รถไฟภัตตาคารแบบไฟน์ไดนิ่ง:TOHOKU EMOTION

ภูมิภาคโทโฮคุที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นนั้นเป็นขุมสมบัติของทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเล ผัก และไม้ ในปี 2013 รถไฟ Joyful Train TOHOKU EMOTION (東北エモーション Tōhoku Emōshon) ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองแก่ภูมิภาคอันน่าตื่นตาตื่นใจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ซันริคุนี้

TOHOKU EMOTION เป็นรถไฟภัตตาคารชั้นเลิศในฐานะเรือธงของรถไฟ Joyful Train ที่ผสมผสานองค์ประกอบท้องถิ่นและความหรูหราเข้ากับประสบการณ์ในการรับประทานอาหาร  สำหรับรับประทานอาหารของ JR East ระหว่างการเดินทางบน “รถไฟภัตตาคารของโทโฮคุ” ขบวนนี้ คุณจะได้ลิ้มรสอาหารรสเลิศที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของโทโฮคุทุกๆ จาน พร้อมด้วยการบริการระดับห้าดาวที่สุดแสนจะประทับใจ

ฉันเป็นแฟนตัวยงของรถไฟแบบมีธีม และเคยได้แนะนำ Joyful Train แบบภัตตาคารที่ชื่อว่า FruiTea Fukushima รวมถึงรถไฟขบวนอื่นๆ ที่วิ่งในภูมิภาคโทโอคุ เช่น Toreiyu Tsubasa, POKÉMON with YOU Train, และ Resort Shirakami ไปแล้ว เชื่อฉันได้เลยว่าการเดินทางท่องเที่ยวด้วย TOHOKU EMOTION จะกลายเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม และจะทำให้คุณอยากขึ้นรถไฟนี้อีกครั้งแน่นอนค่ะ!

การตกแต่งด้านนอกตัวรถไฟ TOHOKU EMOTION (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)

แค่ครั้งแรกที่ได้เห็นรถไฟขบวนนี้ก็ทำให้ฉันตื่นเต้นแล้ว การตกแต่งด้านนอกและด้านในรวมไปถึงดีไซน์ดูเหมือนกับภัตตาคารเก๋ๆ มีรายละเอียดแม้กระทั่งกันสาดและโคมไฟที่แขวนไว้ตรงทางเข้า รวมถึงพรมแดงที่ปูไว้รอต้อนรับ ด้านบริการบนรถไฟนั้นก็ไร้ที่ติ และพนักงานทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นลูกค้าวีไอพีเลยทีเดียว

คอร์สอาหารกลางวันระหว่างการเดินทางขาออก (ฮาชิโนเฮะ→คุจิ)

อาหารกลางวันบนรถไฟ TOHOKU EMOTION ในเดือนเมษายน ปี 2018 (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)

ฉันมีโอกาสได้ทานอาหารกลางวันแสนอร่อยของ TOHOKU EMOTION ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วในเดือนเมษายนปี 2018 อาหารกลางวันแบบ 4 คอร์สนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารฝรั่งเศส สร้างสรรค์โดยเชฟโอกาตะจากร้านอาหาร “nacreé” ในเซนได เริ่มจานแรกเป็นกุ้ง ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยเป็นอาหารทะเลและผักหลากชนิด จานหลักเป็นพอร์กช็อปกับหน่อไม้ฝรั่ง ปิดท้ายด้วยขนมหวานหลายประเภทที่จัดเสิร์ฟมาในกล่องเครื่องเขินสุดเรียบหรู

ทุกเมนูบนรถไฟ TOHOKU EMOTION ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นของโทโฮคุ ซึ่งเป็นการใช้อาหารเพื่อแนะนำภูมิภาคนี้ให้กับนักท่องเที่ยว แม้แต่อุปกรณ์ทำอาหารและเทคนิคที่ใช้ในการปรุงอาหารรวมไปถึงเครื่องจานชามต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่มาจากโทโฮคุทั้งสิ้น

• มาเงะวัปปะ (曲げわっぱ ไม้ดัด) และไม้สนซีดาร์จากจังหวัดอาคิตะ ถูกนำมาใช้เป็นกล่องใส่เมนูแรก
• ไม้พอโลเนียจากไอสุ ถูกนำมาใช้ทำเป็นกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสใส่เมนูเรียกน้ำย่อย
• เครื่องเซรามิกจากจังหวัดอิวาเตะ ถูกนำมาใช้เป็นภาชนะใส่อาหารจานหลัก
• เครื่องเขินจากไอสุ ถูกนำมาใช้เป็นกล่องใส่ของหวาน

ทั้งความคิดและรายละเอียดทั้งหมดที่ใช้สร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารมื้อนี้ช่างสุดยอดจริงๆ!

