Rail Travel

รถไฟตู้นอนสุดหรู Train Suite Shiki-shima ของ JR East

รถไฟตู้นอนสุดหรู Train Suite Shiki-shima ของ JR East

ท่องเที่ยวไปยังดินแดนภาคตะวันออกของญี่ปุ่น และสัมผัสประสบการณ์ไปกับอัญมณีที่ยังหลบซ่อนอยู่และวัฒนธรรมท้องถิ่นขณะที่เพลิดเพลินไปกับความสวยงามที่แท้จริงของกาลเวลาที่ไม่ยั่งยืน - นี่คือสิ่งที่ Train Suite Shiki-shima (トランスイート四季島 Toran Suito Shikishima) รถไฟที่หรูที่สุดของ JR East มอบและหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะไปถึงลูกค้า

 

สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด Shinyu-Tanbo (深遊探訪) - การเดินทางเพื่อความปิติยินดีสูงสุดและการค้นพบ - Train Suite Shikishima คือรถไฟตู้นอนสุดหรูที่พยายามอย่างหนักเพื่อนำลูกค้าเดินทางท่องเที่ยวไปยังสี่ฤดูกาลของญี่ปุ่นที่แตกต่างกันและสวยงามขณะที่ดื่มด่ำไปกับความดีงามของแต่ละฤดู โปรแกรมการเดินทางในแต่ละฤดูนั้นมีตั้งแต่ 2วัน1คืน ถึง 4วัน3คืน และคุณทราบหรือไม่ว่าชื่อรถไฟ “Shiki-shima” หมายความว่า “เกาะแห่งสี่ฤดู” และเป็นคำพ้องเสียงกับชื่อเก่าของประเทศญี่ปุ่น "敷島" (Shikishima)

 

Train Suite Shiki-shima กับพื้นหลังภูเขาอิวาคิ (เครดิตภาพ: JR East)

 

Train Suite Shiki-shima แสดงถึงการตกแต่งภายนอกด้วยสีแชมเปญโกลด์ที่ซับซ้อนและสง่างาม การออกแบบอย่างทันสมัยและล้ำอนาคต และใช้รถไฟรุ่น E001 ถึงแม้ว่ารถไฟนี้จะเริ่มให้บริการเดือนพฤษภาคม 2017 และการเตรียมการดำเนินมาก่อนล่วงหน้าหลายปี รถไฟหรูขบวนนี้ถูกออกแบบโดยนักออกแบบด้านอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงคุณ Ken Okuyama ผู้ซึ่งออกแบบรถไฟท่องเที่ยว Joyful Train หลายขบวนด้วย การตกแต่งภายในที่ประดับประดาอย่างสวยสง่างามของรถไฟนี้นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างงานฝีมือญี่ปุ่นและการออกแบบร่วมสมัยที่ซึ่งเราจะแนะนำต่อไปหลังจากนี้

 

หลังจากที่หยุดให้บริการในเดือนสิงหาคมและกันยายมเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 รถไฟ Train Suite Shiki-shima ในที่สุดก็กลับมาให้บริการอีกในวันที่ 4 ตุลาคม 2021 มาดูกันว่าการเดินทางท่องเที่ยวบนรถไฟ Train Suite Shiki-shima นั้นจะเป็นเช่นไร

 

Prologue Shiki-shima

Prologue Shiki-shima (เครดิตภาพ: JR East)

 

Train Suite Shiki-shima เริ่มการเดินทาง ณ ใจกลางกรุงโตเกียว ที่สถานี JR Ueno (上野駅) เมื่อแขกมารอขึ้นรถไฟนั้นสามารถพักผ่อนที่ห้องรับรองส่วนตัวที่ชื่อว่า Prologue Shiki-shima (プロローグ四季島) เช่นเดียวกับตัวรถไฟ ห้องรับรองนี้ก็ถูกออกแบบโดยคุณ Ken Okuyama เป็นพื้นที่หรูหราและผ่อนคลายอย่างล้ำลึกที่มอบบทนำแก่แขกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นซึ่งกำลังรออยู่บนรถไฟ Train Suite Shiki-shima เหมาะสมกับชื่อของห้องรับรอง คุณไม่คิดเช่นนั้นหรือ?

 

Platform 13.5

ทางเข้าพิเศษไปยังชานชลา Platform 13.5 (เครดิตภาพ: JR East)

 

หลังจากที่แขกพร้อมแล้ว สามารถขึ้นรถไฟได้ผ่านทางชานชลา Platform 13.5 ซึ่งตั้งอยู่ติดข้างนอกของห้องรับรอง Prologue Shiki-shima ชานชลานี้ตั้งอยู่ระหว่างชานชลา 13 และ 14 และถูกสร้างมาโดยเฉพาะเพื่อ Train Suite Shiki-shima

 

ขึ้นรถไฟ

ทางเข้าเพื่อขึ้นรถไฟ TRAIN SUITE SHIKI-SHIMA (เครดิตภาพ: JR East)

 

