ที่อยู่ : 393 Shukunegi, Sado, Niigata 952-0612

 

เกาะซาโดะบางครั้ง ก็ถูกเรียกว่าเป็น “เกาะดอกไม้” เพราะจะมีดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่งทั่วทั้งเกาะ

 

ในเดือนมิถุนายน จะพบกับ ดอก Amur Daylilies และ ดอก Iwayuri Lilies เบ่งบาน  ได้จ้องวิวสวยงาน และ ประทับใจ

 

จุดชมวิว Onogame

เป็นจุดที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกลิลลี่สีเหลือง Amur Daylilies บานสะพรั่งเต็มเขา จุดชมวิวมีระดับความสูง 167 เมตร จากระดับน้ำทะเล และได้รับการการันตีระดับ 2 ดาวใน Michelin Green Guide Japan เลยทีเดียว

 

ดอก Tobishima Kanzo ที่ monolith Ōnogame

 

ดอกไม้ที่นี่บานสะพรั่งนับแสนดอกซึ่งเป็นภาพที่สวยงามอย่างแน่นอน แน่นอนว่าดอกไม้เหล่านี้สามารถพบเห็นได้รอบเกาะ  แต่ไม่ได้มีจำนวนมากเท่าที่ Onogame

 

Onogame (大野亀)
ที่อยู่ : Negai, Sado, Niigata, 952-3203

 

Iwayuri Lilies

ดอกอิวายูริ ลิลลี่ มีความน่าสนใจตรงที่ว่าสามารถบานอยู่ได้ตามพื้นดินและบนก้อนหิน แต่ต้องสังเกตุดีๆ ว่ากลีบดอกอาจดูคล้ายกับ ดอก Amur Daylilies

 

ดอกอิวายูริลิลลี่ ( Iwayuri Lilies ) ที่สวน Mourazaki (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

ดอกอิวายูริลิลลี่จะมีสีส้มมากกว่าและ จุดที่สามารถชมได้ดีที่สุด อยู่ที่สวนมูราซากิ ( 藻浦崎公園 Mourazaki Koen)

 

Mourazaki Park (藻浦崎公園)
ที่อยู่ : Kita-katabe, Sado, Niigata, 952-2225

 

วิธีการเดินทางรอบเกาะ

การเดินทางรอบเกาะมี 4 วิธี ได้แก่ 1. เช่ารถขับ 2.เช่ารถจักรยาน 3 .รถโดยสารสาธารณะ ( รถบัส) 4. เช่าเหมารถแท็กซี่ ฉันอยากจะแนะนำว่าให้เช่ารถขับ สำหรับการเดินทางไปรอบ ๆ เกาะเพราะจะสะดวกที่สุด

 

การเช่ารถขับ

มี บริษัทรถเช่าหลายเจ้า ตั้งอยู่บริเวณรอบๆ ท่าเรือ ดังนั้นจึงสะดวกมากในการเช่ารถ แต่ขอแนะนำให้ทำการจองทางออนไลน์ก่อนมาที่เกาะซาโดะ หรือ หากคุณมีการเช่าและขับรถจากที่อื่นมาก่อนแล้ว ก่อนที่จะมาถึงเกาะซาโด คุณก็สามารถ "นำรถขึ้นบนเรือเฟอร์รี่ข้ามมายังเกาะซาโดะได้ แต่ก็มีค่าธรรมเนียม และที่สำคัญ คือ การจอดรถบนเกาะซาโดะส่วนใหญ่จะจอดได้ฟรี

 

รถยนต์ที่มีตัวอักษร“ わ” บนป้ายทะเบียนแสดงว่าเป็นรถเช่า (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

เช่าจักรยาน

มีจักรยานให้เช่าที่ท่าเรือ และที่โรงแรมบางแห่งเรียกว่า Eco-Dacchari หากคุณต้องการสำรวจบางพื้นที่โดยเฉพาะเจาะจง โดยไม่ต้องเช่ารถขับ ขอแนะนำวีธีนี้เลย เพราะคุณจะสามารถปั่นจักรยานไปตามเส้นทางและถนนที่เล็กๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหาที่จอดรถ และข้อดีอีกอย่าง คือมันดีต่อสิ่งแวดล้อม! ปั่นสบาย ๆ ไปรอบๆ เกาะได้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ และล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม

 

