ฤดูกาลชินเรียวคุ: แมกไม้เขียวตรึงตาแห่งคาคุโนะดาเตะ และทางรถไฟสาย Akita Nairiku
ถนนคฤหาสน์ซามูไรคาคุโนะดาเตะ (角館武家屋敷通り Kakunodate Bukeyashiki Dо̄ri) ที่รู้จักกันในนามเกียวโตน้อย (小京都 Shо̄-Kyо̄to) แห่งโทโฮคุนั้น เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของซามูไรหลายคน แม้ว่าคุณจะไม่ได้เห็นซามูไรพกดาบเดินไปมาตามท้องถนนแล้ว แต่คุณยังสามารถชมบ้านซามูไรหลายหลังที่ถูกบำรุงรักษาเป็นอย่างดีได้
คาคุโนะดาเตะที่อยู่ในเมืองเซ็มโบคุ (仙北市 Senboku-shi) ในจังหวัดอาคิตะ (秋田県) นั้น ขึ้นชื่อในเรื่องของทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงที่ชิดาเระซากุระ (しだれ桜 ซากุระพันธุ์กิ่งย้อย) นับร้อยอันน่าทึ่งที่พากันบานและเปลี่ยนให้สองข้างทางของถนนให้เป็นสีชมพู แต่คุณรู้ไหม? ว่าในช่วงฤดูกาลชินเรียวคุ (新緑 แมกไม้เขียวผลิใหม่) บรรดาต้นซากุระจะแตกใบไม้เขียวสดสวยงาม และนำความมีชีวิตชีวามาสู่ถนนเส้นนี้ สีเขียวขจีของที่นี่ต่างจากสีใบไม้เขียวที่คุณเห็นได้ทั่วไปในสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มันเป็นสีเขียวที่สดใสอย่างไม่น่าเชื่อ แถมเปี่ยมไปด้วยชีวิตและพลัง
เราตื่นเต้นที่จะได้สำรวจคาคุโนะดาเตะในฤดูกาลชินเรียวคุ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
แม้ว่าฉันจะเคยไปคาคุโนะดาเตะมาแล้วไม่กี่ครั้ง แต่ฉันไม่เคยมาเยี่ยมที่นี่ในช่วงฤดูกาลชินเรียวคุเลย และเมื่อเดือนที่แล้วฉันก็ได้ลองไปเที่ยวมาในที่สุด ดังนั้นในบทความนี้เราจะลองมาดูคาคุโนะดาเตะในช่วงฤดูกาลชินเรียวคุอันเขียวขจีและเยี่ยมสุดๆ กัน!
ทางรถไฟสาย Akita Nairiku
นั่งรถไฟสาย Akita Nairiku (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
วิธีที่ง่ายที่สุดในการไปคาคุโนะดาเตะคือโดยชินกันเซ็น (新幹線 รถไฟหัวกระสุน) จากอาคิตะหรือโมริโอกะ แต่นอกจากนี้คุณยังเดินทางไปตามทางรถไฟสาย Akita Nairiku (秋田内陸線 Akita Nairiku-sen) ที่ให้บริการโดยการรถไฟ Akita Nairiku (秋田内陸縦貫鉄道 Akita Nairiku Jūkan Tetsudо̄) ได้ด้วย ซึ่งอย่างที่ชื่อของมันบ่งบอก “nairiku” หมายถึง “พื้นที่ห่างชายฝั่ง” ทางรถไฟนี้วิ่งผ่านพื้นที่ห่างชายฝั่งของจังหวัดอาคิตะ ทำให้มีวิวยอดเยี่ยมมากมายของทิวทัศน์พื้นที่ห่างชายฝั่งของจังหวัดอาคิตะ
การตกแต่งลายสุนัขอาคิตะอินุภายในรถไฟบนทางรถไฟสาย Akita Nairiku (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
นอกจากนี้อาคิตะยังมีชื่อเสียงเรื่องอาคิตะอินุ (秋田犬) สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีนิสัยรักเจ้าของ และฉันตื่นเต้นและมีความสุขมากเมื่อเห็นว่าภายในรถไฟนั้นมีลวดลายสุนัขอยู่ตามผ้าคลุมเบาะนั่ง รวมถึงมีภาพสุนัขอาคิตะบนผนังและเพดานของรถไฟด้วย
แมกไม้เขียวตามทางรถไฟสาย Akita Nairiku (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ด้วยความที่ไม่มีเมฆสักก้อนบนท้องฟ้า อากาศในวันนั้นเหมาะกับการถ่ายรูปมาก โดยมีท้องฟ้าสีครามให้เห็นตลอดทาง และตลอดเส้นทางรถไฟนั้นเรามีโอกาสมากมายที่จะได้เห็นชินเรียวคุตามรายทาง
วิวจากบนสะพานโอมาตากาวะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ช่วงหนึ่งของเส้นทางที่ควรจับตามองเลยก็คือตอนที่รถไฟข้ามสะพานโอมาตากาวะ (大又川橋梁 О̄matagawa Kyо̄ryо̄) ระหว่างที่รถไฟกำลังข้ามสะพาน ฉันได้ชมภาพสะพานรถข้ามสองอัน ผืนน้ำสีมรกตของแม่น้ำโอมาตะเบื้องล่าง และแมกไม้เขียวชะอุ่มโดยรอบ วิวจากบนสะพานโอมาตากาวะนั้นเป็นหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดในบรรดาวิวทั้งหมดของทางรถไฟสาย Akita Nairiku และเมื่ออยู่บนสะพานรถไฟจะชะลอลงเพื่อให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินกับวิว
งานศิลปะทัมโบะที่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง ณ สถานี Jōmon-Ogata (บน) และสถานี Kamihinokinai (ล่าง) (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
อย่างหนึ่งที่ทางรถไฟสาย Akita Nairiku ขึ้นชื่อก็คือวิวงานศิลปะทัมโบะ (田んぼアート ศิลปะนาข้าว) ที่ผู้โดยสารสามารถชมระหว่างนั่งรถไฟได้ งานศิลปะทัมโบะคือการนำข้าวสีต่างๆ มาปลูกเพื่อให้เป็นภาพบนท้องนา ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมภาพเหล่านี้คือในเดือนกันยายน แต่ช่วงฤดูกาลชินเรียวคุนั้นจะเป็นช่วงที่ข้าวถูกนำมาปลูก
ณ สถานี Jōmon-Ogata (縄文小ケ田駅) ฉันเห็นงานศิลปะทัมโบะเป็นภาพสุนัขอาคิตะอินุที่น่ารักพร้อมตัวละครอื่นๆ และระหว่างอยู่ที่สถานี Kamihinokinai (上桧木内駅) ฉันเห็นอาสาสมัครกำลังปลูกข้าวอยู่ ซึ่งเมื่อเห็นพวกเรากำลังถ่ายรูปอยู่พวกเขาก็โบกมือให้อย่างร่าเริง
ถนนคฤหาสน์ซามูไรคาคุโนะดาเตะ
ด้านนอกสถานี Kakunodate (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงที่สถานี Kakunodate (角館駅) ด้วยความที่คาคุโนะดาเตะขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องซากุระ ด้านนอกของสถานีรถไฟจึงมีดีไซน์ซากุระเป็นจุดเด่น ส่วนสีดำนั้นเป็นตามสไตล์บรรดาคฤหาสน์ซามูไร ซึ่งทาสีดำกันเป็นส่วนใหญ่
ถนนคฤหาสน์ซามูไรคาคุโนะดาเตะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ถนนคฤหาสน์ซามูไรคาคุโนะดาเตะอยู่ห่างออกไปในระยะเดิน 20 นาทีถึงจากสถานี Kakunodate และมีป้ายบอกทางมากมายอยู่ ตามถนนเส้นต่างๆ นี้คุณจะเห็นต้นซากุระจำนวนมากอยู่ ซึ่งบางต้นมาจากเกียวโตทีเดียว บรรยากาศที่นี่คล้ายกับที่เกียวโตมากจนเป็นที่มาของชื่อเล่น “เกียวโตน้อยแห่งโทโฮคุ”
ต้นไม้ชนิดต่างๆ ตามถนนคฤหาสน์ซามูไรคาคุโนะดาเตะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
บ้านต่างๆ ที่ถูกบำรุงรักษามาเป็นอย่างดีนั้นช่วยเสริมบรรยากาศย้อนยุคของถนนเส้นนี้ได้เป็นอย่างดี และมันให้ความรู้สึกเหมือนในส่วนหนึ่งฉันถูกส่งไปยังยุคสมัยของซามูไรในอดีต และในอีกส่วนก็ถูกส่งไปยังป่าเวทมนต์ ไม่มีคำอื่นที่จะบรรยายสีที่มีมนต์เสน่ห์นี้ได้นอกจาก "เขียวจริงๆ !"