แขกทุกท่านขึ้นบนรถไฟแล้ว! ทางเข้า Train Suite Shiki-shima ตั้งอยู่ที่ตู้ 5 และพรมแดงบนพื้นสำหรับแขกเพื่อเดินเข้ารถไฟ ทางเข้าเหมือนกับล็อบบี้โรงแรมและยากที่จะเชื่อว่านี่คุณกำลังก้าวขึ้นบนรถไฟ ด้วยการตกแต่งภายในอย่างหรูหราโอ่อ่าร่วมกับการบริการอย่างสมบูรณ์แบบและความมีมิตรไมตรีจิตอย่างยอดเยี่ยมของพนักงานบนรถไฟ แขกกำลังอยู่ในประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่พิเศษจริงๆ ไปดูการตกแต่งภายในขบวนรถไฟกันเถอะ

 

แผนผังของรถไฟ Train Suite Shiki-shima (เครดิตภาพ: JR East)

 

ห้องสังสรรค์: Lounge Komorebi (ตู้ 5)

แขกขึ้นรถไฟผ่านตู้ 5 ที่ซึ่งมีมุมโซฟาที่มีบรรยากาศสบายๆคอยต้อนรับ ตู้นี้เป็นห้องสังสรรค์ Lounge Komorebi (LOUNGE こもれび) ที่ซึ่งแขกสามารถพักผ่อนและผ่อนคลาย

 

Lounge Komorebi (เครดิตภาพ: JR East)

 

ด้วยการออกแบบที่ทำให้หลงไหลนั้นทำให้ภาพของป่าที่สงบเงียบปรากฏขึ้น Lounge Komorebi เป็นประตูสู่โลกมหัศจรรย์ของ Train Suite Shiki-shima คำภาษาญี่ปุ่น Komorebi (木漏れ日) หมายถึงแสงรำไรที่ถูกกรองผ่านกิ่งไม้ เมื่อมองไปยังการออกแบบของห้องสังสรรค์นี้ คุณก็จะเห็นถึงแรงบันดาลใจจากคำนี้ การตกแต่งด้วยไม้อันสวยงามทำให้เหมือนกับกิ่งไม้ที่แผ่ไปยังท้องฟ้าและเมื่อผสมกับหน้าต่างที่มีรูปร่างแปลกไม่เหมือนใครก่อให้เกิดผลของแสงที่สาดส่องผ่านกิ่งไม้

 

ห้องสังสรรค์นี้ถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยงานฝีมืออย่างวิจิตรปราณีตซึ่งมาจากพื้นที่ต่างๆในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น งานฝีมือที่ประกอบด้วยเทคนิคแบบดั้งเดิมที่ถูกส่งผ่านต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

 

เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาพักผ่อนสบายๆที่ Lounge Komorebi (เครดิตภาพ: JR East)

 

ณ ห้องสังสรรค์ เพลิดเพลินไปกันบรรยากาศพักผ่อนเงียบๆกับดนตรีเพราะๆและวิวจากหน้าต่างร่วมกันสร้างช่วงเวลาที่สบายๆที่สุด Lounge Komorebi ทำให้แขกผ่อนคลายด้วยความอบอุ่นจากเตาผิงขณะที่ฟังท่วงทำนองเพลงอันไพเราะบรรเลงโดยนักดนตรีที่แสดงสด

 

คุณทราบหรือไม่ว่า Train Suite Shiki-shima มี เพลงประจำตัว เครื่องดนตรีคลาสสิกที่สวยงามนำมาซึ่งความรู้สึกผ่อนคลายอยู่ในธรรมชาติ ประพันธ์โดยคุณ Sato Naoki (佐藤直紀) ผู้ชนะรางวัล Best Music ของ Japan Academy Prize และเป็นผู้นำในโลกดนตรีของญี่ปุ่น

 

ดื่มเครื่องดื่มจากเคาน์เตอร์บาร์ (เครดิตภาพ: JR East)

 

คุณกำลังกระหายน้ำใช่ไหม Lounge Komorebi ยังมีบาร์เครื่องดื่มที่ซึ่งแขกสามารถเพลิดเพลินไปกับค็อกเทลสูตรต้นตำรับหรืออาหารว่างเมื่อใดก็ตามที่แขกต้องการ ยกเว้นช่วงเวลาให้บริการอาหารหลักพนักงานเฉพาะจะประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ หมายเหตุ: เนื่องโดยสถานการณ์ COVID-19 บาร์จะปิดตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตี 5 

 

ตู้ชมวิว (ตู้ 1 และ 10)

เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมงดงามของทัศนียภาพข้างนอกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (เครดิตภาพ: JR East)

 

การเดินทางท่องเที่ยวไปยังภาคตะวันออกของญี่ปุ่นนำมาซึ่งวิวที่สวยจนทำให้คุณหยุดลืมหายใจและวิวที่มีความหลากหลายของชนบทที่งดงามตามธรรมชาติ ป่าเขียวชอุ่มและทะเลที่ส่องประกายระยิบระยับ การเพลิดเพลินสนุกสนานไปกับวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูกาลที่แตกต่างเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดน่าสนใจของการท่องเที่ยวด้วย Train Suite Shiki-shima และสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมวิวเหล่านี้คือบริเวณจุดชมวิว View Terrace Kizashi (VIEW TERRACEきざし) และ View Terrace Ibuki (VIEW TERRACEいぶき) ตั้งอยู่ตู้หน้าสุดและตู้ท้ายสุดของรถไฟ View Terrace Kizashi (ตู้ 1) และ View Terrace Ibuki (ตู้ 10) มีผนังสีขาว โซฟากำมะหยี่ที่หันหน้าเข้าหน้าต่าง หน้าต่างรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร และพรมถอมือสีเขียวที่ทำให้นึกถึงมอส หน้าต่างกระจกที่ใหญ่และเต็มไปด้วยพลังให้วิวที่ตระการตาและกว้างขวางของทิวทัศน์ข้างนอกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ให้แสงในลักษณะที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับอยู่ในป่า