เวลคัมดริ้งค์ (ซ้าย), Aomori Cidre (กลาง), เหล้าสาเกอิวาเตะ (ขวา) (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)

เมื่อนั่งประจำที่บนรถไฟแล้วแล้ว พนักงานจะเสิร์ฟเวลคัมดริ้งค์เป็นแอปเปิ้ลไซเดอร์ไร้แอลกอฮอล์ที่ผลิตในจังหวัดอาโอโมริ หลังจากนั้นคุณสามารถเลือกเครื่องดื่มได้แบบไม่อั้น ซึ่งมีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท้องถิ่นได้แก่ Aomori Cidre แอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ผลิตในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ไวน์ขาวและไวน์แดงจากภูมิภาคทาคาฮาตะในจังหวัดยามากาตะ และเหล้าสาเกจากจังหวัดอิวาเตะ  ฉันขอแนะนำ Aomori Cidre ที่ทั้งอร่อยและสดชื่นมากๆ เลยค่ะ! สำหรับเครื่องดื่มท้องถิ่นที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ก็จะมีน้ำแอปเปิ้ลจากจังหวัดอาโอโมริ และน้ำแร่จากถ้ำริวเซนโดในจังหวัดอิวาเตะ

อาหารกลางวันบนรถไฟ TOHOKU EMOTION เดือนมิถุนายน ปี 2019  (เครดิตรูปภาพ: JR East / Akio Kobori)

หัวหน้าของฉันขึ้นรถไฟ TOHOKU EMOTION อีกครั้งในเดือนมิถุนายน ปี 2019 อาหารครั้งนั้นเป็นเมนูฟิวชั่นญี่ปุ่น-จีนตะวันออกโดยเชฟ 4 คนจาก Hotel Metropolitan Morioka จังหวัดอิวาเตะ อาหารกลางวันแบบ 6 คอร์สเริ่มต้นด้วยเต้าหู้ อาหารเรียกน้ำย่อยเป็นซีฟู้ดและผัก 6 อย่าง ซุปสมุนไพร ชิราชิด้ง (チラシ丼 ข้าวหน้าซาชิมิสารพัดชนิด) โดยมีจานหลักเป็นเนื้อย่าง ตบท้ายด้วยของหวานหลายประเภท ทั้งหมดนี้ปรุงด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นในโทโฮคุ ใช้เครื่องจานชามและเทคนิคการปรุงอาหารของโทโฮคุเหมือนเช่นเดิม

เมนูอาหารเดือนเมษายนถึงกันยายน ปี 2020 (เครดิตรูปภาพ: JR East)

เมนูอาหารของ TOHOKU EMOTION จะเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 3-6 เดือน ซึ่งจะทำให้คุณได้ลุ้นและได้รอดูเมนูใหม่ๆ ในครั้งต่อๆ ไปที่ขึ้นรถไฟ! ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน ปี 2020 เมนูอาหารบนรถไฟจะสร้างสรรค์โดยเชฟฮาราดะจาก “trattoria LIPAGIO” ร้านอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงในเมืองฮิโรซากิ ประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย พาสต้า อาหารจานหลัก และของหวานหลายชนิด สำหรับบุฟเฟ่ต์ของหวานจะดูแลโดยเซฟชนมหวานคุมางายะ จาก Hotel Metropolitan Morioka  

ทิวทัศน์ริมชายฝั่งและโอโมเตนาชิแบบญี่ปุ่น

วิวจากบนรถไฟ TOHOKU EMOTION (เครดิตรูปภาพ: JR East / Akio Kobori)

การเดินทางขาออกจากฮาชิโนเฮะไปคุจิใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทำให้คุณมีเวลามากพอที่จะรับประทานอาหารและเพลิดเพลินไปกับการนั่งรถไฟได้อย่างจุใจ นอกเหนือจากอาหารเลิศรสแล้ว วิวทิวทัศน์ของทะเลก็เป็นอีกไฮไลท์หนึ่งของ TOHOKU EMOTION ด้วย

การชมทิวทัศน์ของน้ำทะเลสีฟ้าสดใสยาวไกลไม่รู้จบและทักทายกับคนท้องถิ่นที่โบกมือให้คุณขณะกำลังรับประทานอาหารเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้เลยในร้านอาหารทั่วไป ขณะเคลื่อนตัวผ่านจุดชมวิว รถไฟจะลดความเร็วลงเพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพตรงหน้าและมีเวลาถ่ายภาพมากขึ้นด้วย! การเดินทางครั้งนี้ช่างเยี่ยมยอดและเป็นหนึ่งในประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมา ฉันหวังว่าจะได้รับประทานอาหารกลางวันบนรถไฟนี้อีกสักครั้งค่ะ!