ต้นไม้จำนวนมากที่พากันผลิเฉดสีเขียวสดในช่วงฤดูกาลชินเรียวคุนั้นดูน่าทึ่งมากเมื่อตัดกับคฤหาสน์ซามูไรเก่าแก่ในฉากหลัง นอกจากชิดาเระซากุระที่มีกิ่งก้านปรกลงมาแล้ว ยังมีต้นสน ต้นเมเปิ้ล ด้นแปะก๊วย และอื่นๆ อยู่จำนวนหนึ่งด้วย
ต้นซากุระในช่วงฤดูกาลชินเรียวคุ (ซ้าย) และฤดูซากุระ (ขวา) (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
คาคุโนะดาเตะขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องของซากุระ และขณะที่ฉันเดินไปตามถนน ฉันก็ผ่านมาเจอซากุระยืนต้นเดี่ยวต้นนี้แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าฉันเคยเห็นมันมาก่อนไม่กี่ครั้งในช่วงฤดูซากุระ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นมันถูกปกคลุมด้วยใบไม้เขียว และภาพที่เห็นนั้นต่างกันมากทีเดียว!
แต่ละฤดูนั้นนำพาบรรยากาศที่ต่างกันมาสู่วิวตามถนนเส้นนี้ ดังนั้นฉันแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้มาเที่ยวในช่วงเวลาต่างๆ ของปีเพื่อชมวิวสวยงาม อย่างเช่นต้นซากุระสีชมพูน่ามอง แมกไม้สีเขียวขจี ใบไม้ร่วงสีอบอุ่น และหิมะขาวปุย
บ้านซามูไรอิชิกุโระ
ทางเข้าไปยังบ้านซามูไรอิชิกุโระ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ในบรรดาคฤหาสน์ซามูไรหลายหลังตามถนนคฤหาสน์ซามูไรคาคุโนะดาเตะนี้ บ้างเปิดเป็นร้านค้า ขณะที่บ้างเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของลูกหลานซามูไร ในจำนวนนี้มีหกหลังที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า โดยพวกเราได้ไปที่บ้านซามูไรอิชิกุโระ (石黒家 Ishiguro-ke) ซึ่งเป็นบ้านของตระกูลอิชิกุโระ
ภายในบ้านซามูไรอิชิกุโระ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ณ ด้านใน พวกเราสามารถสำรวจพื้นที่บางส่วนได้อย่างอิสระ โดยมีไกด์อธิบายว่าซามูไรในอดีตใช้ห้องและพื้นที่ต่างๆ อย่างไรกันบ้าง อีกทั้งยังมีการจัดแสดงข้าวของเก่าแก่ของซามูไร เช่นชุดเกราะและหมวก มันเป็นสิ่งน่าสนใจมาก โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นแฟนประวัติศาสตร์ตัวยงอย่างฉัน!
บ้านซามูไรอิชิกุโระ (石黒家)
ที่อยู่: 1 Omoteshimocho, Kakunodatemachi, Senboku-shi, Akita 014-0331
การเดินทาง: เดิน 25 นาทีจากสถานี Kakunodate (角館駅)
เวลาทำการ: 9:00–17:00 น.