 

ห้องพัก (ตู้ 2-4 และ 7-9)

Train Suite Shiki-shima มีที่พักสำหรับแขก 34 ท่านในห้องสวีท 17 ห้อง แบ่งเป็น Shiki-shima Suite 1  ห้อง  Deluxe Suite 1 ห้อง และ Suite15 ห้อง มาดูภายในแต่ละห้องกัน

 

Shiki-shima Suite (ตู้ 7)

ภายในห้อง Shiki-shima Suite (เครดิตภาพ: JR East)

 

ราคาแพงที่สุดและหรูหราที่สุดในบรรดาห้องทั้งหมดคือ Shiki-shima Suite เป็นห้องแบบสองชั้น เตียงนอนอยู่ชั้นล่างและห้องพักผ่อนเสื่อทาทามิอยู่ชั้นบน บริเวณพักผ่อนเสื่อทาทามิตั้งอยู่ติดกับหน้าต่างให้อารมณ์ความรู้สึกผ่อนคลายและวิวที่ยอดเยี่ยมของสภาพแวดล้อมที่ผ่านไปและมีแม้กระทั่งฮีทเตอร์เพื่อให้ความอบอุ่นแก่แขกในเดือนที่หนาวเหน็บ

 

อ่างอาบน้ำทำด้วยไม้ไซเปรส (เครดิตภาพ: JR East)

 

ทั้งห้อง Shiki-shima Suite และห้อง Deluxe Suite มีอ่างอาบน้ำทำด้วยไม้ไซเปรส (檜 hinoki) สำหรับให้แขกได้ผ่อนคลาย การแช่อยู่ในน้ำอุ่นขณะจ้องมองชมทัศนียภาพที่ผ่านไปและการสูดกลิ่นหอมผ่อนคลายกลิ่นธรรมชาติจากไม้ไซเปรสจะทำให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าแน่นอน ไม้จากต้นไซเปรส 300 ปีในหุบเขาคิโซะจังหวัดนากาโน่ถูกนำมาใช้ทำอ่างน้ำนี้ซึ่งทำด้วยมืออย่างพิถีพิถันเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเวลารถไฟวิ่ง Train Suite Shiki-shima น่าจะเป็นรถไฟเพียงขบวนเดียวในโลกที่มีอ่างอาบน้ำไม้ไซเปรส

 

Deluxe Suite (ตู้ 7)

ภายในห้อง Deluxe Suite (เครดิตภาพ: JR East)

 

ตั้งอยู่ถัดจากห้อง Shiki-shima Suite ห้อง Deluxe Suite ที่ทันสมัย สวยสง่างามนั้นมีเพดานสูง หน้าต่างบานใหญ่และเตาผิง เนื่องด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยเตาผิงเป็นเพียงของปลอมที่ไม่มีไฟจริงๆแต่ยังสามารถให้ความร้อน เสียงและส่องแสงอย่างที่เตาผิงของจริงมี

 

ในบรรดาห้องทั้งหมด ห้อง Deluxe Suite มีขนาดห้องใหญ่ที่สุดด้วยการใช้หน้าต่างบานใหญ่และประโยชน์จากพื้นห้องที่ไม่มีขั้น ช่วงเวลาเย็นแสงจากเตาผิงฉายแสงไปยังเพดานสูง ห้องนี้โซฟาจะถูกเปลี่ยนเป็นเตียงตอนกลางคืน

 

รอบห้องคนจะพบกับการตกแต่งด้วยลายญี่ปุ่น เช่น ไม้ กระดาษญี่ปุ่น เครื่องเคลือบ หินและอื่นๆ การผสมผสานระหว่างงานฝีมือญี่ปุ่นกับการออกแบบที่ทันสมัยทำให้ห้องนี้ราวกับงานศิลปะเคลื่อนที่ได้

 

Suite (ตู้ 2 3 4 8 และ 9)

ภายในห้อง Suite (เครดิตภาพ: JR East)

 

Train Suite Shiki-shima มี 15 ห้อง Suite กระจายไปยังห้าตู้ในแต่ละตู้มี 3 ห้อง ภายในรอบๆแต่ละห้องคุณจะพบกับการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่ทำอย่างพิถีพิถันและเที่ยงตรง และการออกแบบที่ประณีตและหัตถศิลป์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่นำเสนอมาในรูปแบบสมัยใหม่ เช่น ในแต่ละห้องตกแต่งอย่างละเอียดด้วยแผ่นฝาผนังที่ซึ่งใช้น้ำมันเคลือบเงาโจโบจิที่หายากจากจังหวัดอิวาเทะ ตู้ไม้ที่ถูกออกแบบให้เหมือนกับหีบโบราณของเมืองเซนได