อาสาสมัครกำลังโบกธง (ซ้าย) พนักงานกำลังโบกมือลาที่สถานีฮาชิโนเฮะ (ขวา) (เครดิตรูปภาพ: JR East / Akio Kobori (left) and Carissa Loh (right))

TOHOKU EMOTION วิ่งไปตามชายฝั่งซันริกุบนทางรถไฟสายท้องถิ่นคือสาย JR Hachinohe จากฮาชิโนเฮะถึงคุจิ ตลอดเส้นทางคุณจะเห็นอาสาสมัครในพื้นที่ถือธงต้อนรับคุณ รวมถึงชาวบ้านที่โบกมือขณะรถไฟแล่นผ่านบ้านของพวกเขา! จิตวิญญาณของคนญี่ปุ่นที่เรียกว่า โอโมเตนาชิ (おもてなし การต้อนรับอย่างอบอุ่น) มีให้เห็นทุกหนแห่ง และสามารถสัมผัสได้จริงในพื้นที่ชนบทอันอบอุ่น ที่ชานชาลาก่อนออกเดินทางจากฮาชิโนเฮะ พนักงานรถไฟจะถือป้ายที่เขียนว่า "Bon voyage, have a nice trip" เพื่อร่ำลานักท่องเที่ยวด้วย

ดีไซน์ของรถไฟ

ด้านในรถไฟ TOHOKU EMOTION (เครดิตรูปภาพ: JR East)

รถไฟ TOHOKU EMOTION ประกอบด้วยตู้โดยสาร 3 ตู้คือ ตู้รับประทานอาหารแบบเปิดที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนกับร้านอาหาร, ตู้โดยสารแบบส่วนตัว (private compartment) สำหรับคุณและกลุ่มเพื่อนของคุณ และตู้ที่เป็นครัวแบบ live kitchen

• ตู้ที่ 1 เป็นตู้โดยสารแบบส่วนตัว (private compartment) ประกอบด้วย 7 ส่วนที่กั้นออกจากกัน โดยแต่ละส่วนมี 4 ที่นั่ง แต่ละส่วนมีประตูและมีหน้าต่างของตัวเองที่มองเห็นวิวทะเลได้
• ตู้ที่ 2 เป็นห้องครัวแบบ live kitchen ที่คุณสามารถชมเชฟเตรียมอาหารได้ด้วยตาของคุณเอง!
• ตู้ที่ 3 เป็นห้องรับประทานอาหารแบบเปิด มีที่นั่งทั้งหมด 20 ที่

แม้แต่การตกแต่งภายในยังเต็มไปด้วยงานหัตถกรรมท้องถิ่นมากมาย ดังนี้

• ในห้องโดยสารแบบส่วนตัวมีผ้าที่เรียกว่า ซาชิโกะ โอริ จากจังหวัดฟุคุชิมะ
• กำแพงเคาน์เตอร์ห้องครัวทำจากเหล็กนัมบุ จากจังหวัดอิวาเตะ
• พื้นห้องอาหารตู้ 3 มีงานเย็บปักที่เรียกว่า โคงิน ซาชิ จากจังหวัดอาโอโมริ

บุฟเฟ่ต์ของหวานระหว่างการเดินทางขาเข้า (คุจิ → ฮาชิโนเฮะ)

เซ็ทของหวานบนรถไฟ TOHOKU EMOTION (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)

เตรียมกระเพาะของหวานของคุณไว้ให้ดี เพราะการเดินทางขาเข้าจากคุจิสู่ฮาชิโนเอะจะมีบุฟเฟ่ต์ของหวานในช่วงบ่ายให้บริการ แรกสุดคุณจะได้รับเครื่องดื่มตามใจคุณ ตามด้วยเซ็ทของหวานที่มีขนม 3 ชนิด ซึ่งรวมถึงไวท์ช็อกโกแลต TOHOKU EMOTION ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษด้วย หลังจากที่รับประทานเสร็จแล้ว คุณก็สามารถเดินไปตักบุฟเฟต์เองได้เลยที่ตู้ 2 ซึ่งจะเปิดให้บริการไปจนก่อนที่รถไฟจะเดินทางถึงฮาชิโนเฮะประมาณ 30 นาที