เที่ยวรอบเกาะด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

รถโดยสารสาธารณะ

การขึ้นรถบัสก็เป็นอีกวิธีที่ดีในการเที่ยวบนเกาะ รถประจำทางจะวิ่งไปยังจุดสถานที่ท่องเที่ยวหลักส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่ควรทราบก็คือความถี่ของรถบัสนั้นน้อยมาก หากคุณมีเวลาจำกัด การขึ้นรถบัสเที่ยวอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด

 

รถประจำทางท้องถิ่น. (เครดิตรูปภาพ: Jasper Soh)

 

แท็กซี่

หากคุณต้องการพักผ่อนโดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องการขับรถ หรือ พลาดรถประจำทาง คุณสามารถเลือกเช่ารถแท็กซี่เพื่อขับพาคุณไปได้ทุกที่ ที่คุณต้องการไป นี่เป็นตัวเลือกที่แพงที่สุดในสี่ตัวเลือกทั้งหมด

 

แท็กซี่. (เครดิตรูปภาพ: Sado City)

 

ฉันหวังว่าคุณจะสนุกกับบทความของฉันเกี่ยวกับเกาะซาโดะ ยังมีอะไรอีกมากมายที่เกาะซาโดะ ที่ฉันสามารถเขียนถึง

 

มาเที่ยวที่เกาะซาโดะถ้าคุณมีโอกาส แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!

 

การเดินทางไปเกาะซาโดะ

หากต้องการไปยังเกาะซาโดะคุณจะต้องนั่งรถไฟชินคันเซน จากสถานี JR Tokyo  (東京駅) ด้วยสาย Joetsu Shinkansen (上越新幹線) ไปยังสถานี JR Niigata ( 新潟駅) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง  จากสถานีรถไฟ นั่งรถประจำทาง 15 นาที หรือนั่งแท็กซี่ ประมาณ 5 นาที ไปยังท่าเรือ Sado Kisen Niigata (佐度汽船新潟港)

 

จากนั้นซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ ของคุณ มีเรือให้เลือก 2 แบบ คือ

1. Car Ferry เป็นแบบที่สามารถนำรถยนต์ ขึ้นเรือข้ามฟากไปด้วยได้ จะใช้เวลา 2.5 ชั่วโมงเพื่อไปยังเกาะซาโดะ
   2. โดยสารเรือ Jetfoil จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ฉันอยากจะแนะนำให้นั่งเรือ Car Ferry  หากคุณไม่เร่งรีบเพราะคุณจะได้เพลิดเพลินกับลมทะเล และบางครั้งก็จะได้เห็นปลาโลมาว่ายน้ำอยู่ข้างๆเรือด้วย

 

หากคุณซื้อ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area), คุณจะมีสิทธิ์ซื้อ SADO-NIIGATA PASS ในราคา 5,000 เยน มันจะช่วยคุณประหยัดได้ถึง 40% เนื่องจากตั๋วจะรวมค่าตั๋วเรือเฟอร์รี่ไปกลับ และ รถบัสท้องถิ่น ที่สามารถใช้ได้ทั้งในเมืองนีงาตะและที่เกาะซาโดะ ด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดคลิก ที่นี่  

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะซาโดะ

หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะซาโดะ สามารถกดไลค์และติดตามเพจ Facebook ของเราหรือเข้าไปที่เว็บไซต์ ของ Sado Tourism website.

 

Header image credit: Jasper Soh

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• จากนีงาตะสู่โชไน: นั่งรถไฟเลียบทะเลญี่ปุ่นไปกับ KAIRI
• รถไฟสำหรับคนรักสาเก: Koshino Shu*Kura
• เดินหน้าเต็มกำลัง: สำรวจทางรถไฟฝั่งตะวันตกของ Banetsu ด้วย SL Banetsu Monogatari

 

ประวัตินักเขียน:

Jasper Soh

ชาวสิงคโปร์ที่ใช้ชีวิตแบบชาวเกาะ อยู่บนเกาะซาโดะ เป็นคนที่ชื่นชอบการกิน ชอบทะเลและธรรมชาติ คุณอาจจะเห็นว่ามีดินติดตามตัว ที่มาจากการนอนกลิ้งไปมาบนพื้นหญ้า หรือบางครั้งก็อาจจะดุเหมือนว่ามีเกลือเกาะตามตัว เพราะใช้ชีวิตอยู่กับทะเลมากเกินไปได้