 

ห้อง Suite ทุกห้องมีห้องอาบน้ำและห้องน้ำ และเช่นเดียวกับห้อง Deluxe Suite โซฟาจะถูกเปลี่ยนเป็นเตียงในตอนกลางคืน

 

ตู้ห้องอาหาร: Dining Shiki-shima (ตู้ 6)

ภายในตู้ห้องอาหาร Dining Shiki-shima (เครดิตภาพ: JR East)

 

ไม่มีการท่องเที่ยวใดจะสมบูรณ์โดยขาดอาหาร และรถไฟ Train Suite Shiki-shima ก็ให้คุณได้มากสำหรับเรื่องนี้ ตั้งอยู่ที่ตู้ 6 ตู้ห้องอาหาร Dining Shiki-shima (DININGしきしま) ที่ดูราวกับร้านอาหารดีๆและสวยสง่างาม ซึ่งที่นั่งส่วนใหญ่อยู่ข้างหน้าต่างและให้วิวที่ยอดเยี่ยมมหัศจรรย์ ตรงกลางเป็นโคมไฟออกแบบอย่างพิเศษที่ปล่อยแสงอันอ่อนโยนสร้างบรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย และแสงอันส่งเสริมเฟอร์นิเจอร์ไม้ ประกอบกับเสียงครืนๆอันนุ่มนวลของรถไฟที่วิ่งอยู่บนเส้นทาง มื้ออาหารบนรถไฟ Train Suite Shiki-shima เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะลืมได้

 

เพลิดเพลินไปกับอาหารเย็นที่ Dining Shiki-shima (เครดิตภาพ: JR East)

 

อาหารทุกมื้อบนรถไฟ Train Suite Shiki-shima ถูกเตรียมอย่างนุ่มนวลด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาลจากภาคตะวันออกของญี่ปุ่น เมื่อรถไฟวิ่งไปรอบภาคตะวันออก เมนูอาหารก็เปลี่ยนตามรถไฟสะท้อนให้เห็นถึงวัตถุดิบท้องถิ่นและวัฒนธรรมการทำอาหารของแต่ละภูมิภาคที่รถไฟวิ่งผ่านไป

 

นอกจากอาหารฝรั่งเศสที่น่ารื่นรมย์โดยหัวหน้าเชฟคุณ Sato Shigeru ยังมีเชฟจากร้านอาหารชื่อดังที่อยู่ระหว่างเส้นทางรถไฟก็จะขึ้นมาบนรถไฟจากจุดหยุดรถและเสริฟ์อาหารของพวกเขาบนรถไฟ และบางมื้อแขกจะลงจากรถไฟและทานอาหารที่ร้านอาหาร

 

การตกแต่งภายใน

มั่นใจได้เลยว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมผ่านหัตถศิลป์และฝีมือของช่างที่ตกแต่งเครื่องเรือนเฟอร์นิเจอร์ในรถไฟ Train Suite Shiki-shima งานฝีมืออันปราณีตสามารถพบได้โดยรอบรถไฟซึ่งใช้วัตถุดิบและเทคนิคที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของภาคตะวันออกของญี่ปุ่นอันได้แก่ โทโฮคุและโคชินเอ็ตสึ

 

งานฝีมือที่ทำอย่างปราณีตบน Train Suite Shiki-shima (เครดิตภาพ: JR East)

 

เทคนิคและวัตถุดิบบางประการประกอบไปด้วย:

  • เครื่องเคลือบไอซุ (会津塗) จากจังหวัดฟุคุชิมะ: แต่ละห้องจะมีกล่องกุญแจทำจากเครื่องเคลือบไอซุซึ่งส่องแสงเป็นประกายด้วยความเปล่งปลั่งเป็นมันวาวระยับ
  • งานไม้ดัดโค้ง (曲木) จากจังหวัดอาคิตะ: เทคนิคการดัดไม้แบบดั้งเดิมถูกใช้สร้างเก้าอี้ที่มีส่วนโค้งที่น่าทึ่งซึ่งใช้อยู่ในห้องสังสรรค์ Lounge Komorebi และห้องพัก Shiki-shima Suite
  • โคชูอิงเด็น (甲州印伝) จากจังหวัดยามะนะชิ: อิงเด็น (Inden) คืองานฝีมือที่ผสมผสานระหว่างหนังกวางและน้ำมันขัดเงาแลคเคอร์ ถูกใช้สำหรับกล่องเครื่องอำนวยความสะดวกในแต่ละห้องพัก
  • เครื่องทองแดงสึอิคิ (鎚起銅器) จากจังหวัดนีกาตะ: ด้วย สึอิคิ (tsuiki) หรือเทคนิคการใช้ค้อน แผ่นทองแดงถูกตีอย่างพิถีพิถันหลายพันครั้งเพื่อสร้างแจกันดอกไม้ใช้ในห้องพัก
  • พรมยามะกะตะดันซือ (山形緞通) จากจังหวัดยามะกะตะ: 9 ตู้จาก 10 ตู้ใช้พรมยามะกะตะดันซือซึ่งทอด้วยมืออย่างบรรจงหรือทอผ้าเส้นเดียว ณ เวลานั้น
  • เซนไดทันสุ (仙台箪笥) จากจังหวัดมิยางิ: ห้องพัก Shiki-shima Suite และ Deluxe Suite จะมีกล่องทิชชู่ที่ทำด้วยเทคนิคเซนไดทันสุซึ่งไม้เซลโคว่าญี่ปุ่นจะถูกเคลือบด้วยแลคเกอร์ใสและฉลุลายโดยเครื่องโลหะอย่างสลับซับซ้อน
  • ไม้ต้นบีช (ブナ) จากจังหวัดอาโอโมริ: โป๊ะของโคมไฟที่เคาน์เตอร์บาร์และถังขยะในห้องพักทำจากเทคนิคงานฝีมือไม้ต้นบีชอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า บุนะโค ซึ่งไม้ต้นบีชจะถูกตัดและสไลด์เป็นแผ่นบาง 1 มิลลิเมตรราวกับริบบิ้น หลังจากนั้นก็ม้วนและขึ้นรูป
  • ไม้ไซเปรส () จากจังหวัดนากาโน่: อ่างอาบน้ำในห้องพัก Shiki-shima Suite และ Deluxe Suite ทำจากไม้ของต้นไซเปรส 300 ปีจากจังหวัดนากาโน่