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 400 เยน/คน
ขนมยามบ่าย: อันมิตสึ
อร่อยกับอันมิตสึ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังเดินดูรอบๆ มาสักพัก พวกเราก็เหนื่อยและอยากได้ขนมสักอย่างขึ้นมา พวกเราเลยมาอร่อยกับของหวานกัน นั่นคืออันมิตสึ (あんみつ) สุดอร่อยนั่นเอง อันมิตสึเป็นขนมหวานดั้งเดิมเย็นสดชื่นที่มีส่วนประกอบหลักคือเยลลี่ ถั่วแดงบด และโปะหน้าด้วยมิตสึซึ่งเป็นน้ำเชื่อมหวานสีเข้ม พวกเรารู้สึกอยากตามใจตัวเองเป็นพิเศษอยู่ พวกเราจึงสั่งขนมของพวกเราแบบโปะท็อปปิ้งเป็นไอศกรีมรสงาดำและชาเขียวด้วย มันเป็นของว่างระหว่างเดินเล่นที่ลงตัวสุดๆ ไปเลย
ตัวร้านนั้นมีวิวที่หันเข้าหาถนน และแม้อยู่ในร้านเราก็ยังเพลินไปกับสีเขียวสดชื่นของบรรดาต้นไม้ด้านนอกได้ ต้นไม้เหล่านั้นเป็นสีเขียวสดมากเสียจนสะท้อนสีให้เห็นบนเนื้อไม้ของโต๊ะทีเดียว! ส่วนอันมิตสึนั้นอร่อยมากจริงๆ และเป็นวิธีเติมพลังที่เยี่ยมทีเดียว
ตลิ่งแม่น้ำฮิโนะคิไน
บรรดาต้นซากุระตามตลิ่งของแม่น้ำฮิโนะคิไนในช่วงฤดูกาลชินเรียวคุ (บน) และฤดูซากุระ (ล่าง) (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากเติมแรงกันด้วยขนมหวาน ก็ได้เวลาเดินต่อกันแล้ว เมื่อเดินราว 10 นาทีจากถนนคฤหาสน์ซามูไรคาคุโนะดาเตะเราก็จะมาถึงตลิ่งแม่น้ำฮิโนะคิไนที่มีต้นซากุระนับร้อยเรียงรายอยู่ ในช่วงฤดูกาลชินเรียวคุนั้น ต้นไม้เหล่านี้จะถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีเขียวชอุ่มและสดใส เกิดเป็นบรรยากาศที่ต่างจากในฤดูใบไม้ผลิอย่างมาก
พืชไม้เขียวสดตามแม่น้ำฮิโนะคิไน (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
แม้ว่าช่วงเวลานี้จะไม่มีดอกซากุระเลย แต่ก็ยังมีดอกไม้สีขาว ชมพู และเหลืองให้เห็นกัน และด้วยท้องฟ้าสีครามเบื้องบน วิวริมแม่น้ำนั้นทั้งชวนผ่อนคลายและวิเศษไปเลย
มื้อเย็น: อินานิวะอุด้ง ในซุปฮิไนจิโดริ
อินานิวะอุด้งที่ปรุงมาในน้ำซุปฮิไนจิโดริ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
พวกเราเดินไปรอบๆ ตลิ่งแม่น้ำฮิโนะคิไนอยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง แล้วจึงมุ่งหน้ากลับไปยังสถานี Kakunodate และในเมื่อเรายังมีเวลาอยู่บ้างก่อนจะขึ้นรถชินกันเซ็นของเรากลับไปยังโมริโอกะ พวกเราจึงมองหาร้านสักร้านเพื่อกินอาหารเย็นที่เร็วกว่าเวลาปกติ
อาคิตะนั้นขึ้นชื่อเรื่องอินานิวะอุด้ง (稲庭うどん) เส้นอุด้งบางเนื้อเนียนลื่น และฮิไนจิโดริ (比内地鶏) ไก่ที่เพาะเลี้ยงในพื้นที่ท้องถิ่นของแถบฮิไน และพวกเราก็เจอที่ที่เสิร์ฟอินานิวะอุด้งที่ปรุงมาในน้ำซุปฮิไนจิโดริ มันเป็นมื้อที่อบอุ่นและอร่อย และเป็นการปิดท้ายวันแห่งการสำรวจแมกไม้สีเขียวอันเหลือเชื่อของทางรถไฟสาย Akita Nairiku และคาคุโนะดาเตะที่เยี่ยมไปเลย
JR EAST PASS (Tohoku area)
ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) และพื้นที่ที่ครอบคลุม (เครดิตภาพ: JR East)
ถ้าคุณกำลังจะไปเที่ยวคาคุโนะดาเตะ ขอแนะนำ JR EAST PASS (Tohoku area) ตั๋ว Pass ราคาย่อมเยาที่ให้คุณนั่งรถไฟบนทางรถไฟของ JR East (รวมถึงชินกันเซ็น) ได้อย่างไม่จำกัดเที่ยวในพื้นที่ที่ครอบคลุมตลอดระยะเวลา 5 วันติดกัน ด้วยราคาเพียง 30,000 เยน ตั๋วนี้จึงถูกกว่าค่าเดินทางไปกลับระหว่างโตเกียวและอาคิตะ (~34,000 เยน) นอกจากนี้คุณยังสามารถจองที่นั่งบนรถไฟชินกันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษและรถไฟ Joyful Train บางขบวนแบบออนไลน์ล่วงหน้านานถึง 1 เดือนได้ฟรีบนเว็บ JR-EAST Train Reservation
The JR-EAST Train Reservation. (เครดิตภาพ: JR East)
ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถใช้กับประตูอัตโนมัติได้ และผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋วนี้ได้ด้วย
เครดิตภาพปก:: JR East / Carissa Loh