บุฟเฟ่ต์ของหวานบนรถไฟ TOHOKU EMOTION (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)

บุฟเฟ่ต์นี้ประกอบด้วยขนมเค้ก ทาร์ต และเยลลี่มากมายหลายประเภท สำหรับใครที่ไม่ถนัดของหวานก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีขนมคาวที่ใช้วัตุถุดิบจากโทโฮคุอย่างเช่น ชีส แฮม และซีฟู้ด ให้เลือกด้วย! ด้านเครื่องดื่มก็มีให้สั่งเพิ่มได้ตลอด สำหรับเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ขอแนะนำน้ำแอปเปิ้ลของจังหวัดที่ปลูกแอปเปิ้ลมากที่สุดในญี่ปุ่นอย่างอาโอโมริ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีให้บริการด้วยเช่นกัน โดยจะมีมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เหลืออยู่จากการเดินทางขาออก   

มื้อนี้แสนสุขสันต์ (เครดิตรูปภาพ: JR East / Akio Kobori)

การเดินทางจากคุจิไปยังฮาชิโนเฮะใช้เวลาน้อยกว่า 2 ชั่วโมงเล็กน้อย ทำให้คุณมีเวลามากพอที่จะเพลิดเพลินไปกับของหวาน ชมวิวนอกหน้าต่าง ถ่ายภาพสวยๆ และพูดคุยกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงอย่างสนุกสนาน

การชมวิว

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนั่งรถไฟ TOHOKU EMOTION แบบไป-กลับ (คอร์สอาหารกลางวัน + บุฟเฟ่ต์ของหวาน) โดยออกเดินทางจากสถานีฮาชิโนะเฮะและกลับมาที่สถานีเดิม แต่ถ้าคุณอยากจะใช้เวลาท่องเที่ยวริมชายฝั่งซันริคุ ก็สามารถนั่งรถไฟแบบเที่ยวเดียวแล้วลงไปเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวเด่นๆ ในพื้นที่ที่มีเสน่ห์นี้ได้เช่นกัน

ศาลเจ้าคาบุชิมะ (蕪島神社)

• เดิน 15 นาทีจากสถานี JR Same (鮫駅)

ศาลเจ้าคาบุชิมะ (เครดิตรูปภาพ: 青森県)

ศาลเจ้าคาบุชิมะเป็นศาลเจ้าชินโตที่ตั้งอยู่บนสุดของเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่าคาบุชิมะ เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งทำรังของนกนางนวลหางดำ (うみねこ อุมิเนโกะ) ทำให้คุณสามารถเห็นฝูงนกนับพันตัวรวมกลุ่มกันอยู่รอบๆ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม ศาลเจ้าคาบุชิมะถูกไฟไหม้เผาทำลายลงในปี 2015 แต่เพิ่งจะผ่านการบูรณะและเปิดใหม่เมื่อเดือนมีนาคมปี 2020 ที่ผ่านมา

ชายหาดโคโซเดะ (小袖海岸)

• ขับรถจากสถานีคุจิ ประมาณ 20 นาที (久慈駅)

นักดำน้ำอามะ (เครดิตรูปภาพ: 岩手県観光協会)

คุจิเป็นที่รู้จักจากละครเช้าของช่อง NHK เรื่อง อามะจัง ที่ออกอากาศเมื่อปี 2013 เกี่ยวกับอามะแห่งชายฝั่งโคโซเกะ อามะ (海女) คือนักดำน้ำหญิงที่ลงไปงมหอยเป๋าฮื้อ หอยเม่น และหอยชนิดอื่นๆ ใต้ทะเล คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวของหน้าผาที่สวยงามตลอดการขับรถไปยังชายฝั่งโคโซเดะได้ด้วย

วิธีโดยสารรถไฟ

การโดยสารรถไฟ TOHOKU EMOTION เป็นแบบแพ็กเกจท่องเที่ยว เนื่องจากมื้ออาหารเป็นประสบการณ์หลักที่คุณจะได้รับจากการเดินทาง และไม่สามารถโดยสารฟรีได้ด้วย Japan Rail Pass, JR EAST PASS หรือตั๋วรถไฟอื่นๆ แพ็กเกจที่จำหน่ายจะประกอบด้วย