 

ช่างฝีมือทุกคนลงแรงและความเพียรอุตสาหะ ทำงานหนักเพื่อจะสร้างงานเหล่านี้ และส่วนหนึ่งของประสบการณ์การนั่ง Train Suite Shiki-shima ก็คือการได้เพลิดเพลินและชื่นชมไปกับหัตถศิลป์

 

บริการและการต้อนรับขับสู้

การต้อนรับขับสู้บนรถไฟ Train Suite Shiki-shima (เครดิตภาพ: JR East)

 

สัมผัสไปกับสุดยอดการต้อนรับขับสู้ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น  (omotenashi おもてなし) บนรถไฟ Train Suite Shiki-shima ในแต่ละการเดินทาง จะมีลูกเรือจำนวนมากให้บริการระดับห้าดาวแก่แขก และให้การดูแลสูงสุดเพื่อที่จะทำให้การนั่งรถไฟสะดวกสบาย สนุกสนานและมีค่าน่าจดจำ ลูกเรือที่ยอดเยี่ยมประกอบไปด้วยพนักงานขับรถไฟ พนักงานตรวจตั๋ว เชฟ พนักงานต้อนรับและลูกเรือทั่วไป บริการของพวกเขามีตั้งแต่หน้าที่ดูแลความสะอาดจนถึงเป็นไกด์ในแต่ละจุดหมายปลายทาง

 

ไม่จำกัดเพียงแค่บนรถไฟหรือพนักงานที่ท่านเห็น ผู้คนมากมายเกี่ยวข้องกับการทำให้การเดินทางราบรื่น ในแต่ละท้องถิ่นแขกจะได้พบกับพนักงานสถานีหรือคนขับรถบัสผู้ซึ่งจะพาแขกไปเที่ยวระยะสั้นๆ เบื้องหลังนั้นจะมีการซ่อมบำรุงประจำบนรถไฟขณะที่แขกออกไปเที่ยวระยะสั้น เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูงสุดตลอดการเดินทาง

 

ขณะที่ Train Suite Shiki-shima มีอาหารที่วิเศษเยี่ยมยอด การตกแต่งภายในที่วิจิตรสวยงาม สำหรับแขกจำนวนมากแล้วสิ่งที่หลงเหลือและเป็นความประทับใจมากที่สุดคือ การต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้คนท้องถิ่นซึ่งรวมตัวกันรอบๆสถานีและข้างทางรถไฟเวลารถไฟวิ่งผ่านไปในท้องถิ่นของเขา มีตั้งแต่เด็กนักเรียน อาสาสมัครจนถึงชาวประมง ความตื่นเต้นของพวกเขา ความกระตือรือล้นที่จะโบกธงและแผ่นป้าย และเสียงเชียร์ที่ตื่นเต้นสร้างความทรงจำที่ตราตรึงแก่แขกและนำมาซึ่งรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา

 

ตารางการเดินทางท่องเที่ยวและคอร์ส

Train Suite Shiki-shima ในฤดูใบไม้ผลิ (เครดิตภาพ: JR East)

 

ระหว่างการเดินทางในโปรแกรมที่เลือกสรรอย่างพิถีพิถันของ Train Suite Shiki-shima แขกจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของญี่ปุ่นและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่แทรกซึมอยู่ในอุตสาหกรรมท้องถิ่นและชีวิตประจำวัน สัมผัสอย่างสะดวกสบายที่ซึ่งมีเพียงรถไฟหรูสามารถให้ได้ โปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆจำนวนมากถูกจัดให้พิเศษสำหรับแขกของ Train Suite Shiki-shima ด้วยบริการพิเศษเช่น การเช่าเหมาพาหนะและสถานที่ หรือการเข้าไปและท่องเที่ยวไปยังสถานที่ที่ปกติไม่เปิดให้เข้าชมได้ทั่วไป

 

ปี 2022 นับเป็นปีที่ 5 ของ Train Suite Shiki-shima และเป็นครั้งแรกที่จะมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับตารางการเดินทางคอร์สฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่ปี 2017 คอร์สท่องเที่ยวนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ในที่สุดก็จะมีการปรับปรุงตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ต่อไปจะเป็นการแนะนำสั้นๆสำหรับเส้นทางใหม่ของฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง และจะแนะนำเส้นทางปัจจุบันของฤดูหนาวด้วย

 

โปรแกรมการท่องเที่ยว 4วัน3คืน สำหรับฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง

ช่วงเวลาการเดินทาง: เมษายน-กันยายน

ตารางการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับโปรแกรมใหม่ 4วัน3คืน ในฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงครอบคลุมโทโฮคุและฮอกไกโดใต้และนำแขกให้สัมผัสกับเหล่าความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมข้ามกาลเวลาที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น

 

แอบมองโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ 4วัน3คืน ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน (เครดิตภาพ: JR East)

 

วันที่ 1: อุเอโนะฮาโกดาเทะ

เริ่มต้นที่อุเอโนะรถไฟมุ่งหน้าไปทางเหนือสู่ฮาโกดาเทะเมืองท่าในฮอกไกโดใต้ อาหารเที่ยงสไตล์ญี่ปุ่นจากร้าน Mutsukari ร้านอาหารหรูชั้นสูงในกินซ่า และอาหารเย็นสไตล์ฝรั่งเศสเตรียมด้วยหัวหน้าเชฟของรถไฟซึ่งจะเสริฟบนรถไฟ และคืนแรกจะนอนพักบนรถไฟ

 

วันที่ 2: ฮาโกดาเทะชิราโออิโนโบริเบ็ตสึ/ทะเลสาบชิโคทสึ

วันถัดมาแขกจะได้นั่งรถรางเมืองฮาโกดาเทะเพื่อเที่ยวตลาดเช้าก่อนที่จะมุ่งหน้าไปสู่อุโปะโปยพิพิธภัณฑ์และสวนไอนุแห่งชาติที่ชิราโออิที่ซึ่งจะสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวไอนุชนเผ่าพื้นเมืองของฮอกไกโด คืนที่สองจะพักที่รีสอร์ทน้ำพุร้อนที่โนโบริเบ็ตสึออนเซ็นหรือทะเลสาบชิโคทสึที่ซึ่งแขกจะได้พักผ่อนในน้ำออนเซ็นที่มีคุณสมบัติฟื้นฟูร่างกาย

 

วันที่ 3: โนโบริเบ็ตสึ/ทะเลสาบชิโคทสึโจมอน/คุโรอิชิอาโอโมริ

ในวันที่ 3 รถไฟจะแล่นไปยังจังหวัดอาโอโมริที่ซึ่งแขกจะได้เลือกโปรแกรมการท่องเที่ยวสั้นๆระหว่างสองอย่าง: คอร์สโจมอนหรือคอร์สคุโรอิชิ คอร์สโจมอนจะนำท่านสู่แหล่งซันไนมารุยามะ (Sannai Maruyama) หนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นแหล่งใหม่ที่สุดที่ชื่อว่า กลุ่มโบราณสถานก่อนประวัติศาสตร์โจมอนในภาคเหนือของญี่ปุ่น สำหรับคอร์สคุโรอิชิ แขกจะได้เข้าร่วมการทำพัดเนบุตะอุจิวะ (nebuta uchiwa) ทั้งสองกลุ่มจะกลับมาพบกันอีกที่สถานี Aomori หลังจากอาหารเย็นของแต่ละกลุ่ม และจะใช้เวลาคืนที่สามบนรถไฟ

 

วันที่ 4: อาโอโมรินารุโกะออนเซ็นอุเอโนะ

วันที่ 4 แขกจะมีเวลาว่างเพื่อสำรวจไปในนารุโกะออนเซ็นจังหวัดมิยางิ สำหรับอาหารเที่ยงแขกจะได้ทานซูชิน่าอร่อยน่ารับประทานทำจากปลาสดๆจากท่าอิชิโนะมาคิระหว่างเส้นทางรถไฟกลับสถานี Ueno

 

โปรแกรมการท่องเที่ยว 2วัน1คืน สำหรับฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง

คอร์สยามะนาชิ: เดือนเมษายน พฤษภาคม ตุลาคมและพฤศจิกายน
คอร์สนากาโน่: เดือนมิถุนายน-กันยายน

โปรแกรม 2วัน1คืน สำหรับฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงวิ่งไปในเส้นทางเดียวกัน แต่โปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆ อาหารและสถานที่ที่รถไฟหยุดนั้นจะแตกต่างขึ้นอยู่กับฤดูกาลและคอร์ส เส้นทางที่มุ่งหน้าสู่จังหวัดนีกาตะในวันแรกจะผ่านจังหวัดนากาโน่และจังหวัดยามะนาชิในวันที่สอง ระหว่างโปรแกรมการเดินทางเราหวังว่าแขกจะได้สัมผัสประสบการณ์เนื้อแท้ของพ่อค้าผู้ร่ำรวยในเวลาที่ผ่านมาที่ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากเมืองท่าและของขวัญธรรมชาติอันมากมายจากหมู่บ้านบนภูเขาที่ล้อมรอบ