• ค่ารถไฟ
• ที่นั่งแบบระบุที่นั่ง
• คอร์สอาหารกลางวัน หรือ บุฟเฟ่ต์ของหวาน
• เครื่องดื่มไม่อั้น (แอลกอฮอล์** และไม่แอลกอฮอล์)

*เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โซนบริการตนเองและบุฟเฟ่ต์บนรถไฟภัตตาคาร เช่น Fruitea Fukushima และ TOHOKU EMOTION จะเปลี่ยนมาเป็นการเสิร์ฟให้ลูกค้าตามรายการที่ท่านสั่ง

**เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีให้บริการในการเดินทางเที่ยวขาออก ส่วนการเดินทางเที่ยวขาเข้าจะขึ้นอยู่กับปริมาณเครื่องดื่มที่มีเหลืออยู่ กรุณาสอบถามกับพนักงานเสิร์ฟหากคุณต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการเดินทางเที่ยวขาเข้า

ราคาแพ็กเกจโดยสารรถไฟ TOHOKU EMOTION:

• คอร์สอาหารกลางวันจากฮาชิโนเฮะไปคุจิ 7,900 เยน
• บุฟเฟ่ต์ของหวานจากคุจิไปฮาชิโนเฮะ 4,500 เยน
• การเดินทางแบบไปกลับ (ฮาชิโนเฮะ → คุจิ → ฮาชิโนเฮะ) 11,900 เยน

นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมค่าห้องส่วนตัว 3,000 เยนต่อห้อง น่าเสียดายที่เราไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารคนเดียว และในการจองจำเป็นต้องจองตั้งแต่ 2 ที่ขึ้นไปเท่านั้น

รถไฟ TOHOKU EMOTION ให้บริการ 4 วันต่อสัปดาห์ในวันศุกร์ถึงวันจันทร์ วันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) เวลาคอร์สอาหารกลางวันสำหรับขาออกคือประมาณ 11.05~12.56 น. และเวลาบุฟเฟ่ต์ของหวานสำหรับขาเข้าคือประมาณ 14.15~16.07 น.

คุณสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ JR East View Travel Service Center ทั่วญี่ปุ่นฝั่งตะวันออก โดยที่สถานีใหญ่ๆ อย่างสถานีโตเกียว สถานีชินจูกุ และสถานีอุเอโนะ จะมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้คอยช่วยเหลือเรื่องการสำรองที่นั่งให้คุณ คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOHOKU EMOTION ในภาษาอังกฤษ หรือดูข้อมูลในภาษาญี่ปุ่นได้ที่นี่

การเดินทาง

ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) แบบใหม่และพื้นที่ที่ตั๋วครอบคลุม (เครดิตรูปภาพ: JR East)

หากคุณต้องการเดินทางไปภูมิภาคโทโฮคุเพื่อนั่งรถไฟ TOHOKU EMOTION และท่องเที่ยวในจังหวัดอาโอโมริและอิวาเตะที่อยู่ทางตอนเหนือ ขอแนะนำ JR EAST PASS (Tohoku area) ตั๋ว Pass ราคาย่อมเยาที่ปลดล็อคการเดินทางด้วยรถไฟแบบไม่จำกัดในเส้นทาง JR East (รวมถึงชินกันเซ็นด้วย) โดยคุณสามารถนั่งรถไฟรอบโทโฮคุได้เป็นเวลา 5 วันติดกัน ด้วยราคาเพียง 20,000 เยน ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถช่วยคุณประหยัดค่าโดยสารรถไฟได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณยังสามารถจองที่นั่งบนรถชินกันเซ็น รถด่วนพิเศษบางขบวน และ Joyful Train ล่วงหน้าได้นานถึง 1 เดือนผ่านช่องทางออนไลน์ที่นี่ได้ฟรี ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถใช้งานได้กับประตูอัตโนมัติ และผู้ถือพาสปอร์ตต่างประเทศที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋ว Pass นี้ได้เช่นกัน

หมายเหตุ: ความเปลี่ยนแปลงในข้อกำหนดและราคาของตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2021 เป็นต้นไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

เครดิตรูปภาพส่วนหัวบทความ: JR East / Carissa Loh
Translated by ANNGLE

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ซันริคุ บทที่1 : 3 เหตุผลที่เราควรไปเยี่ยมชมแนวโขดหินชายฝั่งแห่งนี้
• เที่ยวไปกินขนมหวานไปบนรถไฟคาเฟ่: FruiTea Fukushima
• จากนีงาตะสู่โชไน: นั่งรถไฟเลียบทะเลญี่ปุ่นไปกับ KAIRI