 

แอบมองโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ 2วัน1คืน ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน (เครดิตภาพ: JR East)

 

วันที่ 1: อุเอโนะนีกาตะ

มีสองคอร์สคือ คอร์สยามะนาชิ ซึ่งให้บริการในเดือนเมษายน พฤษภาคม ตุลาคมและพฤศจิกายน และคอร์สนากาโน่ ซึ่งให้บริการตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน ทั้งสองคอร์สวันแรกจะออกเดินทางจากสถานีอุเอโนะไปยังสถานี Niitsu ในจังหวัดนีกาตะ ที่สถานี Niitsu แขกจะได้ไปโปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆในเมืองนีกาตะเมืองท่าประวัติศาสตร์ตั้งอยู่บนเส้นทางเดินเรือคิตะมาเอะบุเนะ (Kitamaebune) เส้นทางสำคัญในยุคเอโดะ (1603-1868)

 

จากเดือนเมษายนถึงกันยายน โปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆจะเป็นบ้านพักไซโต (Saito Villa 旧齋藤家別邸) อดีตบ้านผู้ค้าที่สร้างโดยตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจเดินเรือสินค้าบนเส้นทางคิตะมาเอะบุเนะ จากเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน โปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆจะเป็นเอ็นคิคัน (Enkikan 燕喜館) ที่ซึ่งแขกจะได้เพลิดเพลินไปกับการแสดงของเกอิชา ระหว่างยุคเอโดะเขตฟุรุมาจิในเมืองนีกาตะเป็นหนึ่งในสามของเขตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดสำหรับเกอิชาและท่านยังสามารถพบเจอได้ที่นี่ในปัจจุบัน

 

วันที่ 2: นีกาตะยามะนาชิ/นากาโน่อุเอโนะ

ในวันที่ 2 ทั้งคอร์สยามะนาชิและคอร์สนากาโน่จะพาแขกไปโรงไวน์เนื่องจากทั้งสองเขตนี้มีชื่อเสียงในฐานะจังหวัดผลิตไวน์ คอร์สยามะนาชิแขกจะได้ไปเช็คไวน์ที่ราบลุ่มโคฟุ ขณะที่คอร์สนากาโน่แขกจะได้ไปเช็คไวน์ที่หุบเขาไวน์แห่งแม่น้ำจิคุมะ หลังจากทริปไวน์สั้นๆแล้วรถไฟจะมุ่งหน้ากลับสถานี Ueno

 

โบนัสพิเศษสำหรับคอร์สนากาโน่คือ จุดพักยามเช้าตรู่ที่สถานี Obasute ซึ่งเป็นหนึ่งใน “สามวิวที่ดีที่สุดจากหน้าต่างรถไฟ” สถานี Obasute มีห้องรับรองเฉพาะสำหรับแขกของ Train Suite Shiki-shima ที่ซึ่งสามารถมองลงมายังที่ราบเซนโคจิเพื่อวิวทิวทัศน์ที่มหัศจรรย์ยอดเยี่ยม

 

โปรแกรมการท่องเที่ยว 3วัน2คืน สำหรับฤดูหนาว

ช่วงเวลาการเดินทาง: เดือนธันวาคม-มีนาคม

การปรับปรุงเมื่อเร็วๆนี้ในเดือนธันวาคม 2020 ตารางการท่องเที่ยวฤดูหนาว 3วัน2คืน โฟกัสไปยังโทโฮคุ และกล่าวกันว่าเป็นการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อค้นหาโลกของตำนานพื้นบ้านที่น่ามหัศจรรย์และความเรียบง่ายของงานหัตถกรรมที่ก่อกำเนิดมาจากฤดูหนาวที่ยาวนานของโทโฮคุ

 

เส้นทางสำหรับโปรแกรมท่องเที่ยว 3วัน2คืน ฤดูหนาว (เครดิตภาพ: JR East)

 

วันที่ 1: อุเอโนะโทโนะ

รถไฟเริ่มออกเดินทางจากสถานี Ueno มุ่งหน้าสู่โทโนะในจังหวัดอิวาเทะที่ซึ่งมีชื่อเสียงเกี่ยวกับตำนานพื้นเมือง แขกจะเดินทางท่องเที่ยวโปรแกรมสั้นๆเพื่อชมการแสดงคากุระที่โทโนะและทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารท้องถิ่นก่อนที่จะกลับมานอนพักบนรถไฟ

 

วันที่ 2: โทโนะโกะโชกะวะระ/นิชิเมยะฮิโรซาคิ

หลังจากโทโนะ การเดินทางจะไปต่อยังจังหวัดอาโอโมริที่ซึ่งแขกสามารถเลือกได้ระหว่างคอร์สโกะโชกะวะระ/ฮิโรซาคิ หรือคอร์สฮิโรซาคิ/นิชิเมยะ แขกที่เลือกคอร์สโกะโชกะวะระ/ฮิโรซาคิจะนั่งรถไฟเตาผิงของบริษัทรถไฟ Tsugaru Railway เที่ยวพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์โอซามุดะไซ และร่วมการทำเวิร์คช็อปงานฝีมือสึการุ(การเย็บปักถักร้อยโคกินซาชิ Koginzashi หรืองานไม้วานิมัคโคะ Wanimakko) ส่วนแขกคอร์สฮิโรซาคิ/นิชิเมยะจะได้เที่ยวศูนย์แอปเปิ้ลคาวะฮิกาชิ (Kawahigashi) และเข้าร่วมเวิร์คช็อปงานโค้งไม้ ทั้งสองกลุ่มจะกลับมาพบกันที่สถานี Hirosaki หลังจากโปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆและจะทานอาหารเย็นบนรถไฟและนอนพักบนรถไฟ

 

วันที่ 3: ฮิโรซาคิมัทสึชิมะอุเอโนะ

ในวันสุดท้าย แขกจะมีโปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆที่มัทสึชิมะ กลุ่มของเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีต้นสนปกคลุมก่อเกิดทัศนียภาพสวยงามและเป็นหนึ่งใน “สามวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น” และดื่มด่ำกับอาหารเที่ยงซูชิอร่อยๆทำจากปลาสดๆจากท่าชิโอะกะมะ ก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับสถานี Ueno

 

โปรแกรมการท่องเที่ยว 2วัน1คืน สำหรับฤดูหนาว

ช่วงเวลาการเดินทาง: เดือนธันวาคม-มีนาคม

เช่นกันได้มีการปรับปรุงเมื่อเร็วๆนี้ในเดือนธันวาคม 2020 ตารางการท่องเที่ยวฤดูหนาว 2วัน1คืน เดินทางไปรอบๆเขตคันโต เยี่ยมชมศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์และพาแขกรับแสงฤดูหนาวขณะที่เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันสวยงามตลอดชายฝั่งแปซิฟิค

 

เส้นทางสำหรับโปรแกรมท่องเที่ยว 2วัน1คืน ฤดูหนาว (เครดิตภาพ: JR East)

 

วันที่ 1: อุเอโนะคาชิมะซาวะระ

หลังจากออกจากสถานี Ueno แขกจะได้ทานอาหารเที่ยงบนรถไฟก่อนที่จะลงไปเที่ยวโปรแกรมสั้นๆที่ศาลเจ้าคาชิมะในจังหวัดอิบาราคิและซาวะระในจังหวัดชิบะ อาหารเย็นจะถูกเสิร์ฟบนรถไฟและแขกจะนอนบนรถไฟ

 

วันที่ 2: ซาวะระโอดะวาระอุเอโนะ

ระหว่างกลางคืนรถไฟมุ่งหน้าไปยังจังหวัดคานากาว่า แสงพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตรู่ในวันที่สองแขกสามารถเพลิดเพลินไปกับพระอาทิตย์ขึ้นที่สถานี Nebukawa จากบนรถไฟหรือจากชานชลาก็ได้ โปรแกรมท่องเที่ยวสั้นๆจะพาแขกไปรอบๆโอดะวาระก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับสถานี Ueno ในตอนบ่าย

 

วิธีการนั่งรถไฟ Train Suite Shiki-shima

Train Suite Shiki-shima (เครดิตภาพ: JR East)

 

การนั่งรถไฟ Train Suite Shiki-shima ไม่เหมือนกับรถไฟอื่นๆ ไม่เหมือนรถนอนปกติหรือรถไฟกลางคืน และคุณไม่สามารถซื้อตั๋วรถไฟได้ ประสบการณ์รถไฟนี้ขายเฉพาะแพ็คเกจทัวร์เท่านั้น ซึ่งคุณสามารถสมัครออนไลน์ ที่นี่ ถ้ามีคนสมัครมากกว่าจำนวนที่ว่าง จะต้องมีการจับฉลาก เนื่องจากจำนวนที่นั่งที่มีจำกัดจึงมีการเปิดรับสมัครล่วงหน้า 6-8 เดือนเสมอๆ ปัจจุบันนี้เปิดรับสมัครของเดือนเมษายน-มิถุนายน 2022 และสามารถสมัครได้ถึงปลายเดือนตุลาคม

 

ตารางราคาสำหรับคอร์สใหม่ (เครดิตภาพ: JR East)

 

ราคาของการนั่ง Train Suite Shiki-shima นั้นเริ่มตั้งแต่ 370,000 เยนต่อคนสำหรับคอร์ส 2วัน1คืนจน ถึง 800,000 เยนต่อคนสำหรับคอร์ส 4วัน3คืน สำหรับพักสองคนในห้อง Suite เราต้อนรับนักท่องเที่ยวคนเดียวด้วยแต่ราคาจะสูงขึ้นประมาณ 1.5 เท่าของการพักสองคน

 

การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ Train Suite Shiki-shima

แนะนำ Train Suite Shiki-shima (เครดิตวีดีโอ: JR East)

 

ชมวีดีโอข้างต้นนี้สำหรับการแนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกและตารางการเดินทางของ Train Suite Shiki-shima

 

เครดิตรูปภาพส่วนหัวบทความ: JR East

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Share this article:
TSC-Banner